นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไทยพาณิชย์ ยังคงแนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนประเภท Super Savings (ชนิดเพื่อการออม) เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยกองทุนรวม RMF ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท หรือไม่เกิน 15% ของรายได้ และกองทุน SSF ได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่เสียภาษีแต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ และเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล
สำหรับกองทุนรวม RMF แนะนำ 2 กองทุน ได้แก่ คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM3) เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ตั้งแต่ 0-100% เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในแต่ละช่วงเวลา โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในกองทุนที่มีการบริหารแบบยืดหยุ่น
และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Population Trend เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMPOP) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Fidelity Global Demographics Funds ที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ทั้งการเพิ่มจำนวนประชากร การขยายตัวของชนชั้นกลางและสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเทรนด์ในระยะยาว ที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นไปอีกไม่ต่ำกว่า 50 ปีข้างหน้า เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว ในขณะที่มีความผันผวนต่ำกว่ามาตรฐานการลงทุนในหุ้นโดยทั่วไป โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ พร้อมโอกาสในการสร้างผลตอบแทนไปกับธุรกิจที่เติบโตตามเทรนด์ของประชากรทั่วโลก
ส่วนกองทุนรวม SSF ได้แนะนำ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLT2-SSF) มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี มีความมั่นคงสูง เน้นการลงทุนหุ้นที่มีนโยบายหรือมีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัททั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนตราสารการเงินอื่น ๆ ในสัดส่วนที่เหมาะสมของแต่ละช่วงเวลา โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทย และต้องการลงทุนในรูปแบบกองทุน LTF เดิม
และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้น Low Volatility (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLEQ-SSF) มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีคุณภาพด้านปัจจัยพื้นฐานดีและมีความผันผวนต่ำ โดยลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Low Volatility Equity Portfolio (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) I สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) บริหารโดย AllianceBernstein L.P โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้กองทุนหลักลงทุนในหุ้นทั่วโลกมีการบริหารจัดการเชิงรุก (Active) โดยการคัดเลือกหุ้นในพอร์ตที่มีคุณภาพดี มีความผันผวนต่ำ ราคาน่าสนใจ สามารถลดความผันผวนในพอร์ตโดยรวมได้ ปัจจุบันมีการกระจายการลงทุนในหุ้น 70 - 90 ตัว กระจายการลงทุนไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มไอที การเงิน เฮลท์แคร์ และสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฯลฯ โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นโลกที่มีความผันผวนต่ำ และช่วยลดความเสี่ยงเมื่อตลาดขาลง
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ลงทุนในกลุ่มกองทุน RMF และ SSF ภายใต้การบริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม - 30 ธันวาคม 2563 จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) คืนมูลค่าสูงสุด 1,000 บาทด้วย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF/SSF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือ https://scbam.link/rmf-ssf
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 ที่นักลงทุนมองหาโอกาสในการลงทุนเพื่อประหยัดภาษี กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการวางแผนการเงินเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว โดย บลจ.อีสท์สปริง ได้เตรียมเปิดตัวกองทุน RMF ใหม่ คือ กองทุน Eastspring Global Prime Technology RMF (ES-TECHRMF) ซึ่งจะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 4 ธันวาคม ศกนี้
บลจ.อีสท์สปริง เพิ่มทางเลือก RMF เปิดกองใหม่ "ES-GAINCOMERMF" ลงทุนสินทรัพย์หลากหลายทั่วโลก IPO 3-9 ก.ย.นี้
—
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริ...
KTAM จัดหนักจัดเต็มกับ 6 โปรโมชันรับปีงูใหญ่ รับหน่วยลงทุน KTSTPLUS เมื่อลงทุนตามเกณฑ์ที่กำหนด
—
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัด...
บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผลกองทุน "ES-GINFRA-D" 0.80 บาทต่อหน่วย ดีเดย์ 26 มิ.ย. 68
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บล...
KTAM ตอกย้ำความสำเร็จระดับสากลต่อเนื่อง คว้า 2 รางวัลจาก AsianInvestor Asset Management Awards 2025
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (...
B-CNA500P กองทุนใหม่จาก BBLAM เปิดโอกาสใหม่กับนักลงทุนในการเข้าถึงการเติบโต ที่เน้นธุรกิจเศรษฐกิจใหม่ของจีนที่อยู่ในดัชนี CSI A500 IPO 5 - 11 มิถุนายนนี้
—
BBLAM เสนอข...
KTAM มองตลาดมีความไม่แน่นอน แนะ 3 สินทรัพย์ ลงทุนแบบยืดหยุ่นและกระจายความเสี่ยง เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
—
นางชวินดา หาญรัตนก...
บลจ.อีสท์สปริง เปิดกองพันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น อายุ 6 เดือน มูลค่า 10,000 ล้านบาท
—
ชูยิลด์ 1.35%ต่อปี เสนอขาย 5-12 มิ.ย. 68 นี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการ...
บลจ.กสิกรไทย ชวนเสริมพอร์ตด้วย K-GPINUH สร้างโอกาสรับผลตอบแทน แล่นฝ่าพายุเศรษฐกิจโลก
—
บลจ.กสิกรไทย ชี้จากกรณีศาลสหรัฐฯ ระงับภาษีทรัมป์ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโ...