สคร.11 ร่วมมือเครือข่าย พัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อรองรับการจัดตั้งสถานกักโรคแห่งรัฐ ป้องกันโควิด 19 อย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สคร.11 ร่วมมือเครือข่าย พัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อรองรับการจัดตั้งสถานกักโรคแห่งรัฐ ป้องกันโควิด 19 อย่างยั่งยืน

สคร.11 ร่วมมือเครือข่าย พัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อรองรับการจัดตั้งสถานกักโรคแห่งรัฐ ป้องกันโควิด 19 อย่างยั่งยืน

นายแพทย์พิศิษฐ์  ศรีประเสริฐ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการป้องกันควบคุมโรค เพื่อรองรับการจัดตั้งสถานกักกันโรคแห่งรัฐ พื้นที่เขตสุขภาพที่ 11 โดยมีแพทย์หญิงศิริลักษณ์  ไทยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวรายงาน และนายณรงค์ วุ่นซิ้ว       ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับ ณ ห้องประชุมโรงแรมดารา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยวัตถุประสงค์การจัดประชุมครั้งนี้เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการบริหารจัดการสถานกักโรคแห่งรัฐแบบบูรณาการให้ได้ตามมาตรฐาน ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลเอกชน และ สมาคมโรงแรม รวมทั้งสิ้น 90 คน

นายแพทย์พิศิษฐ์  ศรีประเสริฐ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ค.63 ทั่วโลกมีรายงานผู้ป่วย 11.5 ล้านคน เสียชีวิต 5.35 แสนคน ประเทศไทยมีผู้ป่วย 3,195 คน เสียชีวิต 58 คน ปัจจุบันไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศไทย โดยมีรายงานพบผู้ป่วยเฉพาะที่อยู่ในสถานกักกันโรคที่มาจากต่างประเทศเท่านั้น ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดจัดตั้งสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐ เพื่อรองรับกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการเข้มข้นให้ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคน เมื่อผ่านการตรวจคัดกรองแล้วจะต้องถูกกักตัวในสถานกักกันโรคแห่งรัฐเพื่อการเฝ้าระวังป้องกันโรคจนครบ 14 วัน

นายแพทย์พิศิษฐ์ กล่าวเพิ่ม ปัจจุบันเขตสุขภาพที่ 11 มีสถานกักกันโรคแห่งรัฐจำนวน 50 แห่ง รองรับผู้กักกันได้ทั้งหมด 1,589 ราย  (ข้อมูล ณ วันที่  7 ก.ค.63 ) ดังนั้นจึงต้องเตรียมความพร้อมให้สถานกักโรคแห่งรัฐทุกแห่งสามารถดำเนินการได้ตามมาตรฐานเดียวกัน ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พรก.ฉุกเฉิน) ในระยะต่อไป


ข่าวสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่+ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตวันนี้

ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชน ระวัง โรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขัง หลังน้ำลด ไม่ควรเดินลุยน้ำ ย่ำดินโคลน พื้นที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แนะสวมรองเท้าบูททุกครั้ง หากมีไข้เฉียบพลันหลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ มีอาการปวดศีรษะ ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขา อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "เลปโตสไปร่า" (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรค มือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กเล็ก — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนระวังเด็กเล็กป่วยโรคมือ เท...

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้...