แพลตฟอร์มแรกที่ควบคุมการทำงานผ่านการโปรแกรมได้อย่างสมบูรณ์เพื่อผสานรวมระบบเครือข่าย IT, IoT และ OT พร้อมด้วยการทำ Zero Trust Security และ AIOps ทำให้ธุรกิจองค์กรสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติและปรับปรุงระบบเครือข่ายให้มีความปลอดภัย, มีความมั่นคงทนทาน และใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในวันนี้ อรูบ้า (Aruba) บริษัทในเครือฮิวเลตต์แพคการ์ดเอ็นเตอร์ไพรส์ (NYSE: HPE) ได้ออกมาประกาศถึงการปรับปรุงครั้งใหญ่ของ Aruba ESP (Edge Services Platform) ที่ผนวกรวมเอาระบบเครือข่ายสำหรับ IoT, IT และ Operational Technology (OT) เข้าด้วยกันเพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว Aruba ESP คือแพลตฟอร์มแรกที่สามารถควบคุมการทำงานผ่านการโปรแกรมได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อสร้างข้อมูลแวดล้อม เช่น ข้อมูลระบุตัวตน, สถานที่, สถานะความมั่นคงปลอดภัย และแอปพลิเคชันที่กำลังใช้งานอยู่ เพื่อใช้ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำไปใช้ในการทำ AIOps ด้วยระบบถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์และแอปพลิเคชันจากพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยีของอรูบ้านี้ ลูกค้าของอรูบ้าจึงสามารถรับรู้สถานะการทำงานเชิงลึก (Hyper-Aware) ของสภาพแวดล้อมที่ใช้ในการทำงานได้ และทำให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อรองรับต่อความต้องการของธุรกิจ, ผู้มาเยี่ยมชม และพนักงานที่เปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลาในทุกวันนี้ "โครงข่ายที่ทุกสิ่งเชื่อมโยงถึงกัน" (Connected Facilities) นั้นสามารถรองรับได้เพียงการเชื่อมต่ออุปกรณ์สำหรับบริการด้านการควบคุมเพียงบางส่วนเท่านั้น ในขณะที่โครงข่ายที่สามารถรับรู้สถานะการทำงานเชิงลึก (Hyper-aware Facility) ได้นี้จะใช้ข้อมูลแวดล้อมที่ถูกสร้างขึ้นโดย Aruba ESP เพื่อให้โครงข่ายสามารถปรับตัวให้เข้ากับผู้ใช้งานและสภาพแวดล้อมในการทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ด้วยการผสานรวมเครือข่าย IoT, IT และ OT เข้าด้วยกันภายใต้แพลตฟอร์ม Aruba ESP และการรับรู้ถึงข้อมูลแวดล้อมอย่างครบถ้วนนี้ จึงทำให้โครงข่ายแบบ Hyper-aware Facility นี้ก็จะมีความปลอดภัยที่สูงขึ้น, สามารถปรับตัวได้ดีขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แนวทางนี้ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ที่จะสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่เหนือกว่าการเชื่อมต่อเพียงทั่วไป ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเครือข่ายด้วยการใช้ Machine Learningการปรับปรุงครั้งนี้ของ Aruba ESP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบ Cloud-Native ซึ่งขับเคลื่อนโดย AI ได้ผนวกรวมเอาความสามารถในการรับรู้, การวิเคราะห์ และการตอบสนองต่อข้อมูลจากอุปกรณ์และข้อมูลแวดล้อมเอาไว้ด้วยกัน อุปกรณ์แอคเซสพอยท์ (Access Points) และสวิตช์ (Switches) ของอรูบ้าจะถูกใช้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับ IoT และ OT ที่สามารถรองรับการทำงานได้หลายโปรโตคอลเพื่อเชื่อมต่อกับพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยีในระบบนิเวศของอรูบ้าที่กำลังเติบโต โดยทั่วไปแล้วระบบใด ๆ ที่มีการใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์เพื่อรับข้อมูลหรือแสดงผล (I/O) นั้นสามารถใช้งานได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นระบบสำหรับใช้งานในสายการผลิตของโรงงานหรือระบบมัลติมีเดียในห้องของ CEO ตั้งแต่ระบบตรวจสอบการเว้นระยะทางสังคม, ระบบตรวจสอบเสียงปืน, อุปกรณ์ตรวจสอบการหมุนของเครื่องจักร ไปจนถึงระบบนำทางแขกผู้มาเยี่ยมชม โดยมีโซลูชันที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับใช้งานในสถานศึกษา, องค์กรธุรกิจ, โรงพยาบาลและสาธารณสุข, โรงแรมและที่พักอาศัย, โรงงานอุตสาหกรรม, การผลิต, ธุรกิจค้าปลีก, การคมนาคมขนส่ง และหน่วยงานภาครัฐกรณีการใช้งาน (Use Cases) ของการรับรู้สถานการณ์ทำงานในเชิงลึกของของ Aruba ESP นี้ได้แก่ อาคารอัจฉริยะ, โรงงานอุตสาหกรรมและการผลิต และการใช้ Intelligent Edge สำหรับงานอื่น ๆ:อาคารอัจฉริยะที่รับรู้ถึงสถานการณ์ทำงานในเชิงลึกสำหรับองค์กรธุรกิจ, สถานศึกษา, โรงพยาบาลและสาธารณสุข, โรงแรมและที่พักอาศัย, ธุรกิจค้าปลีก และหน่วยงานภาครัฐ
