- ชิ้นส่วนพันธุกรรมของมนุษย์ยุคโบราณที่ประกอบด้วยจีโนมมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลเกือบครึ่ง กำลังถ่ายทอดและไหลเวียนอยู่ในพันธุกรรมของชาวยุโรปยุคปัจจุบัน
- ชาวยุโรปโดยเฉลี่ยมีชิ้นส่วนพันธุกรรมของมนุษย์ยุคโบราณกว่า 500 ชิ้น ซึ่งรวมถึง SNPs ที่สัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ภาวะเหล็กคั่ง ความเร็วในการแข็งตัวเลือด และส่วนสูง
นักวิทยาศาสตร์จาก deCODE genetics ร่วมกับสถาบัน Max Planck Institute และมหาวิทยาลัยในเดนมาร์กและไอซ์แลนด์ ได้เผยแพร่งานวิจัยชิ้นแรกที่ใช้ข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากประชากร เพื่ออธิบายเกี่ยวกับการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ระหว่างมนุษย์ยุคปัจจุบันกับมนุษย์ยุคโบราณเมื่อกว่า 50,000 ปีที่แล้ว ที่ยังคงสืบทอดเป็นมรดกมาจนถึงทุกวันนี้ โดยบทความชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารทางวิทยาศาสตร์ Nature ทั้งนี้ ข้อค้นพบดังกล่าวสนับสนุนการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ว่า คนส่วนใหญ่นอกทวีปแอฟริกามีบรรพบุรุษเป็นมนุษย์โบราณประมาณ 2% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการติดต่อกันไปมาและการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ระหว่างกลุ่มของโฮโม เซเปียนส์ (Homo sapiens) และนีแอนเดอร์ทัล (Neanderthal) ผลการศึกษายังแสดงชิ้นส่วนจีโนมที่มีความสำคัญมากกว่าที่คาดไว้จากมนุษย์เดนิโซวาน (Denisovans) ซึ่งเป็นมนุษย์โบราณอีกสายพันธุ์ที่ผสมพันธุ์กับทั้งมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล และโฮโม เซเปียนส์
ทว่าความสำคัญหลักของการศึกษานี้อยู่ที่ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเคยใช้เพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติและผลกระทบของมรดกจากยุคโบราณ ในระยะแรก งานวิจัยใช้ข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม (WGS) จากชาวไอซ์แลนด์ 28,000 คน ซึ่งคิดเป็นเกือบ 10% ของประชากรทั้งหมด และชาวแอฟริกาใต้สะฮารา (sub-Saharan Africans) จำนวน 286 คนจากโครงการ 1000 Genomes ปัจจัยที่เป็นข้อจำกัดในงานวิจัยก่อนหน้า ได้แก่ การค้นหาจีโนมของคนยุคปัจจุบันด้วยการพึ่งพาการใช้ชิ้นส่วนลำดับพันธุกรรมที่ได้มาจากมนุษย์โบราณเพียง 3 รายที่เรามีข้อมูลลำดับพันธุกรรมที่มีคุณภาพดี ได้แก่ มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล 2 ราย และมนุษย์เดนิโซวาน 1 ราย ผู้เขียนบทความชิ้นนี้จึงเปลี่ยนวิธีการใหม่ ด้วยการใช้ลำดับพันธุกรรมชาวแอฟริกันเป็นเส้นฐานสำหรับมนุษย์โฮโม เซเปียนส์ ที่ไม่เกิดกระบวนการอินโทรเกรสชัน (introgression) จากมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล และตรงข้ามกับสิ่งที่พวกเขาเปรียบเทียบกับข้อมูลลำดับพันธุกรรมของชาวไอซ์แลนด์ โดยชิ้นส่วนโครโมโซมที่พบในชาวไอซ์แลนด์ แต่ไม่พบในชาวแอฟริกัน ประกอบด้วยชิ้นส่วนจากมนุษย์ยุคโบราณ 15 ล้านชิ้น
หลังจากผสมชิ้นส่วนที่เหมือนกันและซ้อนกัน ผู้เขียนจึงได้ค้นพบชิ้นส่วนจากมนุษย์โบราณที่มีความแตกต่างกันกว่า 50,000 ชิ้น ครอบคลุมจีโนมที่อ่านผลได้ 38-48% โดยชิ้นส่วนเหล่านี้ประกอบด้วยตัวแปรลำดับพันธุกรรมที่เรียงตามตัวอักษรเดียวเกือบ 400,000 ตัวที่หายไปจากตัวอย่างของชาวแอฟริกา ส่วนตัวอย่างของชาวไอซ์แลนด์นั้น ผู้เขียนได้ค้นพบชิ้นส่วนจากยุคโบราณที่ถูกทอดทิ้ง (archaic deserts) เกือบ 300 ชิ้น ซึ่งครอบคลุมจีโนมเกือบ 25% รวมถึงโครโมโซม X ทั้งหมด
