ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตเป็นลบและคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ 'A-’

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ฟิทช์ เรทติ้งส์- กรุงเทพฯ/สิงคโปร์ – 8 พฤษภาคม 2563 : ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Rating: IFS Rating) ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เป็นลบจากแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินมีเสถียรภาพ และประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ 'A-’ (หรืออยู่ในระดับ “แข็งแกร่ง”)

ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) เป็นลบจากแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินมีเสถียรภาพ และประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ AAA(tha)

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

การประกาศอันดับเครดิตดังกล่าวพิจารณาจากการประเมินผลกระทบของการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสที่อาจมีผลต่อระบบเศรษฐกิจภายใต้สมมติฐานที่ระบุไว้ในส่วนท้าย ซึ่งฟิทช์ใช้สมมติฐานดังกล่าวในการประเมินตัวเลขทางการเงินเพื่อเทียบเคียงกับหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์และปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต (rating sensitivities) ที่ได้ระบุไว้ในการประกาศอันดับเครดิตของ MTL ในครั้งก่อน

แนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นลบสะท้อนถึงความเสี่ยงเชิงลบที่มีต่อระดับเงินกองทุนและผลประกอบการของ MTL จากความไม่แน่นอนของผลกระทบที่อาจเกิดจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสและจากความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุน การคงอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงเครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ MTL ส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีขนาดใหญ่ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่มีครอบคลุม ช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงและการมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ซึ่งฟิทช์มีความเห็นว่าโครงสร้างธุรกิจประกันชีวิตของ MTL อยู่ในระดับที่แข็งแรง (Favourable business profile) เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย ดังนั้นจึงให้อันดับ 'a-’ แก่ MTL ในด้านโครงสร้างธุรกิจประกันชีวิต (business profile credit factor score) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของฟิทช์

ฟิทช์คาดว่าระดับเงินกองทุนของ MTL เมื่อประเมินจากแบบจำลอง Fitch Prism Model จะปรับลดลงอยู่ในระดับพอใช้ ('Adequate’) ในกรณีฐาน (rating case scenario) เทียบกับระดับแข็งแกร่ง ('Strong’) ในปี 2562 ซึ่งระดับเงินกองทุนที่ปรับลดลงโดยหลักเป็นผลมาจากผลขาดทุนจากเงินลงทุนที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของตลาดทุนซึ่งบริษัทมีเงินลงทุนในตราสารทุนที่ประมาณ 15% ซึ่งสูงกว่าบริษัทประกันชีวิตอื่นที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิต ทั้งนี้ฟิทช์เชื่อว่าส่วนทุนของบริษัทที่ไม่พิจารณาตามระดับความเสี่ยง (non-risk-based capital position) ที่อยู่ในระดับสมเหตุสมผลจะช่วยรองรับความเสี่ยงด้านสินทรัพย์และผลการดำเนินงานที่มีต่อโครงสร้างเครดิตของบริษัทได้บางส่วน ทั้งนี้คาดว่าระดับเงินกองทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140% ค่อนข้างมาก

ฟิทช์เชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทอาจอ่อนตัวลงจากอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลงและค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับโคโรน่าไวรัสที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้อัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เฉลี่ยลดลงภายใต้กรณีฐาน อย่างไรก็ตามอัตราส่วนดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับเกณฑ์ของฟิทช์สำหรับบริษัทประกันชีวิตที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอยู่ในช่วงอันดับ 'A’ ฟิทช์มีความเห็นว่าการที่ MTL ยึดถือแนวทางของการกำหนดเบี้ยประกันชีวิตที่ระมัดระวังเพื่อรักษาอัตรากำไรของผลิตภัณฑ์จะสนับสนุนให้บริษัทมีระดับกำไรที่แข็งแรงต่อไปได้

