บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) ตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นผู้นำเบอร์หนึ่ง ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่ม โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ในรูปแบบเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิตพร้อมทำงาน (Active) แห่งแรก ในประเทศไทย โดยจุลินทรีย์ได้รับการรับรองจากสถาบันวิจัยระดับโลก ตอบโจทย์ดีมานด์เทรนด์รักสุขภาพสำหรับกระตุ้นยอดขายโค้งสุดท้ายปีนี้ ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่หลายราย ล่าสุดปิดดีลออเดอร์ OEM ลูกค้ารายใหญ่ 2-3 รายแล้วคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี
นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดีโอดี ไบโอเทค จำกัด(มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มโพรไบโอติกส์ในตลาดโลกมีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยดูได้จากมูลค่าตลาดปี 2560 อยู่ที่ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและถูกคาดการณ์ว่าในปี 2564 จะเพิ่มเป็น 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตอย่างน้อยเฉลี่ย 11.2% ต่อปี ขณะที่ผู้บริโภคคนไทยมีแนวโน้มตอบรับ กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทกลุ่มโพรไบโอติกส์มากขึ้น เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันยอดขายบริษัทให้เติบโตได้อย่างชัดเจนในอนาคตอันใกล้
บริษัทฯ จึงได้ค้นคว้านวัตกรรมใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคคนไทยที่รักสุขภาพ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มใหม่ประเภทโพรไบโอติกส์ (Probiotics) โดยบริษัทฯนับว่าเป็นรายแรกของประเทศไทยที่มีโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มใหม่ประเภทโพรไบโอติกส์ (Probiotics) รูปแบบเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิตพร้อมทำงาน (Active) โดยการคัดเลือกเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (Active) ที่มีงานวิจัยรองรับในระดับสากลจากผู้ผลิตโพรไบโอติกส์ชั้นนำระดับโลก นำมาผ่านขั้นตอนกระบวนการผลิตในห้อง Lab ที่มีคุณภาพชั้นสูง เช่น การควบคุมอุณภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ เป็นต้น เพื่อให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์ที่การันตีจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ดีพร้อมทำงานช่วยรักษาสมดุลในร่างกายทั้งในระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย รวมทั้งเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีขึ้น
ล่าสุดบริษัทฯได้รับออเดอร์จากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหารเสริมรายใหญ่จำนวนหลายรายให้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอาหารประเภทโพรไบโอติกส์รูปแบบเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (Active) คาดว่าจะเริ่มส่งมอบสินค้าและรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2563 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี
"ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ประเภทโพรไบโอติกส์รูปแบบเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (Active) ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ล่าสุดบริษัทฯเริ่มได้รับออเดอร์จากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหารเสริมรายใหญ่จำนวน 2-3 รายจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอาหารประเภทโพรไบโอติกส์ คาดว่าจะเริ่มส่งมอบสินค้าและรับรู้รายได้ของกำลังการผลิตเฟสแรกในไตรมาส 4/2563 โดยมุ่งเน้นเป็นผลิตภัณฑ์ ผงในซองขนาดเล็ก 3 กรัม พร้อมรับประทาน โดยเบื้องต้นตั้งเป้าการผลิตสินค้าในช่วงแรกจะมีกำลังการผลิตอย่างน้อย 1 ล้านซองต่อเดือน คาดเป็นส่วนผลักดันรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100 ล้านบาทต่อปี และหลังจากนั้นก็จะพิจารณาขยายการผลิตเพิ่มมากขึ้นตามคำต้องการของกลุ่มลูกค้าอีกหลายราย และมีแนวทางเพิ่มผลิตภัณฑ์ประเภทแคปซูลในเฟสถัดไป"
นายธนิน ศรีเศรษฐี กล่าวย้ำว่า บริษัทฯมีความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มโพรไบโอติกส์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่จะได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภค เพราะด้วยขั้นตอนและกระบวนการผลิต รวมถึงการคัดเลือกนำเข้าเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (Active) ที่ได้รับการการันตีจากสถาบันระดับโลก ด้วยความโดดเด่นด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯจะเป็นผู้นำของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติกส์รูปแบบเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (Active) ของประเทศไทย
ReGenMed เปิดตัว "Nuvita? ClearPath+" ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูสุขภาพจากภาวะ Long Covid ที่ได้รับการรับรองจากอย. เป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชีย
GLORY รีแบรนด์ครั้งใหญ่สู่ "GLORY VITAL" เปิดเกมใหม่ด้วยคอนเซปต์ "Longevity" ก้าวขึ้นสู่เวทีโลก!
วัตสัน ส่งแคมเปญ "New Year, New Cheer" ตอบรับผู้บริโภคช่วงโค้งสุดท้ายของปี
สาธิตา ล้วนสมหวัง ผู้บริหารรุ่นใหม่ เปิดตัว "Onezela" วิตามิน 3 พลังแห่งยุค รุกตลาดอาหารเสริมเพื่อคนรุ่นใหม่ ครบจบในซองเดียว
DOD กำไรส่วนของบริษัทใหญ่ ไตรมาส 3/68 พุ่ง 35.04% ส่งสัญญาณการฟื้นตัว หลังทำกำไรโตติดต่อกัน 5 ไตรมาส
BLC โชว์ผลงาน 9 เดือนปี 68 เติบโตแข็งแกร่ง รายได้แตะ 1,257.1 ล้านบาท พุ่ง 10.9% โค้งสุดท้ายลุยยาสามัญใหม่รักษาโรคเบาหวาน เร่งเครื่องโรงงานแห่งใหม่คาดเสร็จปี 69 หนุนโต
"อาร์เอ็กซ์ ไบเทค" เปิดฉาก COSMEX 2025 จุดประกาย "Glow to Grow" หนุนอุตสาหกรรมความงามอาเซียนสู่เวทีโลก"
DOD อานิสงส์ "เจนนี่ ฟีเวอร์" 3 อินฟลูฯ ชื่อดังยอดขายทะลัก เร่งสั่งผลิตสินค้าเพิ่ม หนุนยอดผลิตออเดอร์ซ้ำเดือน ต.ค.พุ่งกระฉูด
JSP พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐเพิ่มทางเลือกใช้ยาไทย เปิดอินไซต์ยาไทยต้องนำเข้าตัวยานอกมาผสมถึง 90% แนะหนุน R&D เพื่อลดต้นทุนนำเข้าอย่างตรงจุด เพิ่มตู้จ่ายยาอัตโนมัติขยายการเข้าถึงให้ปชช.