เพื่อเข้าใจผลกระทบฟีโนไทป์ของตัวแปรจากชิ้นส่วนพันธุกรรมมนุษย์ยุคโบราณได้ดีขึ้น ทีมงานของ deCODE จึงตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงกับฟีโนไทป์ 271 รายการในข้อมูลจีโนมทั้งหมดของชาวไอซ์แลนด์ 210,000 ราย โดยหลังจากแยกความเชื่อมโยงออกมาเพื่อกำจัดตัวแปรที่เกือบจะไม่ใช่ตัวแปรจากยุคโบราณ ทางทีมวิจัยจึงได้ระบุ 5 ตัวแปรจากยุคโบราณที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทั้งจีโนม ก่อนหน้านี้ ตัวแปรหนึ่งมีความเชื่อมโยงกับระดับที่ลดลงของแอนติเจนต่อมลูกหมาก (PSA) และความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ไม่ทราบว่ามีที่มาจากชิ้นส่วนยุคโบราณ ขณะที่อีก 2 ตัวแปรเกี่ยวกับระดับที่ลดลงและมวลของฮีโมโกลบิน ตัวแปรที่ 4 เพิ่มเวลาให้เลือดแข็งตัว และตัวแปรที่ 5 ลดระดับความสูง
Kari Stefansson ซีอีโอของ deCODE และผู้นิพนธ์หลักของรายงานวิจัย กล่าวว่า “ไม่ว่าจะเดี่ยวหรือกลุ่ม จีโนมของเราทำให้เราสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมว่าเราเป็นใคร ด้วยการบอกว่าเรามาจากที่ไหน งานวิจัยชิ้นนี้จึงเป็นรายงานเกี่ยวกับบรรพบุรุษสายพันธุ์หนึ่งของเรา ซึ่งกำลังบอกเราว่า เราไม่ได้มาจากสายพันธุ์โฮโม เซเปียนส์ เท่านั้น แต่ยังเป็นทายาทของมนุษย์ยุคโบราณ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกพี่ลูกน้องที่ยังไม่สูญพันธุ์ไปอย่างสิ้นเชิง” พร้อมเสริมว่า “เรากำลังกะเทาะเปลือกเพื่อนำไปสู่ความเข้าใจการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ที่หลงเหลือสืบทอดอยู่ในทุกวันนี้ สิ่งที่เราทราบก็คือ ในระยะเวลา 50,000 ปีจากช่วงเวลาของมนุษย์โบราณมาจนถึงปัจจุบัน ความสามารถในการปรับตัวและความหลากหลายของเราทำให้เราสามารถผสมผสานและเคลื่อนย้าย ตั้งถิ่นฐานและเติบโตงอกงามในทุกมุมของโลกอย่างที่มนุษย์โบราณไม่เคยทำมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มืดมนเช่นนี้ เราพึงระลึกว่า ความแตกต่างของเราเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จ และเพื่อที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ "
deCODE มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ บริษัทเป็นผู้นำระดับโลกในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจจีโนมมนุษย์ ด้วยการใช้ความชำนาญเฉพาะตัวในด้านพันธุศาสตร์มนุษย์ ประกอบกับความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้นในด้านทรานสคริปโตมิกส์ (transcriptomics) และโปรตีโอมิกส์ (proteomics) ในกลุ่มประชากร รวมถึงข้อมูลลักษณะปรากฏ (phenotypic) จำนวนมาก deCODE จึงค้นพบปัจจัยเสี่ยงของโรคที่พบได้บ่อยหลายสิบโรค และทำให้เกิดความเข้าใจในเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับพยาธิกำเนิดของโรคเหล่านั้น จุดประสงค์ในการทำความเข้าใจพันธุศาสตร์ของโรคก็คือ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้คิดค้นวิธีใหม่ ๆ ในการวินิจฉัย รักษา และป้องกันโรค deCODE เป็นบริษัทในเครือของ Amgen (NASDAQ: AMGN)
Video - https://mma.prnewswire.com/media/1158592/Neanderthal_In_All_Of_Us.mp4
Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1158559/deCODE_genetics.jpg
Logo - https://mma.prnewswire.com/media/974116/deCODE_genetics_Logo.jpg
ติดต่อ:
Thora Kristin Asgeirsdottir
+354-894-1909
[email protected]
รพ. กรุงเทพ จับมือ Shopee จัดเต็มแพ็กเกจสุขภาพ ในแคมเปญ Shopee 11.11 ลด ใหญ่ มาก วันที่ 1 - 15 พฤศจิกายน 2565
ไรเดอร์โมเดิร์นคลาสสิกห้ามพลาด! ไทรอัมพ์ฯ ชวนร่วมขับขี่โซโล่ใน 'ดีจีอาร์ 2021' พร้อมสมทบทุนเพื่อสุขภาพของผู้ชาย ลุ้นรับรถรุ่น 'ดีจีอาร์ ทรักซ์ตัน อาร์เอส'
มาแล้ว! “ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เตรียมจัด “เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ 2020” ชวนขี่คนเดียวแต่ไม่เดียวดาย พร้อมกันทั่วโลก 27 กันยายนนี้
ความเครียด!! หนึ่งในสาเหตุของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก กลุ่มพลังร่วมจัดงาน “รวมพลังสู้..รู้ทันมะเร็งต่อมลูกหมาก”
กลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะชี้! ชายไทยเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เตรียมจัดงาน “รวมพลังสู้..รู้ทันมะเร็งต่อมลูกหมาก” ให้ความรู้ตื่นตัวรู้เท่าทันโรค