รองคณบดี สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะข่าว “โควิด-19 ในเสือโคร่ง” ควรตระหนัก แต่อย่าตระหนก ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อจาก “สัตว์สู่คน”

08 Apr 2020

รองคณบดี สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะข่าว “โควิด-19 ในเสือโคร่ง” ควรตระหนัก แต่อย่าตระหนก ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อจาก “สัตว์สู่คน”

จากรายงานข่าวที่มีการพบเชื้อโควิด-19 ในสัตว์หลายชนิดในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว และล่าสุด เสือโคร่ง จนก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์และปศุสัตว์ ศาสตราจารย์ พ.ญ.ดร. เกวลี ฉัตรดรงค์ รองคณบดีวิจัยและนวัตกรรม คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตนายกสมาคมสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ออกมาอธิบายถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันการติดต่อจาก 'สัตว์เลี้ยงสู่คน’ ดังนั้น ผู้ที่ใกล้ชิดกับสัตว์ สัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ จึงควร “ตระหนัก” ในการดูแลสัตว์เลี้ยงของตนให้ปลอดภัย แต่ไม่ควร “ตระหนก” กับข่าวที่เกิดขึ้น

“การตรวจพบเชื้อในเสือโคร่ง
ซึ่งเป็นสัตว์ตระกูลแมวที่แสดงอาการทางระบบหายใจในสวนสัตว์ที่เมืองนิวยอร์ค
สหรัฐอเมริกานั้น เป็นการติดเชื้อจากพนักงานดูแลสัตว์ ซึ่งให้ผลบวกต่อเชื้อโควิด-19 โดยไม่แสดงอาการ
ทำให้ยังคงปฏิบัติงานอยู่ แต่หลังจากผลทดสอบเป็นบวกแล้ว สวนสัตว์ได้ปิดทำการ
แล้วสัตว์กลุ่มนี้จึงแสดงอาการทางระบบหายใจในเวลาประมาณ 2
สัปดาห์ถัดมา การตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในเสือโคร่ง
จึงอนุมานได้ว่าติดมาจากพนักงานดูแลสัตว์ที่ทำหน้าที่ให้อาหารและทำความสะอาดกรงเลี้ยงในช่วงเวลาก่อนหน้านี้” ดร. เกวลีอธิบายถึงที่มาที่ไปของข่าว

นอกจากนี้ ดร. เกวลี
ยังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงที่มาของข่าวการเกิดโรคโควิด-19 ในสัตว์เลี้ยง
ที่สร้างความตื่นตระหนกในเวลานี้ว่า มาจากงานเขียนที่ถูกเผยแพร่ก่อนได้รับการพิจารณารับรองตามหลักวิชาการ
(อ้างอิง 1) และงานวิจัยเรื่องการติดต่อของเชื้อไวรัสก่อโรค
SARS ในแมวและตัวเฟอเร็ท
ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2003 (อ้างอิง 2) ซึ่งเป็นเพียงการศึกษาในห้องทดลองเท่านั้น

“ทางสมาคมสัตวแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (The American Veterinary Medical
Association) ได้ออกมาสรุปว่างานเขียนชิ้นนี้
ทำให้เกิดความสับสนและเกิดความตระหนกเกินไปในกลุ่มเสี่ยง
ซึ่งอาจนำไปสู่การปล่อยสัตว์เลี้ยงทิ้งในที่สาธารณะ
จึงให้คำแนะนำว่าหากสัตว์เลี้ยงมีอาการทางระบบทางเดินหายใจร่วมกับระบบทางเดินอาหาร
ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการหาสาเหตุของโรค
และยังไม่มีความจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อในสัตว์เลี้ยงทุกตัว”

“สำหรับคนทั่วไปก็ยังคงเลี้ยงสัตว์ได้ แต่ต้อง
'ตระหนัก’ และเฝ้าระวังอย่างมีสติ การปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี ได้แก่
การล้างมือบ่อย ๆ ก่อนและหลังสัมผัสสัตว์เลี้ยง เป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติอย่างยิ่งในเวลานี้  แต่สำหรับผู้ป่วยและคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้น
นอกจากจะต้องกักตัวและหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคนแล้ว
ยังควรต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงซึ่งเปรียบเสมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว
โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลแมว” ดร. เกวลี กล่าว

ที่มาของข้อมูล:

1. SARS-CoV-2 in animals, including pets. American Veterinary Medical
Association (AVMA), https://www.avma.org/: updated on April 5, 2020.

2. Martina et al. 2003. SARS virus infection of cats and
ferrets. Nature
425, 915.

รองคณบดี สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะข่าว “โควิด-19 ในเสือโคร่ง” ควรตระหนัก แต่อย่าตระหนก ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อจาก “สัตว์สู่คน” รองคณบดี สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะข่าว “โควิด-19 ในเสือโคร่ง” ควรตระหนัก แต่อย่าตระหนก ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อจาก “สัตว์สู่คน” รองคณบดี สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะข่าว “โควิด-19 ในเสือโคร่ง” ควรตระหนัก แต่อย่าตระหนก ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อจาก “สัตว์สู่คน”