บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าเปิดขาย Term Fund Plus ซีรีส์ใหม่ ตอบโจทย์ตรงใจผู้ลงทุนในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าจัดตั้งกองทุน Term Fund Plus ซีรีส์ใหม่ 'กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2021D (KFF21D)’ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ เผยตราสารหนี้เอเชียได้รับประโยชน์โดยตรงจากนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย และมีผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่น่าสนใจ

บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าเปิดขาย Term Fund Plus ซีรีส์ใหม่ ตอบโจทย์ตรงใจผู้ลงทุนในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ

นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากกระแสการตอบรับที่ดีของผู้ลงทุนต่อกองทุน Term Fund Plus ที่ได้สร้างสถิติปิดการขายอย่างรวดเร็วภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยกองทุน Term Fund Plus ที่เปิดขายในช่วงที่ผ่านมาสามารถระดมทุนได้สูงถึง 15,691.45 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ต.ค. 62 - ส.ค. 63) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เร่งเดินหน้าออกกองทุน Term Fund Plus ซีรีส์ใหม่ เพื่อตอบสนองให้ทันกับความต้องการของผู้ลงทุนในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งล่าสุดได้จัดตั้ง กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2021D (KFF21D) เปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 9-14 กันยายน 2563 โดยมีขนาดกองทุนประมาณ 3,800 ล้านบาท

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน KFF21D เป็นการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างบลจ.กสิกรไทย และ Invesco Hong Kong โดยมอบหมายให้ Invesco Hong Kong รับหน้าที่บริหารเงินลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย รวมถึง High Yield Bond บางส่วน ผ่านกองทุนหลัก Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – III, Class C(USD)-Acc ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 60% ของพอร์ต ส่วนบลจ.กสิกรไทย จะรับหน้าที่บริหารในส่วนที่เป็นเงินฝากต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝาก Qatar National Bank (ประเทศกาตาร์), เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia (ประเทศอินโดนีเซีย) และเงินฝาก Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 40% ของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

“สำหรับมุมมองการลงทุนในต่างประเทศ ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย ทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ (Yield) มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) ในภูมิภาคเอเชีย ยังคงได้รับแรงหนุนจากการแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น (Search for Yield) ของผู้ลงทุน เนื่องจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียเริ่มฟื้นตัว และบริษัทที่ออกหุ้นกู้เอกชนในเอเชียส่วนใหญ่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตลอดจนหุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุน จึงได้รับประโยชน์โดยตรงจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายต่อไป และพร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน โดยระดับราคาหุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับลดลงทำให้มีผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงดูน่าสนใจยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังต้องติดตามความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งอาจทำให้ตลาดเข้าสู่โหมด Risk-off ได้อีกครั้ง” นายนาวินกล่าว

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KFF21D เหมาะกับผู้ลงทุนที่สามารถถือครองหน่วยลงทุนได้เป็นระยะเวลา 1 ปี และมองเห็นโอกาสจากการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ สำหรับวันที่ 9 กันยายน 2563 ซึ่งเป็นวันเปิดเสนอขายวันแรกจะเริ่มรับคำสั่งซื้อตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป โดยผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds และธนาคารกสิกรไทย ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ตราสารที่กองทุน KFF21D ลงทุน อันดับเครดิต สัดส่วนการลงทุน
กองทุน Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – III, Class C(USD)-Acc - 60.01%
เงินฝาก Qatar National Bank, ประเทศกาตาร์ Aa3/Moody's 13.33%
เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia, ประเทศอินโดนีเซีย Baa2/Moody's 13.33%
เงินฝาก Bank of China, สาธารณรัฐประชาชนจีน A1/Moody's 13.33%
รวม 100.00%

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ประเมินไว้ / กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุน KFF21D ในช่วงเวลา 1 ปี ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมากได้


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ. ไทยพาณิชย์ เปิดตัว SCBROYALTY ลงทุนสินทรัพย์ Royalties กองทุนแรกในเอเชียแปซิฟิก ชูโอกาสสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ไม่ผันผวนตามตลาดทุน เสนอขายครั้งแรก 15 ก.ย. 68 - 24 ก.ย. 68

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้สภาวะตลาดทุนทั่วโลกผันผวนและกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างหุ้นและตราสารหนี้ ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายความเสี่ยง

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (... บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ "LUXF" 0.64 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่ากว่า 125 ล้านบาท — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ...

BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพ... BBLAM เสนอขาย IPO 'BP17/25(AI)' วันที่ 11-15 ก.ย. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 17/25 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย' หรือ BP17/25(AI) ซึ่งเ...

บลจ.กสิกรไทย มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตช... บลจ.กสิกรไทย ชู K-VALUE ทางเลือกลงทุนรับปันผลสูง ชี้จังหวะลงทุนหุ้นไทยรับตลาด Upside ในระยะสั้น — บลจ.กสิกรไทย มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตชะลอลง คาด GDP ไ...