ยูพีเอส เผยความสำเร็จด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม ในรายงานความยั่งยืนประจำปีฉบับที่ 18

14 Jul 2020

ยูพีเอส เผยรายงานความยั่งยืนประจำปีฉบับที่ 18 ในหัวข้อ “เดินหน้าเร่งแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ( Accelerating Sustainable Solutions )” โดยมาในรูปแบบของรายงานดิจิทัลที่ผสานความอินเทอร์แอคทีฟอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบุรายละเอียดการดำเนินงานที่เกิดขึ้นตลอดปี 2562 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพิชิตเป้าหมายด้านความยั่งยืนประจำปี 2563 และ 2568 โดยสอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร

ยูพีเอส เผยความสำเร็จด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม ในรายงานความยั่งยืนประจำปีฉบับที่ 18

ความสำเร็จที่น่าจับตามองที่สุดในรายงานดังกล่าว คือการที่ยูพีเอสสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4 ประการ ได้ล่วงหน้าก่อนกำหนดหนึ่งปี ได้แก่

  • การบริจาคเพื่อการกุศล 123.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ร่วมทำงานอาสาสมัครเพื่อสังคมเป็นเวลารวม 21.7 ล้านชั่วโมง
  • ปลูกต้นไม้ 15.4 ล้านต้น
  • มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ลดลง 3.1%

“ยูพีเอสกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนโดยมุ่งหวังที่จะแก้ไขผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พัฒนาโครงการด้านความยั่งยืนระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนที่เราอาศัยและปฏิบัติงาน” รัสเซล รี้ด กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทยและเวียดนามกล่าว พร้อมเสริมว่า “เป้าหมายดังกล่าวถูกนำมาบูรณาการเข้ากับการทำงานในทุกภาคส่วนของยูพีเอส ประเทศไทย นับตั้งแต่การแสวงหาวิธีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ไปจนถึงส่งเสริมให้ลูกค้าและพนักงานร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนไปด้วยกัน เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่โครงการชดเชยคาร์บอนของยูพีเอส ได้เข้าไปมีบทบาทช่วยเหลือระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานชลเจริญในจังหวัดชลบุรี การที่ธุรกิจต่างๆ เข้าร่วมโครงการชดเชยคาร์บอนไปกับยูพีเอส ทำให้พวกเขาไม่เพียงแต่สร้างกระบวนการขนส่งที่ยั่งยืนได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนไปด้วยกันอีกด้วย”

โครงการชดเชยคาร์บอนของยูพีเอส (UPS carbon neutral) จัดทำขึ้นเพื่อถ่วงดุลผลกระทบของคาร์บอนอันมีสาเหตุมาจากการขนส่ง โดยใช้วิธีการจัดซื้อการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) ที่ได้รับการรับรองมาทดแทน กล่าวคือ ผู้ส่งจะชำระค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยจำนวนหนึ่งเพื่อชดเชยผลกระทบของคาร์บอนที่เกิดจากการจัดส่งพัสดุ ยูพีเอสยังได้มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านโครงการระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานชลเจริญ โดยเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยมาจากกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลังให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อนเพื่อใช้ในโรงงานและส่งให้กับเครือข่ายไฟฟ้าแห่งชาติ โครงการดังกล่าวสามารถลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้กว่า 37,000 เมตริกตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนนลงถึง 7,000 คัน

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ยูพีเอสลงทุนกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อส่งเสริมพลังงานทางเลือก เทคโนโลยียานยนต์ที่ทันสมัย และโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุน ปัจจุบัน ยูพีเอส เป็นผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการขนส่ง และมียานพาหนะสำหรับการขนส่งที่ใช้พลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีที่ทันสมัยรวมกว่า 10,300 คัน ยูพีเอสวางแผนที่จะจัดซื้อรถบรรทุกที่ใช้ก๊าซธรรมชาติกว่า 6,000 คันเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ในการให้บริการทั่วโลกภายในปี 2022 สำหรับในประเทศไทย ประมาณ 25% ของยานพาหนะทั้งหมดที่ยูพีเอสใช้ในการให้บริการนั้นขับเคลื่อนโดยพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ และยานยนต์จำนวนเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยยานยนต์รุ่นใหม่ที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่าภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ ยูพีเอสยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุน ด้วยการจัดทำรายงานคณะกรรมการว่าด้วยมาตรฐานทางบัญชีความยั่งยืน (Sustainability Accounting Standards Board: SASB) ฉบับแรกขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบข้อมูลของบรรดาบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวก ตลอดจนตอกย้ำความมุ่งมั่นของยูพีเอสที่จะกำหนดแนวทางธุรกิจที่สำคัญให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมไปถึงโครงการเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

ความสำเร็จในการพิชิตเป้าหมายของมูลนิธิยูพีเอส

มูลนิธิยูพีเอส ได้ดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมมาโดยตลอด ด้วยการปฏิบัติงานร่วมกับโครงการความยั่งยืนต่างๆ ของบริษัทฯ และวันนี้ มูลนิธิยูพีเอส ได้ลุกขึ้นมาประกาศความสำเร็จในด้านการปลูกป่าและการทำงานของอาสาสมัครที่เป็นไปตามเป้าหมาย นั่นคือนับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา มูลนิธิฯ สามารถดำเนินการปลูกต้นไม้ไปได้แล้วกว่า 15.4 ล้านต้นใน 58 ประเทศ เพื่อเป็นแหล่งทรัพยากรอาหาร งาน ตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันภัยจากสภาพอากาศ ความแปรปรวนของภูมิอากาศ การกัดเซาะ และสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ให้แก่คนรุ่นหลัง

