กสิกรไทยรับไฟเขียวจากธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าถือหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน 40%

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ธนาคารกสิกรไทยตอกย้ำการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ลุยตลาดอินโดนีเซีย เข้าถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยน 40% มุ่งเน้นนวัตกรรมจากเทคโนโลยีดิจิทัลให้บริการเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นในอินโดนีเซีย พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายการให้บริการแก่นักธุรกิจไทยและต่างชาติ เชื่อมต่อการค้าการลงทุนใน CCLMVI (จีน กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และอินโดนีเซีย)

กสิกรไทยรับไฟเขียวจากธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าถือหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน 40%

นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KVision) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 บริษัท กสิกร วิชั่น ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นรวมเป็น 40% ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดที่สำนักงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย (Otoritas Jasa Keuangan หรือ OJK) อนุญาตภายใต้กฎการถือครองหุ้นธนาคารในอินโดนีเซียโดยผู้ถือหุ้นที่เป็นธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นการเพิ่มสัดส่วนจากที่ธนาคารกสิกรไทยมีอยู่เดิม 9.99% ตั้งแต่ปี 2560

ทั้งนี้ การเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยน ถือเป็นทางเลือกของการเข้าไปลงทุนที่คุ้มค่า ต่างจากการที่ต้องเข้าไปลงทุนเองใหม่ทั้งหมด แม้ธนาคารแมสเปี้ยนยังเป็นธนาคารขนาดเล็ก แต่มีเครือข่ายสาขาครอบคลุมครบทุกเมืองสำคัญ พร้อมเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งสามารถต่อยอดความสัมพันธ์ของธุรกิจหลากหลายในทุกกลุ่มลูกค้า รวมทั้งผู้บริหารธนาคารมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารกสิกรไทย นอกจากนี้ ตั้งแต่ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าไปศึกษาและร่วมทำงานกับทีมงานของธนาคารแมสเปี้ยนเป็นเวลากว่า 2 ปี ทำให้เราเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่มากมายในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ยังเติบโตและมีอนาคตสดใสในอาเซียน ที่สามารถใช้ความเชี่ยวชาญทางผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคาร รวมถึงจะใช้รูปแบบการทำธุรกิจที่เป็น Asset-Light และการลงทุนพัฒนาดิจิทัล แบงกิ้ง ตามแนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าในอินโดนีเซียที่จะทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นการร่วมกันผนึกกำลังครั้งสำคัญ เพื่อนำจุดแข็งของสองธนาคารไปต่อยอดพัฒนาบริการของธนาคารพาณิชย์ในประเทศอินโดนีเซีย โดยจะใช้กลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการตามกลุ่มลูกค้าดังต่อไปนี้

กลุ่มธุรกิจบรรษัทขนาดใหญ่:

สนับสนุนธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยและต่างชาติที่ลงทุนในอินโดนีเซียรวมถึงกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในอินโดนีเซีย ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งสินเชื่อและบริการการจัดการทางการเงิน รวมทั้งพัฒนาช่องทางอินเทอร์เนทแบงกิ้งและผลิตภัณฑ์ Payroll เพื่อเพิ่มความสะดวกและหลากหลายในการใช้บริการของลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล

กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี:

มุ่งเน้นการให้สินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและย่อมโดยใช้ Data Lending และ Formula Lending Model เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งขยายธุรกิจร้านค้ารับบัตร (Acquiring Business) เพื่อรองรับการชำระเงินแบบ Non-Cash Payment

กลุ่มลูกค้าบุคคล:

นำนวัตกรรมมาปรับปรุงระบบโมบายแบงกิ้งที่มีให้ดียิ่งขึ้น และผลักดันสินเชื่อมีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล รวมถึงพัฒนา Data Analytic Lending Platform โดยใช้ Data จากธุรกิจร้านค้ารับบัตร

การลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยนครั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยดำเนินการผ่าน บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลงทุน (Investment Holding Company) ที่ธนาคารกสิกรไทยถือครองหุ้น 100% ในลักษณะเดียวกับการเข้าไปลงทุนในธนาคารเอแบงก์ของเมียนมา โดยจะใช้เงินลงทุนรวมไม่เกิน 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ การเข้าถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยนเพิ่มในครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากสำนักงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย (OJK) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปีนี้


ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย+ภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณวันนี้

เงินเข้าแล้วไปไหนหมด! KBTG ส่ง 'เหมียวจด' ฟินเทคไทยจากอินไซต์จริง ชวนคนไทยรู้ทันรายจ่าย ตอบโจทย์คนยุคใหม่ใช้เทคช่วยสร้างวินัยทางการเงิน

ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทย เผยให้เห็นความจริงที่น่าตกใจของคนไทยกับการเงิน โดยจาก 130 ล้านบัญชีเงินฝากทั่วประเทศ มีถึง 123 ล้านบัญชีที่มีเงินฝากไม่ถึง 50,000 บาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงวิกฤตเงินออมของคนไทย นอกจากนี้ ดีลอยท์ ประเทศไทย ยังเผยว่าคนไทยรุ่นใหม่ทั้ง Gen Y และ Gen Z กว่า 63% ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 52% ด้วยภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และความจำเป็นต้องใช้เงินมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ บ่อยครั้งเราจึงได้ยินประโยคที่ว่า "เงินเดือนออกไม่กี่วัน ไม่รู้หายไป

แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 จะชะลอตัวตาม... ดีดีพร็อพเพอร์ตี้เผยสุดยอดทำเลทองในรอบครึ่งแรกปี 68 — แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 จะชะลอตัวตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์จากปัจจัยบวกทั้งจา...

ในยุคที่ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงและความจำเป็นในก... แนะนำ 9 แอปกู้เงินถูกกฎหมาย เชื่อถือได้จริง ฉบับอัปเดตล่าสุด — ในยุคที่ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงและความจำเป็นในการใช้เงินสดฉุกเฉินเพิ่มขึ้น การกู้เงินถูกกฎหมาย ผ่...