บลจ.กสิกรไทย แนะกระจายเสี่ยงเลี่ยงผันผวน ชวนลงทุนตามเป้าหมายผ่าน Balanced Fund

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บลจ.กสิกรไทย ชู 3 ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการลงทุน แนะ K-GINCOME-A(R) สำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนระหว่างลงทุน และ K-FIT สำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาว 3-5 ปี รวมถึงบริการ Wealth PLUS สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแผนการลงทุนผ่านบริการจัดพอร์ตให้อัตโนมัติด้วยระบบอัจฉริยะ (Robo Advisor)

บลจ.กสิกรไทย แนะกระจายเสี่ยงเลี่ยงผันผวน ชวนลงทุนตามเป้าหมายผ่าน Balanced Fund

นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า การกระจายการลงทุน (Diversification) ถือเป็นกลยุทธ์ที่สามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงประเภทเดียว ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุด บลจ.กสิกรไทย ได้แนะนำวิธีการกระจายการลงทุนผ่าน Balanced Fund หรือ กองทุนผสม ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม-A ชนิดรับซื้อคืนอัตโนมัติ (K-GINCOME-A(R)) กองทุนเปิดเค ฟิต แอลโลเคชั่น (K-FIT) และบริการ Wealth PLUS ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยจัดพอร์ตลงทุนส่วนตัวบน K PLUS เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนภายใต้สถานการณ์การลงทุนที่ยังคงมีความผันผวนสูง โดยพอร์ตของกองทุนและบริการดังกล่าวจะกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั้งเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก เป็นต้น อีกทั้งยังมีการปรับสัดส่วนให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

นายสุรเดชกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย พยายามค้นหาปัญหาของผู้ลงทุนที่มีต่อการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งพบว่าผู้ลงทุนมือใหม่อยากเริ่มที่จะลงทุน แต่ยังรับความเสี่ยงได้ไม่มาก และไม่รู้จังหวะในการเข้าลงทุน สำหรับผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนมาแล้วส่วนใหญ่มักลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งมากหรือน้อยเกินไป ไม่ได้กระจายความเสี่ยง หรือไม่มีเวลาปรับพอร์ตด้วยตนเอง ทำให้ได้รับผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ดังนั้น การลงทุนผ่านกองทุน K-GINCOME-A(R) หรือ K-FIT รวมถึงบริการ Wealth PLUS จึงช่วยปรับการลงทุนให้มีความสมดุล และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ทุกช่วงเวลา ไม่ต้องจับจังหวะลงทุนเอง เพราะกองทุน/บริการจะปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทให้อัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวน และเพิ่มโอกาสการทำกำไร

"การเลือกลงทุนใน Balanced Fund ควรพิจารณาจากเป้าหมายการลงทุนเป็นหลัก โดยผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนระหว่างลงทุน ควรเลือกกองทุน K-GINCOME-A(R) ซึ่งมีนโยบายรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกเดือน และสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวประมาณ 3-5 ปี สามารถเลือกกลุ่มกองทุน K-FIT ซึ่งมีให้เลือกด้วยกัน 4 รูปแบบ แตกต่างกันตามสัดส่วนของสินทรัพย์ที่ลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้เลือกลงทุนตามผลตอบแทนของดัชนีชี้วัด 3%, 5.5%, 7% และ 8.5% ต่อปี และตามความเสี่ยงที่รับได้ นอกจากนี้ยังมีบริการ Wealth PLUS ซึ่งเป็นบริการจัดพอร์ตให้อัตโนมัติด้วยระบบอัจฉริยะ (Robo Advisor) ตามเป้าหมายการลงทุน โดยระบบจะช่วยประเมินความเสี่ยง และเลือกกองทุน อีกทั้งยังปรับพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ (Auto Rebalance) ทุกๆ 6 เดือน ตามสภาวะตลาดและความเสี่ยงที่ยอมรับได้" นายสุรเดชกล่าว

นายสุรเดชกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-GINCOME-A(R) และ K-FIT สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน K PLUS, K-My Funds, K-Cyber Invest และธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา (เฉพาะ K-GINCOME-A(R)) โดยในกรณีที่ผู้ลงทุนซื้อผ่านช่องทาง K PLUS, K-My Funds และ K-Cyber Invest จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการขายถึงวันที่ 30 ธ.ค. 63 และสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจบริการ Wealth PLUS สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ผ่าน K PLUS ด้วยเงิน 10,000 บาท และลงทุนครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1,000 บาท โดยสามารถเลือกให้ระบบลงทุนอัตโนมัติทุกเดือน (DCA) ได้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน - กองทุนมีนโยบายที่แตกต่างกันทั้งด้านสินทรัพย์/ภูมิภาค/ประเทศ/กลุ่มธุรกิจที่กองทุนลงทุน ราคาของหลักทรัพย์จึงมีความผันผวนตามปัจจัยที่กระทบ - กองทุน K-GINCOME-A(R) ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ - กองทุน K-FIT ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน - เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.อีสท์สปริง โชว์จ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ 3 กองทุน รวม 342 ล้านบาท ดีเดย์ 22 ธ.ค. 68 นี้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible (ES-APPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ส่วนอีก 2 กองทุน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus

บลจ.ทิสโก้ปลื้มกองทุน ทิสโก้ โกลบอล สมาร์... บลจ.ทิสโก้ ปลื้ม ! กองทุน TGSMART กระแสตอบรับดี ประกาศเพิ่มทุนเป็น 4,000 ล้านบาท — บลจ.ทิสโก้ปลื้มกองทุน ทิสโก้ โกลบอล สมาร์ท แอลโลเคชั่น (TGSMART) กระแสต...

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไว้วางใจ บริษั... ธปท.แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ ร่วมบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ — ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไว้วางใจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ.ทิสโก้) แต่งตั...

BBLAM เสนอขาย IPO กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 1... BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/25' วันที่ 3-8 ธ.ค. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/25 หรือ Bualuang Thanarat 10/25 เน้นลงทุ...