นอกจากจะต้องสู้กับโควิด-19แล้ว ในช่วงนี้ชาวกรุงเทพฯและปริมณฑลยังต้องพร้อมรับมือกับ "ฝุ่น PM 2.5" ที่กลับมาทักทายอีกครั้ง ตอนนี้ก็เริ่มวัดค่าฝุ่นได้บางจุดว่าอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว
หลายคนก็อาจจะเริ่มชินและรู้สึกว่ามันคือเรื่องธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นผลกระทบที่มีต่อสุขภาพก็ไม่ได้ลดลงไปแม้แต่น้อยเลยนะครับ...โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอย่างเช่น เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ขอย้อนกลับไปเล่าถึงความร้ายกาจของเจ้า "ฝุ่น PM 2.5" คร่าวๆ ให้ทราบกันอีกสักทีว่ามีผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
เจ้าฝุ่น PM 2.5 นี้มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรือเล็กกว่าเส้นผมของเรา ลอยปะปนอยู่ในอากาศไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขนจมูกไม่สามารถกรองได้ คนทั่วไปที่สูดเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าไป จะมีอาการระคายเคืองจมูก น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบการหายใจ รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด จะทำให้โรคที่เป็นอยู่กำเริบขึ้นมาได้ ส่วนในระยะยาวอาจทำให้เป็นมะเร็งปอด การทำงานของปอดแย่ลงและทำให้มีปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมาอีกมากมาย
และเมื่อยังคงต้องทำงานและใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ต่อไปหนีไปไหนไม่ได้ ก็ต้องหาทางหลีกเลี่ยงและป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 ให้ได้มากที่สุด การป้องกันที่ดีที่สุดคือการใส่หน้ากาก N95 แต่ถ้าหาไม่ได้ เราสามารถทดแทนได้ด้วยการนำ Dura Mask หรือแมสปิดหน้าสีเขียวๆ ที่เราเห็นหมอใส่กันในห้องผ่าตัดนี่แหละ นำมารวมร่างกับทิชชู่เนื้อละเอียด 2 แผ่น (พวกทิชชู่แบบดึง) พับให้เหลือขนาดประมาณ 3x5 นิ้ว วางตามแนวยาวของแมส แล้วใส่แมสให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีนี้สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ในระดับใกล้เคียงกับการใส่หน้ากาก N95 เลยนะ ยังไงช่วงนี้ก็อย่าลืมหาหน้ากากมาใส่ป้องกันกันด้วยหล่ะ.. และที่สำคัญต้องใส่และปรับหน้ากากให้แนบกับใบหน้าที่สุดเพื่อประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น
ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นตรวจสอบคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิด แนะนำให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่น Air Visual หรือ Air4Thai ติดเครื่องไว้ จะได้ตรวจสอบแบบ Real Time ได้ว่าขณะนี้ฝุ่นเยอะแค่ไหน? ควรใส่หน้ากาก N95 หรือยัง และควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันฝุ่นนะครับ..
RSV (Respiratory Syncytial Virus)คือไวรัสที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ โดยแพร่กระจายผ่านทางการไอหรือจาม พบมากในเด็กทารกและเด็กเล็ก อาการมีได้ตั้งแต่เป็นไข้หวัดธรรมดา จนถึงหลอดลมอักเสบ หรือปอดบวม และแม้จะรักษาหายดีแล้วก็สามารถกลับเป็นใหม่ได้อีก มักระบาดมากช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว แม้จะเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้
กทม. เข้มเฝ้าระวังโควิด 19 ในกลุ่มผู้สูงอายุ - เตรียมพร้อมสถานพยาบาลรองรับผู้ป่วย
—
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวถ...
ยอดป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่ง กรมอนามัย แนะสวมหน้ากากอนามัย-กินร้อน-ช้อนกลาง-ล้างมือ ป้องกันโรค
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วง ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้...
พนักงาน เฟดเอ็กซ์ ร่วมส่งมอบความสุขช่วงเทศกาล ผ่านการช่วยเหลือ ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
—
ด้วยความมุ่งมั่นในการสนับสนุนชุมชน และช่วยเหลืออย่างไม่ลด...
"สมศักดิ์" ลงพื้นที่มอบ "มุ้งสู้ฝุ่น" เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ลดสูดฝุ่น PM2.5
—
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ...
ค่าฝุ่น 'สูง' กรมอนามัย หวั่น กระทบสุขภาพประชาชน แนะ เด็ก ผู้สูงอายุสวมหน้ากากป้องกัน
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ช่วงนี้ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ...
กทม. เฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ เตรียมพร้อมมาตรการดูแลสุขภาพประชาชนช่วงฤดูหนาว
—
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวถึงการเ...
ไวรัส RSV ภัยร้ายใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
—
RSV (Respiratory Syncytial Virus)คือไวรัสที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ โดยแพร่กระจายผ่านทางการ...
หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงใย ประชาชน โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้...