บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้รับการจัดอันดับเป็น องค์กรนายจ้างยอดเยี่ยมระดับโลกแห่งปี 2020 (The World's Best Employer 2020) จัดโดยนิตยสาร "ฟอร์บส์" และเป็นอันดับที่ 1 ในฐานะบริษัทไทยจากความโดดเด่นในการมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับสังคมไทยและกิจการในต่างประเทศ พร้อมยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและป้องกันเชื้อโควิด-19 ตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่างเคร่งครัด สร้างความมั่นคงทางอาหารและส่งมอบปลอดภัยอย่างเพียงพอให้กับผู้บริโภค
ในปีนี้นิตยสาร "ฟอร์บส์" ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการเงินและธุรกิจชั้นนำระดับโลกของสหรัฐ ร่วมกับ Statista ได้สำรวจความคิดเห็นพนักงานประจำและชั่วคราว 160,000 คนใน 58 ประเทศทั่วโลก เพื่อสรรหาองค์กรนายจ้างยอดเยี่ยมระดับโลก แห่งปี 2020 (The World's Best Employer 2020) โดยมีบริษัทไทยติดอันดับครั้งนี้ 4 บริษัท ซึ่ง ซีพีเอฟ จัดอยู่ในอันดับที่ 248 ถือเป็นอันดับที่ 1 ของไทย ตามด้วยบริษัทฮานา ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ อันดับที่ 263, บริษัท ปตท. อันดับที่ 476 และการบินไทย อันดับที่ 673
ทั้งนี้ ซีพีเอฟ มีการดำเนินงานด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานจากการสำรวจในหัวข้อ ความต้องการของพนักงานที่อยากจะชักชวนเพื่อนๆ ญาติพี่น้องให้เข้ามาทำงานด้วยกัน, ภาพลักษณ์ของบริษัทต่อสาธารณชน, บทบาทของบริษัทที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและโลก, โครงการพัฒนาทักษะพนักงาน, ความเท่าเทียมทางเพศ, ความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนความพึงพอใจที่มีต่อการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซีพีเอฟ เป็นบริษัทแรกของไทยที่ประกาศยกระดับความปลอดภัยของพนักงานขึ้นสู่ระดับสูงสุด ด้วยมาตรการป้องกันที่เข้มงวดด้านสุขอนามัยทั้งห่วงโซ่การทำงานตั้งแต่ที่บ้าน การเดินทางไป-กลับ การปฏิบัติตัวในระหว่างทำงาน การรับประทานอาหาร การรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) และระยะห่างทางบุคคล (Physical Distancing) การติดตั้งประตูสแกนอุณหภูมิร่างกายแบบเดินผ่านก่อนเข้าสู่สายการผลิตอาหาร เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่และจุดที่สัมผัสบ่อย รวมถึงเพิ่มการขนส่งด้วยระบบสายพาน เพื่อลดการสัมผัสของพนักงาน ตลอดจนการส่งอาหารให้พนักงานที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและกักตัวที่บ้าน เป็นต้น ส่งผลให้บริษัทฯ ไม่มีการรายงานพนักงานเจ็บป่วยด้วยโรคระบาดในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งมาตรการดังกล่าวใช้เป็นแนวทางปฏิบัติทั้งกิจการในประเทศไทยและกิจการในต่างประเทศ และมีการสื่อสารให้พนักงานรับทราบข้อมูลข่าวสารสถานการณ์อย่างทั่วถึง
นอกจากมาตรการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการผลิตอาหารได้อย่างต่อเนื่องและเพียงต่อความต้องการบริโภคแล้ว บริษัทฯ ยังร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ในการส่งมอบอาหารปลอดภัยเพื่อช่วยเหลือสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่องใน "โครงการ ซีพีเอฟ ส่งอาหารจากใจร่วมต้านภัยโควิด-19" ให้กับแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ชุมชนต่างๆ ผู้มีรายได้น้อย ตลอดจน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน สร้างความภาคภูมิใจให้กับพนักงานทุกคนที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในแสดงความรับผิดชอบต่อประเทศไทยในภาวะวิกฤติ และการแสดงบทบาทร่วมกับบริษัทฯในฐานะ Good Corporate Citizen
การพัฒนาทรัพยากรบุคคลตามความสามารถ ควบคู่ไปกับมุมมองของจิตสำนึกที่ดีสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร (CPF Way) เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของ ซีพีเอฟ ที่ใช้ดำเนินธุรกิจและสร้างบุคลากรให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับองค์กรระดับโลก โดยบริษัทมีการสำรวจระบบผลประโยชน์ตอบแทนและสวัสดิการพนักงานเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดีและอำนวยสะดวกด้านสถานที่ปฏิบัติงานและอุปกรณ์ทำงานอย่างเหมาะสม สนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแก่พนักงานตลอดระยะเวลาที่ทำงานร่วมกับ ซีพีเอฟ (Work Life Balance) จนกระทั่งพนักงานเกษียณอายุ
CPF เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุระหว่าง 4 - 8 ปี อันดับความน่าเชื่อถือระดับ "A" เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2568 จำนวน 24,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 57
ซีพีเอฟ รับรางวัล CAC Change Agent 2568 ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล
พันธมิตรคู่ค้า CPF แสดงพลังสร้างอาหารมั่นคง ยกระดับขีดความสามารถอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่ตลาดโลก
CPF รับรางวัล BEST CEO และ BEST IR เวที IAA Awards 2025
เครือซีพี - ซีพีเอฟ เสิร์ฟนวัตกรรมอาหารปลอดภัยมาตรฐานอวกาศที่งาน Thailand-China Cooperation Expo 2025
CPF ส่งผลิตภัณฑ์กลุ่มไข่ไก่สด ไข่ต้ม ไข่สมุนไพร และอาหารพร้อมทาน รับฉลากสิ่งแวดล้อม
CPF รับรางวัล PM's Export Award 2025 ผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน
เคียงข้างสังคมไทย! CPF ชวนคนไทย ร่วมฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน "ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้"
ซีพีเอฟจับมือคู่ค้าร่วมขับเคลื่อนสู่ "ธุรกิจคาร์บอนต่ำ" เสริมศักยภาพแข่งขันด้วยสินค้ารักษ์โลก