ความเสี่ยงด้านการลงทุนและสินทรัพย์ของ MTL อาจถูกกดดันจากสภาวะความผันผวนของตลาดทุน โดยอัตราส่วนสินทรัพย์เสี่ยง (risky asset ratio) เมื่อพิจารณาตามสมมติฐานข้างท้ายของกรณีฐานอาจจะเพิ่มขึ้นสูงเกินกว่าเกณฑ์ของฟิทช์สำหรับบริษัทประกันชีวิตที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอยู่ในช่วงอันดับ 'A’ ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในขณะที่ระดับเงินกองทุนของบริษัทอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่า MTL จะยังคงดำเนินกลยุทธ์ด้านการลงทุนในระยะยาวที่ระมัดระวังอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาระดับของผลตอบแทนจากการลงทุนที่ทรงตัวและสอดคล้องกับระดับของการยอมรับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับอันดับเครดิตของบริษัท

สมมติฐานของผลกระทบจากโคโรน่าไวรัส (กรณีฐาน)

ฟิทช์ใช้สมมติฐานหลักดังต่อไปนี้เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจมีต่อบริษัทสำหรับการพิจารณาอันดับเครดิตข้างต้น

--ดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ลดลง 35% เทียบกับระดับของดัชนีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563

--อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสมระยะเวลาสองปีของพันธบัตรและหุ้นกู้ที่อัตรา 16% สำหรับพันธบัตรและหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตในระดับต่ำกว่าระดับลงทุน (non-investment grade bond) และสำหรับพันธบัตรและหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตที่ระดับ BBB จำนวน 12% ของมูลค่าสินทรัพย์

--แรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยทั้งในทิศทางเพิ่มขึ้นและลดลงโดยทำให้ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาล (spread) กว้างขึ้น ซึ่งรวมถึงการคาดการณ์ว่าหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตต่ำกว่าระดับลงทุนจะมีความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 400 เบสิสพอยต์และอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงอย่างมาก

--การเข้าถึงตลาดทุนมีความยากลำบากเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ออกตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิที่มีอันดับเครดิตที่ระดับ BBB หรือต่ำกว่า

--อัตราการติดเชื้อ COVID-19 เท่ากับ 5% และอัตราการเสียชีวิตที่ 1% ของอัตราผู้ติดเชื้อ

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินจะยังมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญของสมมติฐานในกรณีฐาน (rating case) ของฟิทช์จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าฟิทช์จะทำการปรับปรุงสมมติฐานที่ใช้เป็นระยะเพื่อสะท้อนถึงการจัดการโรคระบาดของภาครัฐที่อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเพื่อสะท้อนถึงข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทางด้านสาธารณสุขสืบเนื่องจากการแพร่ระบาด ทั้งนี้การคาดการณ์ถึงผลกระทบที่อาจมีต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายใต้สมมติฐานของกรณีผลกระทบรุนแรง (stress-case) ซึ่งระบุในส่วนท้ายของประกาศเพื่อใช้ในการพิจารณาปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตภายใต้กรณีที่ได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมาก (a severe downside scenario)

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ

  • การเปลี่ยนแปลงของสมมติฐานที่ใช้ประกอบการพิจารณาอันดับเครดิตของฟิทช์ในทิศทางที่เป็นลบอย่างมากจากผลกระทบของโคโรน่าไวรัส
  • การปรับตัวลดลงของสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (RBC) ของ MTL มาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 280% และการปรับตัวลดลงของระดับเงินกองทุนของบริษัทซึ่งวัดจากแบบจำลอง Fitch Prism Model มาอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับแข็งแกร่ง ('Strong’) เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง ทั้งในกรณีที่พิจารณาตามสมมติฐานของฟิทช์หรือจากผลที่เกิดขึ้นจริงตามรายงานผลประกอบการของบริษัท
  • การปรับตัวลดลงของความสามารถในการทำกำไรซึ่งสะท้อนจากอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เฉลี่ยที่ต่ำกว่า 1% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง ทั้งในกรณีที่พิจารณาตามสมมติฐานของฟิทช์หรือจากผลที่เกิดขึ้นจริงตามรายงานผลประกอบการของบริษัท

