โชว์ศักยภาพ PAP แม้สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมเหล็ก แต่สามารถฝ่าวิกฤติมาได้ ทำให้ปิด Q1/2563 มีกำไรสุทธิ 44.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.90% (QoQ) ด้วยกลยุทธ์บริหารจัดการผลิตภัณฑ์และบริหารลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี
บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAP ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 (Q1/2563) โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ เท่ากับ 1,952.40 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 490.68 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.08 เป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า รวมถึงผลกระทบด้านราคาเหล็กโลกที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับ Q1/2563 PAP มีกำไรสุทธิเท่ากับ 44.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.90 (QoQ) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็นร้อยละ 9.30 ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 7.53 ของรายได้รวม เป็นผลอันเนื่องมาจากทิศทางราคาเหล็กโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดในช่วงปลายปี 2019 และการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น
นางเอื้อมพร ปัญญาใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ PAP กล่าวว่า "ภาพรวมในไตรมาส 1/63 ถือว่า รายได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัส COVID-19 ในช่วงเดือนมีนาคม จนนำไปสู่มาตรการ Lockdown ส่งผลให้ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างต้องปิดทำการในหลายพื้นที่ ประกอบกับการขนส่งสินค้าทำได้ยากลำบาก และเกิดการขาดแคลนแรงงานในหลายโครงการก่อสร้าง แต่เนื่องจากบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การให้บริการเพื่อให้ตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างเท่าทัน ด้วยการวางแผนการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าสำหรับงานระบบ และงานโครงการการขนาดใหญ่ ตลอดจนกลยุทธ์ในการบริหารลูกค้าโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้รับเหมาขนาดใหญ่ และลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้ Q1/2563 บริษัทยังสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นได้”
สำหรับไตรมาส 2/63 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจของ PAP รวมทั้งบริษัทได้เริ่มใช้การตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดและรองรับกับแนวโน้มพฤติกรรมตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนมีแผนในการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสนับสนุนคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เพื่อเตรียมการรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยแต่งตั้ง นางสาวธิติมา วัฒนศักดากุล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อรับผิดชอบในส่วนของกลยุทธ์การจัดซื้อวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเหล็ก พร้อมกับแต่งตั้ง นายฐิตกร อุษยาพร ผู้บริหารมากความสามารถแห่งวงการเทคโนโลยี เข้ามาเป็น ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2563
ทั้งนี้ นายฐิตกร ถือเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์การทำงานในแวดวงเทคโนโลยีและสารสนเทศมานานกว่า 30 ปี ผ่านการร่วมงานกับหลากหลายบริษัทชั้นนำ อาทิ ออราเคิล (ประเทศไทย), ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย), ดีแทค และ เอ็ม พิคเจอร์ ในเครือเมเจอร์ เป็นต้น โดยล่าสุดก่อนมาร่วมงานกับ PAP นายฐิตกร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVOA
กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
เคทีซีคว้ามาตรฐาน ISO ต่อเนื่อง ยกระดับความมั่นคงไซเบอร์ เสริมเกราะข้อมูลลูกค้ายุคดิจิทัล
ไฮเออร์ ติดโผ Forbes World's Best Employers ปีที่ 9 ควบ Top Employer China 2025 สะท้อนพลังองค์กรแห่งอนาคต ที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในโลก
เปิดมุมมอง "อนิวรรต ศรีรุ่งธรรม" ผู้บริหารรุ่นใหม่ พลิกโฉมธุรกิจทองคำไทยด้วยเทคโนโลยี
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี
"ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป" จับมือ "เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)" เสริมแกร่งธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เปิดตัวโครงการ "Shama Sukhumvit 101"
กสิกรไทย ผนึกกำลัง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ อบก. Kubix และ Orbix Technology เปิดตัวโครงการนำร่องทดสอบการแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย
PwC ประเทศไทย เตือนธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือมาตรการตรวจสอบภาษีเข้มข้นหลังปฏิรูปครั้งใหญ่สู่สมาชิก OECD