รู้หรือไม่? การอดอาหารไม่ได้ทำให้เป็นโรคกระเพาะ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

น้ำย่อยในกระเพาะกัดกระเพาะไม่ได้นะครับ เพราะในกระเพาะมีชั้นเมือกเคลือบไว้ ทำหน้าที่ปกป้องอยู่แล้ว จริงๆ สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะนั้น มาจากเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori หรือ H. Pylori) ต่างหากซึ่งเจ้าแบคทีเรียนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคต่างๆ มากมายตั้งแต่แผลในกระเพาะอาหารเรื้อรัง มะเร็งในกระเพาะ มะเร็งในหลอดอาหาร รวมไปถึงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิดอีกด้วย    

รู้หรือไม่? การอดอาหารไม่ได้ทำให้เป็นโรคกระเพาะ

โดยส่วนใหญ่เชื้อแบคทีเรียนี้จะอาศัยอยู่ที่บริเวณเยื่อบุกระเพาะอาหารเป็นหลัก ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่จะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และทำให้กระเพาะหลั่งกรดมากขึ้น    

จากการประเมินพบว่าประชากรทั่วโลกมีเชื้อแบคทีเรียตัวนี้อยู่ในร่างกายถึง 50% บางประเทศอาจมีมากถึง 60% ด้วยซ้ำ โดย 15% ของคนที่มีเชื้อจะมีอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหารร่วมด้วย แต่บางคนก็อาจมีอาการนิดหน่อย ไม่เป็นไรมาก และถ้าพูดถึงคนที่มีแผลในกระเพาะอาหารมีถึง 90% ที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะนั่นเอง แต่จะบอกว่าแบคทีเรียตัวนี้ไม่ได้มีอยู่ในอาหารไหนมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นทานได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด    

ปัจจุบันเราสามารถตรวจหาเชื้อแบคทีเรียนี้ในกระเพาะอาหารได้หลายวิธีเช่น กินยาแล้วตรวจจากลมหายใจ หรือเจาะเลือดตรวจหาภูมิต้านทานต่อเชื้อ หรือถ้าใครมีแผนจะตรวจร่างกายด้วยการส่องกล้องทางเดินอาหารอยู่แล้ว ก็ตรวจได้เลย เพราะตอนส่องกล้อง หมอจะเข้าไปเก็บตัวอย่างเยื่อบุกระเพาะมาตรวจด้วย ก็จะทำให้ผลตรวจละเอียดขึ้นไปอีก    

ซึ่งหลายคนเมื่อเป็นโรคกระเพาะแล้วมักจะเป็นอยู่เรื่อยๆ ไม่หายสักที บางคนบอกกินอาหารตรงเวลาแล้ว อาการก็ดีขึ้นเดี๋ยวเดียว อีกสักพักก็กลับมากำเริบอีก นั่นก็เพราะร่างกายเรายังมีเชื้อแบคทีเรียตัวนี้อยู่ก็เลยไม่หายซักที

ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การกำจัดเชื้อออกไปให้หมดด้วยการทานยาฆ่าเชื้อตามที่หมอสั่ง (ยกเว้นบางรายที่ดื้อยา) ซึ่งถ้ากำจัดเชื้อออกไปหมดแล้วไม่ค่อยมีใครกลับไปเป็นซ้ำอีก นอกจากจะไม่ต้องไปหาหมอรักษาโรคกระเพาะบ่อยๆ แล้วยังลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

ยกเว้นว่าช่วงที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารอยู่ ถ้ากินข้าวไม่เป็นเวลา กินอาหารไม่สะอาด กินรสเผ็ดจัด ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือกินยาที่กัดกระเพาะ น้ำย่อยก็อาจไปทำร้ายแผลเดิม อาการก็อาจกลับมากำเริบได้เช่นกัน


ข่าวมะเร็งต่อมน้ำเหลือง+มะเร็งวันนี้

"มะเร็งต่อมน้ำเหลืองพุ่งแตะ 7,000 รายต่อปี ชมรมฯ จัดงาน 'MIRACLE ปีที่ 11' ให้ความรู้ จุดพลังใจ รณรงค์วันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก" ตอกย้ำมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาหายได้

ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย งาน "MIRACLE 11: GLOW from WITHIN (ปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข: เปล่งประกายจากภายใน)"เนื่องในวันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลกซึ่งตรงกับวันที่ 15 กันยายนของทุกปี เพื่อส่งต่อข้อความแห่งความหวังที่ว่า "มะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาหายได้" กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ โซน Eden ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีผู้ป่วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศิลปินดารา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ภายในงานนอกจากจะมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาการเตือนเบื้องต้น

ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทยจั... เปิดประสบการณ์ผู้ป่วย 'สู้มะเร็งต่อมน้ำเหลือง' จนหายขาด เนื่องใน "วันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก" — ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทยจัดเสวนา "ปาฏิหาริย์...