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล

  • การรักษาระดับของเงินกองทุนของบริษัทซึ่งวัดจากแบบจำลอง Fitch Prism Model ของฟิทช์ที่ระดับแข็งแกร่ง ('Strong’) จะส่งผลให้ฟิทช์ปรับแนวโน้มของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นแนวโน้มมีเสถียรภาพได้
  • การเปลี่ยนแปลงของสมมติฐานที่ใช้ประกอบการพิจารณาอันดับเครดิตของฟิทช์ในทิศทางที่เป็นบวกอย่างมากเมื่อพิจารณาผลกระทบของโคโรน่าไวรัสแล้ว
  • การเปลี่ยนแปลงของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินในเชิงบวกจะเกิดขึ้นหลังจากที่ฟิทช์สามารถคาดการณ์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นถึงผลการดำเนินงานของทั้งอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยและของ MTL
  • การปรับตัวเพิ่มขึ้นของระดับเงินกองทุนของบริษัทซึ่งวัดจากแบบจำลอง Fitch Prism Model ให้อยู่ในระดับบนของระดับแข็งแกร่ง ('Strong’) อย่างต่อเนื่องทั้งในกรณีที่พิจารณาตามสมมติฐานของฟิทช์หรือจากผลที่เกิดขึ้นจริงตามรายงานผลประกอบการของบริษัท
  • บริษัทมีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นและมีการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ (business diversification) ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น บริษัทมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลากหลายประเภทธุรกิจมากขึ้น ธุรกิจมีการกระจายตัวเชิงภูมิศาสตร์ที่ดีขึ้น และช่องทางการขายมีความหลากหลายมากขึ้น

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ

  • การรักษาระดับของเงินกองทุนของบริษัทซึ่งวัดจากแบบจำลอง Fitch Prism Model ของฟิทช์ที่ระดับแข็งแกร่ง ('Strong’) จะส่งผลให้ฟิทช์ปรับแนวโน้มของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นแนวโน้มมีเสถียรภาพได้
  • อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศของ MTL ไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ 'AAA(tha)’ เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว

การวิเคราะห์กรณีที่ได้รับผลกระทบเชิงลบรุนแรง (Stress Case Sensitivity Analysis)

  • ฟิทช์กำหนดสมมติฐานในกรณีที่ได้รับผลกระทบเชิงลบรุนแรง โดยให้ดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ลดลง 60% อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสมระยะเวลาสองปีของหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตต่ำกว่าระดับลงทุนที่ 22% อัตราความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตต่ำกว่าระดับลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 600 เบสิสพอยต์ อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลลดลงอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลายาวนาน การเข้าถึงตลาดทุนมีความยากลำบากมากขึ้น อัตราการติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นเป็น 15% โดยมีอัตราการเสียชีวิตที่ 0.75%
  • ผลกระทบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินในกรณีที่ได้รับผลกระทบเชิงลบเป็นอย่างมากคืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินจะถูกปรับลดอันดับ 1 ถึง 2 อันดับ

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าบริษัทมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของบริษัท ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของบริษัทก็ตาม

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ ESG หาได้จาก https://www.fitchratings.com/esg

ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com

ในการจัดอันดับเครดิตฟิทช์ได้ใช้หลักเกณฑ์ตาม National Scale Ratings Criteria ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 และ Insurance Rating Criteria ลงวันที่ 3 มีนาคม 2563 หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวหาได้ที่ www.fitchratings.com

การจัดอันดับเครดิตในรายงานนี้เกิดจากความต้องการของบริษัทที่ถูกจัดอันดับ ดังนั้นฟิทช์จึงได้รับค่าจ้างในการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว

การใช้อันดับเครดิตที่จัดทำโดยฟิทช์เรทติ้งส์มีข้อจำกัดและขอบเขตการใช้ ซึ่งข้อจำกัดและขอบเขตของการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวสามารถหาได้จาก HTTP://FITCHRATINGS.COM/UNDERSTANDINGCREDITRATINGS  นอกจากนี้คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน 'หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องกรรมการและผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องสามารถดูได้จาก HTTPS://WWW.FITCHRATINGS.COM/SITE/REGULATORY ฟิทช์อาจจะมีการให้บริการจัดอันดับอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้แก่บริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตอยู่หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตอยู่  ซึ่งรายละเอียดสำหรับการให้บริการจัดอันดับอื่น ๆ ดังกล่าวโดยนักวิเคราะห์หลัก (Lead Analyst) ที่อยู่ในหน่วยงานของฟิทช์ที่จดทะเบียนในสหภาพยุโรป ได้แสดงไว้ที่หน้าแรกของบริษัทนั้น ๆ ในเว็ปไซต์ของฟิทช์ เรทติ้งส์ www.fitchratings.com

