Medicago ประกาศก้าวสำคัญ พัฒนาวัคซีนจากพืชตระกูลยาสูบ ต่อสู้กับไวรัสโคโรนา

10 Apr 2020

Medicago ประกาศก้าวสำคัญ พัฒนาวัคซีนจากพืชตระกูลยาสูบ ต่อสู้กับไวรัสโคโรนา

เมดิคาโก (Medicago) บริษัทชีวเวชภัณฑ์ของประเทศแคนาดา ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนส่วนหนึ่งจาก
บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นเนล (PMI) เผยความก้าวหน้าสำคัญในการผลิตวัคซีนต้านไวรัส
COVID-19 โดยการใช้อนุภาคคล้ายไวรัส (virus-like
particle) หรือ VLP ซึ่งเพาะจาก
Nicotiana Benthamiana ซึ่งเป็นพืชตระกูลที่มีความใกล้เคียงกับยาสูบ
ในการพัฒนาวัคซีนเพื่อต่อสู้กับไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้

การพัฒนาวัคซีนดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการนำวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาสร้างประโยชน์ต่อสังคม
โดยไม่จำกัดว่าองค์กรใดหรือบริษัทใดเป็นผู้ให้การสนับสนุน

ล่าสุด Medicago ได้ออกมาเผยว่ากำลังจะเริ่มขั้นตอน “ก่อนการทดสอบทางคลินิก”
เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยก่อนจะทำการทดลองในผู้ใช้จริง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในฤดูร้อนนี้

อนุภาคคล้ายไวรัสนั้นจะถูกนำไปพัฒนาวัคซีนที่ผลิตจากพืช
โดยเลียนแบบไวรัส
นำไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อให้จดจำและสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
แต่อนุภาคดังกล่าวไม่มีสารพันธุกรรมหลักของไวรัส จึงไม่เกิดการติดเชื้อและไม่สามารถทำซ้ำได้
และเทคโนโลยีของ Medicago
นั้น สามารถเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อรุนแรงอย่างเช่น
COVID-19 ได้ภายในหนึ่งเดือนหลังจากได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

Medicago มีความเชี่ยวชาญในการสร้างนวัตกรรมวัคซีน นอกจากการรักษาไวรัสโคโรนา Medicago ยังดำเนินการทดลองในด้านไวรัสและการรักษาโรคระบาดอื่น ๆ โดยผลิตภัณฑ์แรก คือวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบโดยองค์กรสุขภาพของประเทศแคนนาดา
(Health
Canada) อีกทั้ง ยังพัฒนาแอนติบอดี้ต่อต้าน โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่
(SARS-CoV-2) โดยร่วมมือกับศูนย์วิจัยโรคติดเชื้อของมหาวิทยาลัย Laval จากผลการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ระบุว่าแอนติบอดี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา

ข้อแตกต่างระหว่างการพัฒนาวัคซีนอนุภาคคล้ายไวรัสและวัคซีนแบบดั้งเดิม

การพัฒนาวัคซีนแบบดั้งเดิมในไข่ใช้เวลา
6 ถึง 9 เดือน ผู้ผลิตวัคซีนฉีดไวรัสเข้าไปในไข่เพื่อให้เกิดการแพร่กระจาย แต่การใช้ไข่นั้นมีราคาแพง
ใช้เวลานาน และไม่สมบูรณ์ การกลายพันธุ์ (Mutations) อาจทำให้วัคซีนตอบสนองไม่ตรงกับไวรัสเป้าหมายที่ตั้งใจจะทำลาย

วิธีการที่ใช้พืชเป็นเรื่องใหม่
แต่ก็มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมา เกิดการแทรกในลำดับพันธุกรรมใน Agrobacterium  แบคทีเรียที่มีดินเป็นองค์ประกอบซึ่งถูกนำขึ้นมาจากพืช
ในกรณีนี้ เป็นพืชตระกูลใกล้เคียงกับพืชยาสูบ พืชดังกล่าวเริ่มผลิตโปรตีนซึ่งสามารถใช้เป็นวัคซีนได้
หากไวรัสเริ่มที่จะกลายพันธุ์ อย่าง COVID-19 ก็สามารถใช้พืชใหม่ๆ ปรับปรุงการผลิตวัคซีนได้ การใช้พืชและแบคทีเรียจากพืช
(agrobacteria)
ที่ดัดแปลงพันธุกรรมนั้นทำงานได้เร็วกว่าไข่และยังสามารถผลิตวัคซีนได้ง่ายกว่ามาก

เกี่ยวกับ เมดิคาโก

ฟิลลิป
มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ถือครองกรรมสิทธิ์บางส่วนใน Medicago
ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวัตกรรมของบริษัทฯ โดยได้เข้าถือหุ้น Medicago ในปี 2556 และปัจจุบันถือหุ้นประมาณหนึ่งในสามของบริษัท โดยบริษัทมิตซูบิชิทานาเบะจากประเทศญี่ปุ่นถือครองหุ้นสัดส่วน
2 ใน 3 ที่เหลือ

Medicago ประกาศก้าวสำคัญ พัฒนาวัคซีนจากพืชตระกูลยาสูบ ต่อสู้กับไวรัสโคโรนา Medicago ประกาศก้าวสำคัญ พัฒนาวัคซีนจากพืชตระกูลยาสูบ ต่อสู้กับไวรัสโคโรนา