วิตกกังวลจากโรคระบาด COVID-19 รับมืออย่างไร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ความเครียด ความวิตกกังวล และสับสน เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เราจะลดความวิตกกังวลที่ทำให้บั่นทอนจิตใจของเราอย่างไร เพราะนอกจากการดูแลร่างกายแล้ว การดูแลจิตใจก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้

วิตกกังวลจากโรคระบาด COVID-19 รับมืออย่างไร

นพ.วิทยา วันเพ็ญ จิตแพทย์โรงพยาบาลพระรามเก้า แนะนำวิธีการรับมือกับความวิตกกังวลจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อ้างอิงจากประกาศราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย มีเคล็ดลับการดูแลจิตใจ 9 ควร 4 ไม่ควร มาฝากกัน วิตกกังวลจากโรคระบาด COVID-19 รับมืออย่างไร

9 สิ่งที่ควรทำ วิตกกังวลจากโรคระบาด COVID-19 รับมืออย่างไร

  1. ควรรับข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ข้อมูลควรมาจากกระทรวงสาธารณสุข หรือถ้าเป็นข้อมูลข่าวสารเรื่องของมาตราการเยียวยาช่วยเหลือจากภาครัฐ ควรเปิดรับจากหน่วยงานนั้นโดยตรง
  2. ควรลดการเสพข้อมูลมากเกินไป เมื่อต้องอยู่บ้านตลอด หลายคนก็อาจมีโอกาสเสพหรือเปิดรับข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตลอดเวลา โดยเสพข้อมูลข่าวสารมากเกินไป ย่อมไปกระตุ้นให้คิดมาก เกิดความรู้สึกเครียด วิตกกังวล ตื่นตระหนกมากขึ้น ดังนั้นควรรับข่าวสารหลังจากเวลาทำงาน หรือทำธุระส่วนตัวเสร็จก่อน และการรับข่าวสารควรรับเพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันระมัดระวัง ดูแลตนเองตามหลักอนามัย
  3. ดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม เช่น การรับประทานอาหาร การนอน การออกกำลังกายตามปกติ
  4. ดูแลอารมณ์ ยอมรับในอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง หาสาเหตุสิ่งที่ทำให้เครียด และทำความเข้าใจในความเครียดที่เกิดขึ้น และระบายกับคนที่ไว้ใจ เพื่อลดความตึงเครียด
  5.  มีสติรับมือกับปัญหาที่จะเข้ามาเพิ่ม ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตปกติอย่างฉับพลัน จนหลายคนไม่ทันตั้งตัว และไม่คุ้นชิน การตั้งสติจึงเป็นส่วนสำคัญมากในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น
  6.  หางานอดิเรกที่เหมาะสม ที่ตนเองชอบ การหากิจกรรมที่ทำแล้วรู้สึกสบายใจ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายจากภาวะความตึงเครียด
  7. สื่อสารในสังคมออนไลน์ตามควร ในสิ่งที่เป็นความรู้และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง โดยก่อนที่จะสื่อสาร โพสต์ หรือแชร์ข้อมูล ควรตรวจสอบความถูกต้อง และข้อมูลควรมาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้
  8. เข้าใจและเห็นอกเห็นใจความรู้สึกทุกข์ของผู้ติดเชื้อ COVID-19 และผู้เกี่ยวข้อง เพราะการแสดงท่าทีรังเกียจ จะทำให้บรรยากาศในสังคมยิ่งเป็นทุกข์ หมดกำลังใจ และความขุ่นข้องหมองใจนั้น สุดท้ายก็จะสะท้อนกลับมาที่จิตใจของเราเอง
  9. ส่งความใส่ใจ และการช่วยเหลือดูแลสังคม หากเราเปิดรับข่าวสารเรื่องการช่วยเหลือกัน จะเห็นน้ำใจของทุกคนในสังคมที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการแจกอาหารให้กับคนตกงานกินฟรี การเย็บหน้ากากผ้าเพื่อนำไปบริจาคให้กับผู้ที่ขาดแคลน  หรือกรณีที่ทุกคนช่วยกันร่วมบริจาค หรือเป็นสื่อกลางในการรับบริจาคไปยังโรงพยาบาลที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งดีๆที่ทำให้จิตใจเรามีความสุขได้

และ 4 สิ่งไม่ควรทำ 1. ไม่ควรแก้เครียดด้วยอบายมุข บุหรี่ แอลกอฮอล์ 2. ไม่ควรหาคนผิด ด่าว่ากันในสังคม 3. ไม่ควรแสดงการรังเกียจกันในสังคม 4. ไม่ควรแชร์ โพสต์ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

ข้อปฏิบัติ 9 ควร 4 ไม่ควร นี้หากทุกคนในสังคมนำไปปฏิบัติ ปรับตัวในการใช้ชีวิตช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จะสามารถช่วยลดความตึงเครียด และความวิตกกังวลให้คลายลงได้ และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ทุกคนก็จะยังคงมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจที่แข็งแรง พร้อมออกมาใช้ชีวิตปกติได้ตามเดิม


ข่าวโรงพยาบาลพระรามเก้า+โรงพยาบาลพระรามวันนี้

จิตแพทย์เตือน "บูลลี่" ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เสี่ยงทำเด็กป่วยทางจิตเวช และอาจรุนแรงถึงขั้น "อยากฆ่าตัวตาย"

ในสังคมที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน เด็กจำนวนไม่น้อยกำลังต่อสู้อย่างเงียบงันกับบาดแผลในใจที่ไม่มีใครมองเห็น หนึ่งในภัยร้ายที่กำลังกัดกินจิตใจของเด็กไทยโดยที่สังคมยังไม่ตระหนักเพียงพอ คือ "การบูลลี่" หรือ "การกลั่นแกล้งกัน" ไม่ว่าจะเป็นการล้อเลียน เสียดสี พูดจาดูถูก เพิกเฉย หรือประจานกันในโลกออนไลน์ การกระทำเหล่านี้ล้วนสามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะป่วยทางจิตใจ และอาจนำไปสู่โรคจิตเวชที่รุนแรงถึงขั้น "คิดฆ่าตัวตาย" ได้ พญ.ปรานี ปวีณชนา จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบ

เปิดตัว "9 SMART" ยกระดับสู่การเป็นพันธมิ... โรงพยาบาลพระรามเก้า ฉลองครบรอบ 33 ปี ภายใต้แนวคิด "Good Health Grows With Care" — เปิดตัว "9 SMART" ยกระดับสู่การเป็นพันธมิตรสุขภาพยุคดิจิทัล โรงพยาบาลพระ...