Copyright (C) 2020 by Fitch Ratings, Inc., Fitch Ratings Ltd. and its subsidiaries. 33 Whitehall Street, NY, NY 10004. Tel: 1-800-753-4824, (212) 908-0500. Fax: (212) 480-4435. ห้ามมิให้นำรายงานข้างต้นไปจัดทำใหม่ หรือเผยแพร่ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากทางฟิทช์ ฟิทช์ขอสงวนสิทธิทั้งหมดในรายงานนี้   ในการจัดทำและติดตามอันดับเครดิตโดยฟิทช์ และการจัดทำรายงานอื่นๆ รวมถึงการทำประมาณการต่างๆ ฟิทช์อาศัยข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้รับจากบริษัทผู้ออกตราสารและบริษัทผู้จัดจำหน่าย และจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่ฟิทช์เชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือ  ฟิทช์ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่ใช้ตามสมควรตามหลักเกณฑ์ที่ฟิทช์ใช้ในการจัดอันดับเครดิต และได้รับการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลเหล่านั้นตามสมควรจากแหล่งข้อมูลที่เป็นอิสระ ทั้งนี้ เท่าที่มีแหล่งข้อมูลดังกล่าวสำหรับตราสารนั้น ๆ หรือมีแหล่งข้อมูลดังกล่าวอยู่ภายในประเทศที่มีการออกตราสารนั้น  วิธีการที่ฟิทช์ใช้ในการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงและขอบเขตในการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลจากบุคคลที่สามที่ฟิทช์ได้รับจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของตราสารและบริษัทผู้ออกตราสาร, ข้อกำหนดและหลักปฏิบัติในประเทศที่มีการเสนอขายตราสารที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต และ/หรือ ที่บริษัทผู้ออกตราสารตั้งอยู่, ลักษณะของข้อมูลที่เปิดเผยที่เกี่ยวข้องที่สามารถหาได้, การเข้าถึงผู้บริหารและที่ปรึกษาของบริษัทผู้ออกตราสาร, การยืนยันความถูกต้องของข้อมูลจากบุคคลที่สามที่มีอยู่ที่สามารถหาได้ (อาทิ รายงานการตรวจสอบบัญชี จดหมายกำหนดกระบวนการตรวจสอบ (agreed-upon procedures letters) รายงานการประเมินราคา รายงานการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของธุรกิจประกันวินาศภัย (actuarial reports) รายงานทางวิศวกรรม ความเห็นทางกฎหมาย และรายงานอื่นๆ ที่จัดทำโดยบุคคลที่สาม), ความมีอยู่ของแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบจากบุคคลที่สามซึ่งเป็นอิสระและมีความสามารถ ที่เกี่ยวข้องกับตราสารนั้นหรือที่มีอยู่ในประเทศของบริษัทผู้ออกตราสารนั้น, และปัจจัยอื่นๆ   ผู้ใช้อันดับเครดิตและรายงานการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ ควรเข้าใจว่าการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงและการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลจากบุคคลที่สามที่ฟิทช์ได้รับไม่สามารถรับประกันได้ว่าข้อมูลเหล่านั้นที่ฟิทช์ใช้ในการจัดอันดับเครดิตและจัดทำรายงานการจัดอันดับเครดิตจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและสมบูรณ์  ท้ายที่สุดแล้วบริษัทผู้ออกตราสารและที่ปรึกษาของบริษัทจะต้องรับผิดชอบต่อความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารแสดงรายการข้อมูลเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ (Offering documents) และในรายงานอื่นๆ   ที่ให้แก่ฟิทช์และตลาด ในการจัดทำอันดับเครดิตและรายงานการจัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์  ฟิทช์จะต้องอาศัยรายงานของผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ซึ่งรวมถึง ผู้สอบบัญชีอิสระในการพิจารณางบการเงินของบริษัท และนักกฎหมายในการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายและภาษี   นอกจากนี้ การจัดอันดับเครดิตและการประมาณการทางการเงินรวมถึงข้อมูลอื่นๆ  มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของสมมติฐานต่างๆ ที่ตั้งขึ้น และการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งโดยลักษณะแล้วไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเกิดขึ้นจริง  ดังนั้น แม้ว่าจะมีการยืนยันความถูกต้องของข้อเท็จจริงปัจจุบัน อันดับเครดิตและการประมาณการอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์หรือเงื่อนไขในอนาคตที่ไม่ได้คาดไว้ล่วงหน้า ณ เวลาที่จัดทำหรือยืนยันอันดับเครดิตและประมาณการ

ข้อมูลในรายงานนี้ได้ถูกนำเสนอ “ตามที่เป็น” โดยไม่ได้เป็นการรับรองหรือการรับประกันใดๆ และฟิทช์ไม่รับรองหรือรับประกันว่ารายงานหรือเนื้อหาใดๆ ในรายงาน จะตรงตามข้อกำหนดใดๆ ของผู้รับรายงานนี้  การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์เป็นความคิดเห็นในเรื่องความน่าเชื่อถือของตราสาร  ความคิดเห็นและรายงานการจัดอันดับเครดิตนี้ถูกจัดทำโดยฟิทช์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิตที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งฟิทช์จะคอยติดตามประเมินและปรับหลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิตให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ   ดังนั้น การจัดอันดับเครดิตและรายงานการจัดอันดับเครดิตเป็นผลงานของฟิทช์โดยรวม  และไม่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการจัดอันดับเครดิตและรายงานการจัดอันดับเครดิตนั้นๆ  การจัดอันดับเครดิตไม่ได้พิจารณาความเสี่ยงในการขาดทุนอันเนื่องมาจากความเสี่ยงอื่นใด นอกเหนือจากความเสี่ยงทางด้านเครดิต เว้นแต่ว่าความเสี่ยงนั้นจะมีการระบุเอาไว้เป็นการเฉพาะ   ฟิทช์ไม่ได้มีส่วนร่วมในการเสนอขายหลักทรัพย์ใดๆ   รายงานการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ทั้งหมดเป็นการจัดทำขึ้นร่วมกัน  รายชื่อบุคคลที่ระบุไว้ในรายงานเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำรายงานแต่ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อความคิดเห็นที่เสนอในรายงานนั้น   รายชื่อที่ระบุไว้ในรายงานมีเพื่อใช้สำหรับการติดต่อเท่านั้น   รายงานการจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ไม่ได้เป็นหนังสือชี้ชวนในการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือสิ่งที่ใช้แทนข้อมูลที่รวบรวม ยืนยันความถูกต้อง และนำเสนอต่อนักลงทุนโดยบริษัทผู้ออกตราสารและตัวแทนในการเสนอขายหลักทรัพย์   อันดับเครดิตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก ณ เวลาใดๆ และด้วยเหตุผลใดๆ ก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของฟิทช์แต่เพียงผู้เดียว   ฟิทช์มิได้ให้คำปรึกษาในการลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น การจัดอันดับเครดิตไม่ได้เป็นการแนะนำให้นักลงทุน ซื้อ ขาย หรือถือตราสารใดๆ  การจัดอันดับเครดิตไม่ได้เป็นการชี้ถึงความพอเหมาะของราคาตลาดและความเหมาะสมของตราสารใดๆ ต่อนักลงทุนรายหนึ่งรายใดโดยเฉพาะ หรือลักษณะการยกเว้นภาษีหรือการเสียภาษีจากการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับตราสารใดๆ   ฟิทช์ได้รับค่าจ้างในการจัดอันดับเครดิตจากบริษัทผู้ออกตราสาร ผู้รับประกัน ผู้ค้ำประกัน ผู้มีภาระผูกพันอื่นๆ และผู้จัดจำหน่าย  โดยปกติค่าจ้างดังกล่าวจะแตกต่างกันไปโดยเริ่มจากหนึ่งพันเหรียญสหรัฐฯ ถึงเจ็ดแสนห้าหมื่นเหรียญสหรัฐฯ (หรือเทียบเท่าสำหรับสกุลเงินอื่น) ต่อครั้งของการออกตราสาร  ในบางกรณีฟิทช์จะได้รับค่าจ้างครั้งเดียวต่อปีจากการจัดอันดับเครดิตตราสารทั้งหมดหรือบางส่วนที่ออกโดยผู้ออกตราสารนั้นๆ หรือตราสารที่รับประกันหรือค้ำประกันโดยผู้รับประกันนั้นๆ หรือผู้ค้ำประกันนั้นๆ โดยค่าจ้างดังกล่าวคาดว่าจะแตกต่างกันไปโดยเริ่มจากหนึ่งหมื่นเหรียญสหรัฐฯ ถึงหนึ่งล้านห้าแสนเหรียญสหรัฐฯ (หรือเทียบเท่าสำหรับสกุลเงินอื่น)   การจัดทำ การประกาศสู่สาธารณะ หรือการเผยแพร่การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ไม่ได้เป็นการแสดงว่าฟิทช์ยินยอมให้ใช้ชื่อฟิทช์ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ซึ่งได้ยื่นส่งภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา (the United States securities laws), the Financial Services and Markets Act of 2000 ของสหราชอาณาจักร หรือภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ในประเทศใดๆ   เนื่องจากประสิทธิภาพในการประกาศสู่สาธารณะและการเผยแพร่ที่รวดเร็วกว่าในระบบอิเล็กทรอนิกส์ รายงานของฟิทช์อาจจะปรากฏแก่สมาชิกในระบบอิเล็กทรอนิกส์เร็วกว่าสมาชิกในระบบสิ่งพิมพ์ถึงสามวัน
สำหรับออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ไต้หวัน และเกาหลีใต้เท่านั้น: Fitch Australia Pty Ltd ได้รับใบอนุญาตให้บริการทางการเงิน (Australian Financial Services license no. 337123) ซึ่งอนุญาตให้บริษัทเสนอการจัดอันดับเครดิตให้แก่นักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น  อันดับเครดิตที่ประกาศโดยฟิทช์มิได้มุ่งหมายให้นำไปใช้โดยบุคคลซึ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยภายใต้คำจำกัดความตาม the Corporations Act 2001

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ อิงค์ (Fitch Ratings, Inc.) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะองค์กรที่เป็น Nationally Recognized Statistical Rating Organization (NRSRO)  โดยที่บริษัทในเครือของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ อิงค์ จำนวนหนึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับเครดิตที่อยู่ในรายชื่อในหัวข้อที่ 3 ในแบบฟอร์มของ NRSRO ซึ่งได้รับอนุญาตให้ออกอันดับเครดิตในฐานะที่เป็น NRSRO (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.fitchratings.com/site/regulatory) ในขณะที่บริษัทในเครือของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ อิงค์ อีกจำนวนหนึ่งที่เหลือ ไม่อยู่ในรายชื่อในหัวข้อที่ 3 ในแบบฟอร์มของ NRSRO (ซึ่งรวมเรียกว่า non-NRSRO) ดังนั้นอันดับเครดิตที่ออกโดยบริษัทจัดอันดับเครดิตเหล่านี้ไม่ได้ออกในฐานะบริษัทที่เป็น NRSRO  อย่างไรก็ตาม บุคลากรของบริษัทที่เป็น non-NRSRO อาจจะมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำอันดับเครดิตของบริษัทที่มีฐานะเป็น NRSRO


ข่าวบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต+เมืองไทยประกันชีวิตวันนี้

เมืองไทยประกันชีวิต ให้การต้อนรับ วปส. รุ่นที่ 13 พร้อมจัดบรรยายพิเศษ "เมืองไทยมีสาระ" เปิดมุมมองด้านประกันชีวิต และนวัตกรรมแห่งการสร้างความสุขที่ยั่งยืน

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นางจันทรา บูรณฤกษ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท นางณาตยา สุขุม กรรมการบริษัท ดร.ณฐพร พันธุ์อุดม กรรมการบริษัท และคณะผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับ นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และคณะผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่นที่ 13 (Thailand Insurance Leadership Program) ในโอกาสเข้าศึกษาดูงาน ณ