- การควบคุมอาคารและการทำ Digital Twin - ด้วยการใช้ความสามารถของ AI ที่มีในระบบเพื่อสร้างโมเดลจำลองอย่างทันท่วงที (Real-Time Simulation Models) ที่เปลี่ยนแปลงและเรียนรู้ถึงขั้นตอนต่าง ๆ ภายในอาคาร อรูบ้าได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยีอย่างเช่น Microsoft Azure IoT เพื่อสร้างคู่แฝดดิจิทัลหรือโมเดลของซอฟต์แวร์ขึ้นมาเพื่อระบุถึงกระบวนการย่อยในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ, การแนะนำการปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการตรวจสอบแนวโน้มของการใช้พลังงานที่จำเป็นต่อการปรับปรุงแก้ไขในเชิงรุก
- การตอบสนองและแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงทีโดยมีข้อมูลแวดล้อมประกอบ - ไม่ว่าจะเกิดเหตุร้ายใด ผู้ที่อยู่ภายในอาคารนั้นย่อมต้องการรับทราบถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยในแบบทันท่วงที (Real-Time Safety Information) ส่งตรงมายังอุปกรณ์พกพา ในขณะที่ผู้ที่ต้องรับมือกับเหตุการณ์นี้ก็จะต้องทำการสื่อสารอย่างต่อเนื่องถึงภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ Aruba ESP ที่มาพร้อมกับโซลูชันจากพันธมิตรด้านเทคโนโลยีอย่างเช่น Critical Arc และ Patrocinium สามารถทำการสื่อสารไปยังผู้ที่อยู่ภายในอาคาร, แขกผู้มาเยี่ยมชม และพนักงานภายในอาคารได้ โดยมีการใช้เทคโนโลยีกราฟฟิก 4 มิติที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อให้ผู้ที่ต้องรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้สามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าผู้คนในพื้นที่ใดของอาคารกำลังประสบเหตุดังกล่าวอยู่บ้าง
- ต่อยอดจาก 5G อย่างไร้รอยต่อด้วย Wi-Fi - Aruba ESP เปิดให้ผู้ให้บริการโครงข่ายสัญญาณโทรศัพท์สามารถต่อยอดระบบ 5G ให้ครอบคลุมภายในอาคารได้อย่างไร้รอยต่อและให้บริการ Wi-Fi Calling ได้ด้วยประสิทธิภาพในระดับกิกะบิตด้วยการใช้เทคโนโลยี Aruba Air Slice แนวทางนี้จะช่วยส่งมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อให้กับผู้ใช้งานและสามารถเชื่อมต่อได้อย่างต่อเนื่อง
- การเปลี่ยนจากการซ่อมบำรุงแก้ไขไปสู่การบำรุงรักษาล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุ - การซ่อมบำรุงรักษาล่วงหน้าในประเด็นปัญหาที่ตรวจพบสามารถช่วยลดเวลาที่ต้องหยุดทำงาน และเพิ่มอัตราการใช้งานและประสิทธิภาพของทรัพย์สินที่มีอยู่ได้ โดยแนวทางนี้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาลงได้สูงสุดถึง 40% ด้วยการผสานการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ของพันธมิตรทางเทคโนโลยีอย่างเช่น Ability Smart Sensor จาก ABB ก็ทำให้ Aruba ESP รองรับการทำให้เซ็นเซอร์สำหรับเครื่องจักรสามารถตรวจสอบอุปกรณ์อย่างเช่นมอเตอร์, วาล์ว และปั๊มเพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ ระบุปัจจัยที่อาจทำให้เกิดปัญหาได้ก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นจริง, ปรับปรุงประสิทธิภาพ, ความมั่นคงทนทาน และเพิ่มความคุ้มค่าให้สูงยิ่งขึ้นได้
- ลดเวลาที่ใช้ในการซ่อมแซมด้วย Location Services - การเดินทางในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่นั้นอาจเป็นความท้าทายซึ่งทำให้เกิดความไม่มีประสิทธิภาพและอาจส่งผลต่อประเด็นด้านความปลอดภัยได้ นวัตกรรมจาก Aruba Meridian และ Aruba ESP สามารถทำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่โรงงานมีข้อมูลนำทางอย่างละเอียดในการเดินทางไปยังเป้าหมายปลายทางได้โดยไม่ต้องมีความช่วยเหลือจากพนักงานคนอื่น ๆ
- ตรวจสอบความปลอดภัยของบุคลากรและทรัพย์สิน - สำหรับสภาพแวดล้อมที่อาจเกิดเหตุระเบิดได้ ระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่นั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยปกป้องพนักงานและแขกผู้มาเยี่ยมชม Aruba ESP ร่วมกับพันธมิตรทางเทคโนโลยีอย่าง Mobilaris สามารถนำเสนอระบบตรวจสอบสถานการณ์แบบ 3 มิติได้ด้วยการติดตามสถานที่ของผู้คนและทรัพย์สิน และยังสามารถทำงานร่วมกับระบบระบายอากาศอัตโนมัติ, ระบบควบคุมการเข้าออกในพื้นที่ และระบบนำทางบนยานพาหนะได้