ขณะเดียวกัน ยูพีเอสก็สามารถบรรลุเป้าหมายในเรื่องการทำงานอาสาสมัครของพนักงาน ด้วยชั่วโมงการทำงานอาสาสมัครที่เพิ่มขึ้นถึง 60% ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งชั่วโมงอาสาสมัครดังกล่าวมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินสนับสนุนรวมกว่า 533 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรกว่าหลายพันแห่งทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย ยูพีเอส ได้ดำเนินการปฏิบัติงานอาสาสมัครทั้งหมด 3,000 ชั่วโมงในปี 2562 โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ทุ่มให้กับโครงการปลูกป่าของมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทยในจังหวัดจันทบุรี

ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ยูพีเอสได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียม ทางเชื้อชาติ ผ่านการระดมกำลังของบุคลากร และการร่วมมือกับเครือข่ายขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้กับสังคม โดยกิจกรรมที่ยูพีเอสดำเนินการ ได้แก่ เข้าร่วมสนับสนุนการออกกฎหมายต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชัง การมอบเงินทุนสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน การศึกษา ธุรกิจรายย่อย การพิทักษ์สิทธิ์ และการปฏิรูป พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะอุทิศชั่วโมงอาสาสมัครของพนักงานยูพีเอส 1 ล้านชั่วโมงเพื่อสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการให้คำปรึกษาและให้ความรู้ภายในชุมชนคนผิวสีที่ด้อยโอกาส

ในฐานะองค์กรที่เป็นผู้นำในด้านความยั่งยืน ยูพีเอสได้จัดทำรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนประจำปีมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 2546 และได้รับการรับรองจากบุคคลภายนอกทุกปีนับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ยูพีเอสดำเนินการประเมินประเด็นสำคัญ (Materiality Assessment) ครั้งแรกในปี 2554 และสานต่อหลักการด้านความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูลขององค์กรด้วยการจัดทำรายงานภาพรวมที่ครอบคลุม (Comprehensive) ตามกรอบการดำเนินงานมาตรฐาน GRI ทั้งนี้ ตารางเปิดเผยตัวชี้วัด GRI ซึ่งจัดทำแยกต่างหากและผ่านการรับรองโดยองค์กรภายนอกอย่าง Deloitte & Touche LLP ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการความยั่งยืน ข้อมูล และนโยบายของยูพีเอสไว้ทั้งหมด

เกี่ยวกับยูพีเอส

ยูพีเอส เป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจโลจิสติกส์ ด้วยโซลูชั่นต่าง ๆ ที่หลากหลายครบวงจรสำหรับการจัดส่งพัสดุภัณฑ์และคอนเทนเนอร์ บริการอำนวยความสะดวกสำหรับการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนการมุ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการบริหารโลกของธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยูพีเอสมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจให้มีความยั่งยืนมากขึ้น ทั้งต่อลูกค้า สิ่งแวดล้อม และชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลกที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ ยูพีเอสมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแอตแลนต้า และให้บริการในกว่า 220 ประเทศและเขตการปกครองต่าง ๆ ทั่วโลก ยูพีเอสได้รับรางวัล America’s Best Customer Service สำหรับบริการขนส่งสินค้าจากนิตยสารนิวส์วีค และแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในอุตสาหกรรมขนส่ง (Most Valuable Brand in Transportation) จากนิตยสาร Forbes และติดอันดับในรายชื่อ JUST 100 ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ดัชนีดาวน์โจนส์ด้านความยั่งยืน และ Harris Poll Reputation Quotient รวมทั้งการจัดอันดับและรางวัลที่ทรงเกียรติอื่น ๆ ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัท สามารถค้นหาได้ที่เว็บไซต์ ups.com หรือ pressroom.ups.com และบล็อกขององค์กรที่ ups.com/longitudes รวมถึงสามารถอ่าน UPS Horizons วารสารข่าวด้านความยั่งยืนของยูพีเอสได้ที่ ups.com/sustainabilitynewsletter ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมด้านความยั่งยืนของยูพีเอสได้ที่ ups.com/sustainability หรือรับข่าวสารโดยตรงจากยูพีเอสได้ที่ทวิตเตอร์ @UPS_News หรือสนใจใช้บริการขนส่งจากยูพีเอส ไปที่ ups.com/ship

เกี่ยวกับมูลนิธิยูพีเอส

ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2450 ยูพีเอสมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ร่วมดูแลรับผิดชอบต่อสังคมมาโดยตลอดด้วยการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนในระยะยาว มูลนิธิยูพีเอสก่อตั้งขึ้นในปี 2494 มีหน้าที่ในการส่งเสริมให้องค์กรมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและสนับสนุนชุมชนต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับโลก ในปี 2562 ยูพีเอสและพนักงาน ทั้งที่ปฏิบัติงานอยู่และที่เกษียณไปแล้ว ได้ร่วมระดมเงินกว่า 123.8 ล้านเหรีญสหรัฐ เพื่อบริจาคให้กับองค์กรการกุศลทั่วโลก ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมูลนิธิยูพีเอสได้ที่ UPS.com/Foundation หรือที่ทวิตเตอร์ @UPS_Foundation

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit