บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนอีกครั้งในปี 2563 ด้วยการได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยยังคงรักษาสถานะผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานถ่านหินและพลังงานเพื่อการใช้งาน (Coal and Consumable Fuels) ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้รับคะแนนประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนสูงสุด เดินหน้านำเสนอ "อนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน" ตามนโยบายและกลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างต่อเนื่อง
                                                                                                                                        นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนตามหลัก ESG ของบ้านปูฯ ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน รวมถึงการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มใน 10 ประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่ นั้นทำให้เราได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสียรวมทั้งสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศมากมาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บ้านปูฯ ยังคงสร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน (Energy Sustainability) ให้กับโลกตามกลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างสมดุล โดยส่งมอบพลังงานที่ราคาสมเหตุสมผลและสามารถเข้าถึงได้ (Affordable) มีเสถียรภาพในการผลิตพลังงานเพื่อสร้างความต่อเนื่องในการส่งมอบพลังงาน (Reliable) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) ผ่านการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานที่ครบวงจรใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน (Energy Resources) กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน (Energy Generation) และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Energy Technology) ดังนั้น การได้เป็นสมาชิก DJSI ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 นอกจากจะสะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญให้กับพนักงานของเราในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องต่อไป"
                                                            
                                                                                                                            
ในปีนี้ บ้านปูฯ ได้รับคะแนนประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนสูงสุดทั้งในด้านคะแนนรวม และคะแนนในทั้ง 3 มิติ ที่ใช้ในการพิจารณา ประกอบด้วยมิติด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม ด้านการกำกับดูแลกิจการและเศรษฐกิจ (Environment, Social and Governance & Economic) ที่ชี้ให้เห็นความมุ่งมั่นและความสำเร็จของบ้านปูฯ ในการดำเนินงานซึ่งคำนึงถึงความยั่งยืนใน 3 มิตินี้ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นในด้านสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับคะแนนดีขึ้นจากปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ
Manjit Jus หัวหน้าหน่วยงาน อีเอสจี รีเสิร์ช แอนด์ ดาตา ระดับโลกของเอสแอนด์พี โกลบอล กล่าวว่า "เราขอแสดงความยินดีกับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) การได้รับรางวัลนี้ถือเป็นภาพสะท้อนของความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนขององค์กร (Corporate Sustainability Assessment) ในปี 2563 ที่มากขึ้นกว่าที่เคย และด้วยข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับปีนี้ ทำให้เห็นถึงความโดดเด่นของบ้านปูฯ ที่มีความแตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ และสะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของบ้านปูฯ ที่คำนึงถึงทั้งผู้คนและโลกของเราอย่างแท้จริง"
ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI จัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือของ S&P Global และ SAM ถือเป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่า บริษัทมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมทั้งเป็นดัชนีที่กองทุนต่าง ๆ จากทั่วโลกใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงในการพิจารณาการลงทุน โดยบริษัทที่ได้รับการรับรอง DJSI จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้แก่นักลงทุน รวมถึงการสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย
เกี่ยวกับบ้านปูฯ
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ดำเนิน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน กลุ่มและธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานใน 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม
                                                                                                                            
                            
                            กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
                        
                            ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร บางจาก ศรีราชา "A+" ต่อเนื่องปีที่ 2 ตอกย้ำศักยภาพองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมพลังงานไทย
                        
                            กลุ่มบริษัทบางจาก โดยบางจาก ศรีราชา เปิดใช้ท่ารับเรือน้ำมันดิบขนาดใหญ่ VLCC ลำแรก รองรับการขนส่งน้ำมันดิบได้ถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อเที่ยว "พลิกโฉมครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับการขนส่งพลังงานของไทย"
                        
                            ทีพีเอ็นโชว์ศักยภาพคลังน้ำมันขอนแก่นเป็นคลังสำรองเชื้อเพลิงของประเทศ พร้อมแรงหนุนจาก กรมสรรพสามิต ส่งออกพลังงานสู่อาเซียนผ่านระบบขนส่งน้ำมันทางท่อที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
                        
                            TGE ร่วมสัมมนา "9th Waste Management & Waste to Energy Asia Summit 2025 Thailand Focus, (Co-organized with 9th Biogas Biomass & Bioenergy Asia Summit 2025)"
                        
                            XSpring AM เปิดตัวกองทุน X-NUCTECH ชี้โอกาสใหม่ในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานนิวเคลียร์ระดับโลก
                        
                            เด็กซ์ซอนเปิดตัวเทคโนโลยี PA-CAT(TM) นวัตกรรมปฏิวัติการตรวจสอบการสึกกร่อนที่บริเวณจุดค้ำยันท่อส่งปิโตรเลียม
                        
                            เชลล์ คว้ารางวัล "2024-2025 Thailand's Most Admired Company" ด้านภาพลักษณ์องค์กร ตอกย้ำการเป็นแบรนด์พลังงานที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจ
                        
                            20 ปีแห่งความสำเร็จ: Solis ฉลองครบรอบด้วยการเปิดตัวครั้งใหญ่ที่งาน Intersolar