สทนช.ศึกษาแผนหลักพัฒนาลุ่มน้ำห้วยโมง - ลำพะเนียง และต้นน้ำพอง แก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบทั้งลุ่มน้ำ พร้อมเชื่อมโยงผลกระทบ สปป.ลาว สร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

วันที่ 8 ธ.ค.63 ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยโมง-ลำพะเนียงและต้นน้ำพอง ณ อ.เชียงคาน จ.เลย ว่า ลุ่มน้ำห้วยโมง ลำพะเนียงและต้นน้ำพอง รวมไปถึงพื้นที่ข้างเคียง เป็นพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอยู่ในเกณฑ์สูง ด้วยปัจจัยด้านภูมิประเทศและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การรุกล้ำเข้าไปอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม การบุกรุกเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินตามแนวระบายน้ำธรรมชาติ และมีการสร้างสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ ขณะที่พื้นที่ทำการเกษตรส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรน้ำฝนจึงเสี่ยงต่อการขาดน้ำในช่วงฝนทิ้งช่วง มีแหล่งเก็บกักน้ำไม่เพียงพอ ดังนั้น สทนช.จึงดำเนินโครงการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งสำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยโมง-ลำพะเนียงและต้นน้ำพอง รวมถึงแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระดับตำบลอย่างเป็นระบบแบบบูรณาการ ครอบคลุมมาตรการกลยุทธ์ต่าง ๆ ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ทั้งที่ใช้และไม่ใช้สิ่งก่อสร้างเพื่อนำไปสู่การบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งมิติวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยชุมชนหรือท้องถิ่นเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2564 และส่งต่อให้หน่วยงานปฏิบัติทำแผนปฏิบัติการภายใต้แผนหลักในแนวทางเดียวกันต่อไป

สทนช.ศึกษาแผนหลักพัฒนาลุ่มน้ำห้วยโมง - ลำพะเนียง และต้นน้ำพอง แก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบทั้งลุ่มน้ำ พร้อมเชื่อมโยงผลกระทบ สปป.ลาว สร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ

"ขอบเขตพื้นที่ศึกษาตั้งอยู่ตอนบนของลุ่มน้ำชีบริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์และบางส่วนของลุ่มน้ำโขง โดยลุ่มน้ำโมงตอนบนเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง ครอบคลุมพื้นที่ 33 ตำบล 8 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดหนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี ลุ่มน้ำลำพะเนียงเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง ครอบคลุมพื้นที่ 33 ตำบล 5 อำเภอของจังหวัดหนองบัวลำภู และลุ่มน้ำเชิญ เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง ครอบคลุมพื้นที่ 51 ตำบล 9 อำเภอใน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น และชัยภูมิ รวมถึงพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พื้นที่ที่มีศักยภาพชลประทานในการรองรับน้ำผันจากโครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล ระยะที่ 1 พื้นที่ต้นน้ำห้วยโมง พื้นที่ต้นน้ำลำพะเนียง พื้นที่ต้นน้ำพองด้านเหนือน้ำของอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ และพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นต้น" ดร.สมเกียรติ กล่าว สทนช.ศึกษาแผนหลักพัฒนาลุ่มน้ำห้วยโมง - ลำพะเนียง และต้นน้ำพอง แก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบทั้งลุ่มน้ำ พร้อมเชื่อมโยงผลกระทบ สปป.ลาว สร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ

อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาในพื้นที่ศึกษาจำเป็นต้องพิจารณาศักยภาพของการใช้น้ำที่เชื่อมโยงกับแม่น้ำโขง ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำบนลำน้ำโขงในพื้นที่ สปป.ลาว ที่ปัจจุบันก่อสร้างแล้ว 1 โครงการ คือ ไซยบุรี และผ่านขั้นตอน PNPCA 3 โครงการ คือ ปากแบง หลวงพระบาง และปากลาย และโครงการล่าสุดที่อยู่ระหว่างขั้นตอนเริ่ม PNPCA 1 โครงการ คือ โครงการสานะคาม ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนโค้งน้ำและใกล้กับเขตชายแดนไทยมาก จึงต้องมีความชัดเจนถึงผลกระทบก่อนการพัฒนาโครงการ อาทิ การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสังคมข้ามพรมแดน มาตรฐานความปลอดภัยของเขื่อน มาตรการน้ำหลาก มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่ชัดเจนในรูปแบบของกองทุนในการป้องกันผลกระทบให้กับประชาชนที่ฝ่ายไทยได้พยายามผลักดันในเวทีเจรจา 4 ประเทศมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน สทนช. ยังจะพิจารณาให้พื้นที่ริมน้ำโขงที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบจัดอยู่ในเป้าหมายการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ ( Area based) เพื่อการพัฒนาแหล่งน้ำในอนาคตด้วย ขณะที่ในด้านของพลังงานที่จะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการก่อสร้างโครงการนี้ ทางกระทรวงพลังงานของไทยจะเป็นผู้พิจารณาความต้องการที่จะนำเข้าไฟฟ้าจาก สปป.ลาวเช่นกัน

"ขณะนี้ สทนช. ได้เสนอท่าทีประเทศไทยไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) พิจารณาผลกระทบของเขื่อนสานะคามอย่างรอบคอบ เพื่อประกอบการให้ข้อมูลกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใน 8 จังหวัดโดยเร็ว รวมถึงพยายามสร้างกลไกการขับเคลื่อนแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ โดยร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาสังคมในพื้นที่ 8 จังหวัดริมน้ำโขง จัดกิจกรรมกำหนดเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำและพันธุ์พืชน้ำแม่น้ำโขง ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพคณะกรรมการลุ่มน้ำโขง ชี มูล ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกที่มุ่งหวังให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในแม่น้ำโขง ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของเครือข่ายชุมชนที่แข็งแรง โดยเฉพาะการแจ้งเตือนและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ เพื่อประโยชน์ในการวางแผนบริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สทนช. จับมือเขื่อนภูมิพล ปรับลดการระบายน้ำบรรเทาท่วมภาคกลาง

สทนช. ประชุมด่วนวางแผนปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล หลังคาดฝนภาคเหนือจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นวันพรุ่งนี้ จาก 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และวันถัดไปปรับลดอีกเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อลดมวลน้ำที่ไหลลงสู่ภาคกลาง วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2568) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ

สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้ สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วย...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....