ธนาคารพาณิชย์ผนึกกำลังขานรับธปท.ช่วยลูกค้าภาคธุรกิจแบบเบ็ดเสร็จ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ภาคธนาคารตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและวิกฤติโควิค-19 สงครามการค้า หรือภัยธรรมชาติ ให้ได้ข้อยุติร่วมกันแบบ One Stop Service ตามความสามารถและศักยภาพของลูกค้าอย่างทันท่วงที โดยสมาคมธนาคารไทยได้ลงนามความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทยในโครงการ “DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง” และเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา

ธนาคารพาณิชย์ผนึกกำลังขานรับธปท.ช่วยลูกค้าภาคธุรกิจแบบเบ็ดเสร็จ

ธนาคารสมาชิกได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ใน 3 มิติ คือ 1. บูรณาการความช่วยเหลือร่วมกันจากทุกสถาบันการเงิน ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาภาระหนี้ได้อย่างรวดเร็วเบ็ดเสร็จในคราวเดียว ลดความซ้ำซ้อนเรื่องการติดต่อ จัดส่งเอกสาร และเจรจาแก้ไขปัญหา 2. สถาบันการเงินทุกแห่งสามารถร่วมกันพิจารณาและวิเคราะห์ Root Cause ของลูกค้า เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสมกับลูกค้า เช่น ปรับลดการผ่อนชำระ ยืดระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ หาผู้ร่วมทุน หรือตีทรัพย์สินชำระหนี้ตามความประสงค์ของลูกค้าและหลักเกณฑ์ของธนาคารตามความจำเป็น โดยให้สิทธิ์ลูกค้าซื้อทรัพย์คืนภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งหลักการช่วยเหลือจะเป็นไปตามความสามารถของลูกค้าแต่ละราย 3. ลูกค้าที่มีศักยภาพและแผนธุรกิจชัดเจน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยได้รับสินเชื่อเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินต่างๆ ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ เป็นลูกค้านิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับธนาคารมากกว่า 1 แห่ง และมีวงเงินสินเชื่อธุรกิจรวมทุกธนาคาร ตั้งแต่ 50 - 500 ล้านบาท และมีสถานะการชำระหนี้เป็นปกติ หรือผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารบางแห่ง อันเนื่องมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยลงทะเบียนและกรอกข้อมูลพื้นฐานของธุรกิจ เช่น ประเภทธุรกิจ เลขที่บัตรประชาชนหรือเลขทะเบียนนิติบุคคล พร้อมระบุธนาคารพาณิชย์ที่สะดวกให้ติดต่อกลับผ่านเว็บไซต์ www.bot.or.th เว็บไซต์ธนาคารที่มีวงเงินสินเชื่อ และเว็บไซต์สมาคมธนาคารไทย www.tba.or.th โดยธนาคารจะติดต่อกลับเพื่อแจ้งผลภายใน 5 วัน ทั้งนี้ ธนาคารจะตรวจสอบตัวตนและขอเอกสารประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับการพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือ ธนาคารจะแจ้งผลให้ลูกค้าทราบและลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ภายใน 1 เดือน หลังจากได้รับเอกสารครบถ้วนถูกต้อง กรณีที่ธุรกิจมีความซับซ้อน อาจใช้เวลาในการพิจารณาเพิ่มขึ้น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center และสาขาของธนาคารที่ใช้บริการ


ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย+ลงนามความร่วมมือวันนี้

เงินเข้าแล้วไปไหนหมด! KBTG ส่ง 'เหมียวจด' ฟินเทคไทยจากอินไซต์จริง ชวนคนไทยรู้ทันรายจ่าย ตอบโจทย์คนยุคใหม่ใช้เทคช่วยสร้างวินัยทางการเงิน

ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทย เผยให้เห็นความจริงที่น่าตกใจของคนไทยกับการเงิน โดยจาก 130 ล้านบัญชีเงินฝากทั่วประเทศ มีถึง 123 ล้านบัญชีที่มีเงินฝากไม่ถึง 50,000 บาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงวิกฤตเงินออมของคนไทย นอกจากนี้ ดีลอยท์ ประเทศไทย ยังเผยว่าคนไทยรุ่นใหม่ทั้ง Gen Y และ Gen Z กว่า 63% ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 52% ด้วยภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และความจำเป็นต้องใช้เงินมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ บ่อยครั้งเราจึงได้ยินประโยคที่ว่า "เงินเดือนออกไม่กี่วัน ไม่รู้หายไป

แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 จะชะลอตัวตาม... ดีดีพร็อพเพอร์ตี้เผยสุดยอดทำเลทองในรอบครึ่งแรกปี 68 — แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 จะชะลอตัวตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์จากปัจจัยบวกทั้งจา...

ในยุคที่ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงและความจำเป็นในก... แนะนำ 9 แอปกู้เงินถูกกฎหมาย เชื่อถือได้จริง ฉบับอัปเดตล่าสุด — ในยุคที่ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงและความจำเป็นในการใช้เงินสดฉุกเฉินเพิ่มขึ้น การกู้เงินถูกกฎหมาย ผ่...