กอนช.ระดมทุกหน่วยสกัดอุปสรรคน้ำไหลเข้าเขื่อนใหญ่ หวังเร่งดึงน้ำเข้าช่วงฝนมากระยะ 1-2 เดือนนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เตรียมถกหน่วยเกี่ยวข้องเร่งแผนเก็บน้ำใต้ดิน-น้ำผิวดิน ประเดิมทำแผนจูงน้ำลงเขื่อนใหญ่ 36 แห่ง หลังประเมินช่วงฝนมากจะถึงแค่กลางกันยายนนี้

กอนช.ระดมทุกหน่วยสกัดอุปสรรคน้ำไหลเข้าเขื่อนใหญ่ หวังเร่งดึงน้ำเข้าช่วงฝนมากระยะ 1-2 เดือนนี้

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานด้านอำนวยการภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติครั้งที่ 1/2563 ว่า ที่ประชุมได้มีการติดตามเร่งรัดติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามที่ได้รับการจัดสรรงบกลางจำนวน 2 โครงการ คือ การแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง และการเก็บกักน้ำในฤดูฝนนี้ ซึ่งในภาพรวมพบว่ายังไม่แล้วเสร็จตามแผน  มีความก้าวหน้าประมาณ 70-80 % ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) มีความห่วงใยว่าแผนงานโครงการต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามเป้าหมาย ทั้งการช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ และการกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ ที่ประชุมจึงได้เร่งรัดทุกหน่วยรายงานปัญหาอุปสรรค รวมถึงแผนการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนเพื่อให้แล้วเสร็จตามแผนโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ยังได้หารือแนวทางการเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่   ที่รับผิดชอบโดยกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เนื่องจากการคาดการณ์แนวโน้มฝนจะเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ไปจนถึงกลางเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นช่วงที่ต้องเร่งเก็บกักน้ำเข้าอ่างฯ เพื่อสำรองไว้เป็นน้ำต้นทุนในฤดูแล้งหน้าให้มากที่สุดให้ได้ แต่ปัจจุบันกลับพบว่าปริมาณน้ำยังไหลเข้าอ่างฯ ไม่มากนัก โดยมีเขื่อนขนาดใหญ่ถึง 33 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ดังนั้น เบื้องต้นที่ประชุมจะมีการมอบหมายหน่วยงานที่รับผิดชอบเขื่อนขนาดใหญ่ทุกแห่ง สำรวจตรวจสอบอุปสรรคที่ทำให้น้ำไม่ไหลเข้าอ่างฯ รวมถึงเสนอแนวทางการดึงน้ำ จูงน้ำ และเร่งหารือร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้แก่ จิสด้า กองทัพอากาศ ที่มีการนำเทคโนโลยีสำรวจทางน้ำเข้าต่างๆ เพื่อร่วมกันกำหนดแผนเร่งด่วนในการเก็บกักน้ำฝนที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นประมาณ 1 – 2 เดือนนี้ ให้ได้มากที่สุด ควบคู่ไปกับแผนการเก็บกักน้ำใต้ดินทั้งการเติมน้ำใต้ดิน โดยระบบบ่อบาดาลและธนาคารน้ำใต้ดินด้วย กอนช.ระดมทุกหน่วยสกัดอุปสรรคน้ำไหลเข้าเขื่อนใหญ่ หวังเร่งดึงน้ำเข้าช่วงฝนมากระยะ 1-2 เดือนนี้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังติดตามความก้าวหน้า 8 มาตรการ เตรียมความพร้อมรับมือช่วงฤดูฝนปี 2563 อาทิ การกำจัดผักตบชวาเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ พบว่า จากการสำรวจเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมมีปริมาณผักตบชวาประมาณ 3 แสนตัน หลังจาก 5 หน่วยงานหลัก เร่งรัดดำเนินการสามารถกำจัดผักตบชวาได้มากกว่า 5 แสนตัน ยังคงเหลืออีก 1 แสนตัน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ การจัดทำบัญชีเครื่องจักรเครื่องมือของหน่วยงานต่างๆ ที่พร้อมใช้งานเป็นรายจังหวัด ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการรวบรวมให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ การเตรียมพื้นที่แก้มลิงรองรับน้ำหลาก อาทิ พื้นที่ทุ่งบางระกำที่มีการเตรียมพื้นที่เก็บกักน้ำทั้งผิวดินและน้ำใต้ดิน รวมถึงการปรับปรุงพัฒนาบึงสีไฟ จ.พิจิตร ให้สามารถรองรับน้ำหลากฤดูฝนปี 2563 เพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำได้รวม 12 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมเจ้าท่าได้ดำเนินการใกล้แล้วเสร็จตามแผน ยังเหลืออีกประมาณ 14% โดยเฉพาะการขนย้ายวัสดุและดินที่ขุดลอก ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนกันยายนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นกรมชลประทานจะสามารถลำเลียงน้ำเข้าไปเก็บกักในบึงสีไฟได้ตั้งแต่ 15 สิงหาคมนี้ โดยมีเป้าหมายการเก็บกักน้ำไม่น้อยกว่า 80% ของความจุ ซึ่งบึงสีไฟจะเป็นหนึ่งตัวอย่างการบำรุงรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติให้แก่พื้นที่รองรับน้ำหลากพื้นที่อื่น ๆ ด้วย กอนช.ระดมทุกหน่วยสกัดอุปสรรคน้ำไหลเข้าเขื่อนใหญ่ หวังเร่งดึงน้ำเข้าช่วงฝนมากระยะ 1-2 เดือนนี้

“กอนช.จะมีการติดตามประเมินสถานการณ์ สภาพอากาศ แนวโน้มฝน ปริมาณน้ำในอ่างฯ ในช่วงฤดูฝนนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทบทวนมาตรการป้องกัน ความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิดทุกสัปดาห์ โดยปริมาณฝนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่ามีปริมาณฝนค่อนข้างมาก แต่ด้วยความชื้นในดินจากสภาวะแล้งต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำเข้าอ่างฯ เก็บน้ำยังมีปริมาณน้อย แต่จากการคาดการณ์ของ 2 หน่วยงาน คือ กรมอุตุนิยมวิทยาและสสน. สอดคล้องตรงกันว่า ช่วงที่จะเก็บกักน้ำฝนได้เพิ่มขึ้นแต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ คือในช่วงเดือนกรกฎาคม - กลางเดือนกันยายนเท่านั้น จึงต้องเร่งทุกวิธีการเพื่อเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งประเด็นที่มีข้อกังวลที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่แบบปี 2554 ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจากแหล่งเก็บกักน้ำต่างๆ ยังมีพื้นที่ว่างในการเก็บกักน้ำอีกมาก แต่ก็ต้องไม่ประมาทที่จะต้องติดตามแนวโน้มการก่อตัวขอพายุที่ยังคงคาดการณ์ว่าในปีนี้น่าจะเกิดประมาณ 1-2 ลูก ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนนี้ด้วย ที่อาจจะส่งผลกระทบในบางพื้นที่ได้เช่นกัน” ดร.สมเกียรติ กล่าว


ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สทนช. จับมือเขื่อนภูมิพล ปรับลดการระบายน้ำบรรเทาท่วมภาคกลาง

สทนช. ประชุมด่วนวางแผนปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล หลังคาดฝนภาคเหนือจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นวันพรุ่งนี้ จาก 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และวันถัดไปปรับลดอีกเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อลดมวลน้ำที่ไหลลงสู่ภาคกลาง วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2568) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ

สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้ สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วย...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....