นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในไทยไตรมาส 2 ปี 2563 คาดว่า จะหดตัวลึกที่สุดของปี โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองของไทยและต่างประเทศท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าที่หดตัวลงอย่างมาก เช่นเดียวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ซบเซาลง ซึ่งทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาที่ระดับ 0.50% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และเริ่มใช้มาตรการด้านการเงินและสินเชื่อ รวมถึงวางแนวทางสำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงิน
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ธนาคารและบริษัทย่อยถือปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน (รวมถึง TFRS 9) ซึ่งมีผลต่อการจัดประเภทรายการใหม่ การวัดมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินและหนี้สินทางการเงิน การตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน และการบัญชีป้องกันความเสี่ยง โดยปรับปรุงผลกระทบสะสมจากการปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าวเป็นครั้งแรกกับกำไรสะสม ณ วันที่ 1 มกราคม 2563 รวมทั้งได้แสดงรายการในงบการเงินตามข้อกำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งงบการเงินและอัตราส่วนทางการเงินบางรายการไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับปีก่อน
ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับงวดครึ่งปีแรกปี 2563 จำนวน 9,550 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2563 จำนวน 2,175 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานสำหรับงวดครึ่งปีแรกปี 2563 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดครึ่งปีแรกปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้จำนวน 45,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 2,805 ล้านบาท หรือ 6.50% แต่ด้วยการคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ประกอบกับมาตรการของทางการที่ให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ยังคงต้องมีการติดตามดูแลคุณภาพหนี้อย่างใกล้ชิด ธนาคารและบริษัทย่อยจึงใช้หลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss) เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 16,937 ล้านบาท หรือ 111.97% ทำให้กำไรสุทธิสำหรับงวดครึ่งปีแรกปี 2563 ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 10,423 ล้านบาท หรือ 52.18% แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 4,142 ล้านบาท หรือ 8.12% ส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของสินเชื่อ รวมทั้งการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรับเกี่ยวกับการให้สินเชื่อด้วยวิธีดอกเบี้ยที่แท้จริง (EIR) ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม TFRS 9 ประกอบกับการปรับลดอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินลง ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.34% นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 1,812 ล้านบาท หรือ 7.00% ส่วนใหญ่เกิดจากค่าธรรมเนียมรับเกี่ยวกับการให้สินเชื่อลดลงจากการเปลี่ยนไปแสดงเป็นรายได้ดอกเบี้ย และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลงจำนวน 475 ล้านบาท หรือ 1.41% ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายกิจกรรมทางการตลาด ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจัดการหนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 42.00%
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี 2563 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้จำนวน 25,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจำนวน 4,806 ล้านบาท หรือ 23.37% โดยธนาคารและบริษัทย่อยพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่ม จำนวน 8,320 ล้านบาท หรือ 70.08% จากไตรมาสก่อน ทำให้กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2563 อยู่ที่จำนวน 2,175 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนจำนวน 5,200 ล้านบาท หรือ 70.50% เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจำนวน 1,000 ล้านบาท หรือ 3.56% เกิดจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อ และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากเงินรับฝาก เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.22% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 4,121 ล้านบาท หรือ 41.33% ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับมูลค่ายุติธรรม (Mark to market) ของเงินลงทุนซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด นอกจากนี้ ภายใต้การหดตัวของเศรษฐกิจซึ่งมีผลต่อรายได้ของธนาคาร ธนาคารจึงพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลงจำนวน 1,685 ล้านบาท หรือ 9.64% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) ในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 38.36%
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,585,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 291,911 ล้านบาท หรือ 8.86% ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของสินเชื่อ และการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินสุทธิ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 อยู่ที่ระดับ 3.92% โดยธนาคารได้มีการติดตาม ให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งควบคุมดูแลคุณภาพสินเชื่อของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ขณะที่สิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 3.65% อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 อยู่ที่ระดับ 155.68% โดยสิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 148.60% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 อยู่ที่ 18.09% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่1 อยู่ที่ 15.38%
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตามที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัวชัดเจนขึ้นจากการเปิดประเทศ รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว และได้พิจารณาปรับอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) กลับมาที่ระดับปกติที่ 0.46% สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น และเพื่อ
กสิกรไทยฉลองการเปิดสาขานครโฮจิมินห์อย่างเป็นทางการ
—
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย (ที่ 1 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายพิพิธ เอนกนิธิ (ที่ 1 จากซ้าย)...
อีกก้าวสำคัญของ OR ร่วมกับ KTB และ AIS ในการขับเคลื่อนธุรกิจ Virtual Bank
—
OR และกลุ่มพันธมิตร (KTB และ AIS) พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจ Virtual Bank หลังจากได...
แอสเซนด์ มันนี่ ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งเวอร์ชวลแบงก์อย่างเป็นทางการ เดินหน้ามอบโอกาสทางการเงินที่เท่าเทียม ครอบคลุม และยั่งยืน สำหรับคนไทยทุกคน
—
แอสเซนด์ มั...
TK พร้อมรับการกำกับ ธปท. ชี้หากหลักเกณฑ์เช่าซื้อใหม่เข้มเกิน เสี่ยงผู้บริโภคหันสู่หนี้นอกระบบ เสนอ 3 แนวทาง "คุ้มครอง-เข้าถึง-ยั่งยืน"
—
บริษัท ฐิติกร จำก...
กรมลดโลกร้อน ร่วมเปิดตัว 'Thailand Taxonomy 2.0' ยกระดับมาตรฐานเศรษฐกิจสีเขียว ขับเคลื่อนไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน
—
คณะทำงานขับเคลื่อนการกำหนดนิยามและจัดกลุ่...
3 หน่วยงานกำกับดูแล ร่วมจัดทำโครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer
—
เดินหน้าส่งเสริมการให้ข้อมูลการเงิน การลงทุน และประกันภัย อย่างมีความรับผิดชอ...
กสิกรไทยแต่งตั้งกรรมการใหม่ 2 คน เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
—
ธนาคารกสิกรไทยประกาศแต่งตั้ง นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย และนางสาวจิตสุภา วัชรพล เข้าเป็นคณะ...