นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน รวมทั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) "LEO" ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรครอบคลุมทั่วโลก (End - to - End Global Logistics Services) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.42 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) 27.40 เท่า มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่สอดคล้องกับสภาวะของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28-30 เดือนตุลาคม 2563 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในวันที่ 5 เดือนพฤศจิกายนนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขาย ว่า LEO
การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ได้แต่งตั้งบริษัท บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ครั้งนี้ จะทำให้บริษัทเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจให้เติบโตในอุตสาหกรรมการการให้บริการโลจิสติกส์ ได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต โดยมั่นใจว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นหุ้นที่อยู่ในธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ แม้จะเกิดภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลายธุรกิจทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบ
ด้านนายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ รองประธานคณะกรรมการบริษัท ประธานคณะผู้บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) "LEO" เปิดเผยว่า บริษัท จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปลงทุนในธุรกิจ Leo Self Storage & E-Fulfillment จำนวน 2 โครงการ / นำเงินไปพัฒนาระบบขนส่งผ่านแดนไปยังประเทศเมียนมาร์ / นำเงินไปขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและเป็นเงินทุนในการเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและกลุ่ม ASEAN เพื่อให้บริษัทเติบโตอย่างมั่งคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น หลังการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในอนาคตอันใกล้
" สำหรับ ผลดำเนินการของบริษัท ในช่วงปี 2560 – 2562 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 268.06 ล้านบาท 282.70 ล้านบาท และ 312.43 ล้านบาท ในขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกปี 2563 มีกำไรขั้นต้น 155.26 ล้านบาท ลดลงจาก 169.97 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และกำไรสุทธิในช่วงปี 2560-2562 เท่ากับ 17.75 ล้านบาท 26.86 ล้านบาท และ 47.03 ล้านบาท ตามลำดับ และกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกปี 2563 เท่ากับ 28.25 ล้านบาท ลดลง 7.09 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 แต่หลังจากรัฐบาลคลายล็อกมาตรการต่างๆ ธุรกิจก็เริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2 จากวิกฤติโควิด-19 ที่คลี่คลาย ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีกับธุรกิจโลจิสติกในภาพรวมและบริษัทด้วยเช่นกัน " นายเกตติวิทย์ กล่าว
LEO เข้าร่วมโครงการ "JUMP+" ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เสริมศักยภาพแข่งขันเวทีระดับประเทศและภูมิภาค ยกระดับธรรมาภิบาล หนุนเติบโตยั่งยืน
LEO เปิดงบ Q2/68 รายได้ 337.3 ลบ. รับรู้รายได้ขนส่งราง 6 เดือนแรกตามเป้า - ขยาย Non Freight และ Non-Logistics ต่อเนื่อง ลุยธุรกิจ Green Logistics ตอบโจทย์การให้บริการแบบ Sustainable Logistics
LEO เดินหน้าเต็มกำลัง! พร้อมให้บริการครบวงจร-ให้คำปรึกษา-ผนึกพันธมิตร รับมาตรการปรับลดภาษีนำเข้าไทย - หนุนโอกาสนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ รองรับการเติบโตระลอกใหม่ของโลจิสติกส์
NTFG ให้การต้อนรับ LEO พร้อมหารือโอกาสทางธุรกิจ
LEO สุดฮอต! เปิดฤดูกาลส่งทุเรียนทางรถไฟไปจีน 50 ตู้ ตอกย้ำ "LEO Reefer Container" คุณภาพ 100% จ่อรับเฟสสองเต็มกำลัง - หนุนรายได้ Non freight เติบโตต่อเนื่อง
พัฒนาระบบโลจิสติกส์ส่งออกทุเรียนไทย
LEO เปิดงบ Q1/68 รายได้ 346 ลบ. รับรู้รายได้ขนส่งรางเต็มปี ดันอนาคตโตแรง ขยายธุรกิจไม่หยุดยั้ง
ผถห. LEO ไฟเขียวปันผล 0.14 บาท/หุ้น รับทรัพย์ 14 พ.ค.นี้ เดินหน้ายุทธศาสตร์ "LEO Go Green" - รุกขยายธุรกิจใหม่ ดันกำไรขั้นต้นโตต่อเนื่อง พร้อมเสริมแกร่งโลจิสติกส์ทางรางไทย-จีน