ปัจจุบันโรคหลอดเลือดหัวใจถือเป็นโรคที่พบได้บ่อยขึ้น การรักษาประกอบไปด้วยการรักษาผ่านสายสวน (PCI) หรือการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือด (Bypass) ข้อดีของการรักษาผ่านสายสวน คือระยะการฟื้นตัวหลังการแก้ไขจะรวดเร็วกว่าการทำผ่าตัด
นพ.วิชัย จิรโรจน์อังกูร อายุรแพทย์หัวใจ รพ.หัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เกิดจากการที่มีคราบไขมัน (Plaque) เกิดขึ้นในผนังหลอดเลือด ส่งผลทำให้การไหลเวียนเลือดภายในเส้นเลือดลดลงจนเป็นผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จนเกิดอาการเจ็บหน้าอกเวลาออกกำลังหรือมีอาการเหนื่อยง่ายขึ้น การรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบผ่านสายสวน (PCI) เป็นการรักษาเส้นเลือดตีบโดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด กระบวนการรักษาประกอบไปด้วยการเจาะเส้นเลือดที่ข้อมือหรือเส้นเลือดที่บริเวณขาหนีบ การใส่สายสวนผ่านเส้นเลือดแดงจากบริเวณดังกล่าวย้อนขึ้นไปเส้นเลือดแดงที่ออกจากหัวใจ แล้วทำการฉีดสารทึบแสงร่วมกับการถ่ายภาพ X-ray เพื่อดูลักษณะความผิดปกติของเส้นเลือดของหัวใจทั้งซ้ายและขวา เมื่อพบตำแหน่งที่ผิดปกติจึงทำการแก้ไขโดยการผ่านลวดนำทางและใช้สายสวนที่มีบอลลูนตามเข้าไปในตำแหน่งที่ตีบแล้วทำการขยายหลอดเลือด เมื่อเส้นเลือดขยายได้ดีแล้ว จึงสอดขดลวด (Stent) เข้าไปเพื่อเป็นโครงค้ำยันไม่ให้ผนังหลอดเลือดยุบตัว กระบวนการรักษาดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนปกติในการรักษาหลอดเลือดหัวใจผ่านสายสวน (Simple PCI)
แต่ในบางกรณี ผนังหลอดเลือดมีหินปูนมาเกาะร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูนไม่สามารถทำได้ จึงต้องทำการกรอเอาหินปูนบางส่วนออกไปก่อน (Rotablator) ซึ่งถือเป็นการรักษาที่ซับซ้อน (Complex PCI) และเพิ่มความเสี่ยงในการรักษา แต่จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาด้วยสายสวนดีขึ้น ในบางกรณีเส้นเลือดมีการอุดตันโดยสิ้นเชิง การรักษาผ่านสายสวนมีโอกาสสำเร็จต่ำ แต่อุปกรณ์ที่ใช้รวมถึงเทคนิคการแก้ไขในปัจจุบันสามารถทำได้สะดวกและมีผลสำเร็จมากขึ้น โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ซึ่งผลหลังการรักษาที่ดี ประกอบกับการรับประทานยาสม่ำเสมอ การควบคุมปัจจัยเสี่ยง การออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยชะลอการกลับมาเป็นซ้ำของโรคได้
โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ มีความมุ่งมั่นในการวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจที่มีความซับซ้อน เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการเส้นเลือดอุดตันเรื้อรัง เส้นเลือดตีบแบบมีหินปูนเกาะผนังหลอดเลือดจำนวนมาก โดยอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์เป็นสำคัญ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจ หรือ Coronary Artery Calcium (CAC) คือการตรวจวัดปริมาณแคลเซียมที่สะสมในผนังหลอดเลือดหัวใจ ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หากผลการตรวจระบุคราบหินปูนสะสมในปริมาณสูง ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดแดงแข็ง นำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้ Calcium Score เกิดจากอะไร การเสื่อมสภาพของหลอดเลือดตามธรรมชาติในผู้ป่วยแต่ละราย
รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท 100% โดยไม่ต้องผ่าตัด
—
รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท 100% โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่ศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมง กับโรงพยาบาลรามคำแหง โ...
ม.มหิดล - Duke University วิจัยการตรวจ MRI ในโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเรื้อรัง
—
อาการเจ็บหน้าอกเป็นสัญญาณเตือนของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดที่เกิดจากหลอ...
หญิงวัยหมดประจำเดือน เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
—
"โดยปกติผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจตีบมากกว่าผู้หญิงในวัยอื่น และเพ...
เจ็บหน้าอกแบบไหน? ใช่สัญญาณเตือน "หลอดเลือดหัวใจตีบ"
—
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบในระยะแรกมักไม่แสดงอาการผิดปกติ จนกระทั่งหลอดเลือดเริ่มตีบมากขึ้น กล้ามเนื้อหัว...
ออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้หัวใจ
—
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทานอาหารดีมีประโยชน...
ตรวจหาปริมาณแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ ได้แล้วที่โรงพยาบาลธนบุรี 2
—
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยอย่างต่อเนื่องอาการที่สังเกตได้ คื...