นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีกรอบเยียวยาไม่เกิน 10 ล้านราย รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม - กรกฎาคม 2563 โดยจ่ายเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งตามมติของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้กำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบเกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือตามโครงการฯ ให้มีความถูกต้องครบถ้วน รวมถึงต้องไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการ และผู้ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการบำนาญของกรมบัญชีกลาง และระบบประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคมเพื่อให้ความช่วยเหลือภายใต้มาตราการต่าง ๆ ของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในส่วนของการลงทะเบียนรับการช่วยเหลือเยียวยานั้น มีเกษตรกรกลุ่มแรกที่ขึ้นทะเบียนจำนวน 8.33 ล้านราย แต่ภายหลังจากการตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับทะเบียนฐานประกันสังคม โครงการเราไม่ทิ้งกัน และทะเบียนข้าราชการบำนาญ ทำให้คงเหลือเกษตรกรที่มีคุณสมบัติได้รับเงินเยียวยา จำนวน 7.77 ล้านราย โดยการจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในครั้งที่ 1 ธ.ก.ส. ได้โอนเงินช่วยเหลือเกษตรกร ระหว่างวันที่ 15 - 21 พฤษภาคม 2563 รวมทั้งสิ้น 3.22 ล้านราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 16,114.76 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนเงินจนครบจำนวนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการรับขึ้นทะเบียนตามที่หน่วยงานกำหนด และนำมาคัดกรองความซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการ เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชน และตรวจสอบกับผู้ที่ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการบำนาญ และระบบประกันสังคม และเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้ส่งข้อมูลเกษตรกรครั้งที่ 2 ให้กับ ธ.ก.ส. จำนวน 3.43 ล้านราย เพื่อดำเนินการจ่ายเงิน โดยคาดว่า ธ.ก.ส. จะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรในระหว่างวันที่ 22 – 29 พฤษภาคม นี้
สำหรับในครั้งที่ 3 กระทรวงเกษตรฯ ได้ส่งข้อมูลเกษตรกร จำนวน 0.70 ล้านราย ให้กระทรวงการคลังเพื่อให้ คัดกรองและตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชน และตรวจสอบกับผู้ที่ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการบำนาญ และระบบประกันสังคม และยังมีเกษตรกรที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงและขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมจำนวนประมาณ 1.6 ล้านราย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะได้รวบรวมและส่งข้อมูลให้กระทรวงการคลัง ต่อไป
ในส่วนของเกษตรกรที่อยู่ระหว่างปรับปรุงและตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง จึงยังไม่สามารถเริ่มต้นการเพาะปลูกในฤดูการผลิต 2563/2564 ได้ ซึ่งได้กำหนดสิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวม ตรวจสอบ และจะส่งให้กระทรวงการคลังตรวจสอบและคัดกรอง เพื่อจะได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน โดยจะขออนุมัติเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเพียงงวดเดียว รายละ 15,000 บาท ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2563 โดยคาดว่าจะมีเกษตรกรรายใหม่ จำนวนประมาณ 120,000 ราย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะตรวจแปลงดำเนินการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนระหว่างเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2563
“สำหรับในส่วนของข้าราชการที่อยู่ในทะเบียนเกษตรกรด้วย กระทรวงเกษตรฯ ได้หารือกับคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนว่า ข้าราชการไม่ควรได้รับการเยียวยาในส่วนนี้ โดยจะต้องมีการซักซ้อมทำความเข้าใจถึงวิธีการปฏิบัติ และความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง และคาดว่าจะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ต่อไป อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทุกท่านเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ข่าวประชาสัมพันธ์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทันตามกำหนดเวลา ภายใต้มาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพไม่ซ้ำซ้อนเพราะเป็นโครงการที่ใช้เงินกู้ จึงต้องดำเนินการอย่างถูกต้อง ครบถ้วนที่สุด และเป็นไปตามมติ ครม.อย่างเคร่งครัดต่อไป” นายอนันต์ กล่าว
วว. ผนึกกำลัง ธ.ก.ส. สร้างระบบเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง เสริมแกร่งเกษตรกรไทยให้มั่นคงยั่งยืน
ธ.ก.ส. จับมือ บช.สอท. เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ "บริการแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ" ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ผ่าน LINE Official BAAC Family
ไอคอนสยาม จับมือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาดโปรโมชันฉลองสงกรานต์ ช็อปให้ฉ่ำรับของรางวัลใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 3.7 ล้านบาท
วว. / ธ.ก.ส. หารือแนวทางนำเทคโนโลยีเกษตร ชีวภาพ อาหาร ต่อยอดดำเนินงานร่วมกันในปี 2568
สทบ.จับมือ กรมปศุสัตว์และธกส. ชวนเกษตรกรไทย ร่วมงาน มหกรรม "โคแสนล้าน" ระหว่างวันที่ 23-24 พ.ย.67 จ.มหาสารคาม
Optical88 ตอกย้ำความมั่นใจในคุณภาพ หลังคว้ารางวัลความเป็นเลิศด้านบริการแห่งปี เป็นครั้งที่ 2 ในงานมอบรางวัล THAILAND TOP ENTREPRENEUR 2024
PTG ผนึกมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ-กรมป่าไม้-ธ.ก.ส. ส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิก้า และพืชเศรษฐกิจยั่งยืน หนุนเกษตรกรมีชีวิตอยู่ดีมีสุข -ส่งตรง "กาแฟพันธุ์ไทย"
บมจ. เออาร์ไอพี และ ม.หอการค้าไทย มอบรางวัล THAILAND TOP ENTREPRENEUR AWARDS 2024 สร้างแรงบันดาลใจให้ธุรกิจยั่งยืน
ธ.ก.ส. เปิดบริการตรวจเครดิตบูโรผ่านแอป ฯ "BAAC Mobile" เช็กสุขภาพการเงิน ป้องกันภัยไซเบอร์ทางการเงิน