สทนช.จับมือธนารักษ์ MOU การใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกัน เสริมศักยภาพ “ผังน้ำ” เครื่องมือบริหารจัดการน้ำของประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สทนช.และกรมธนารักษ์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการใช้ข้อมูลร่วมกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลผังน้ำและแผนที่รูปแปลงที่ดินราชพัสดุ หวังใช้ประเมินความเสียหายกรณีเกิดอุทกภัยและจัดโซนนิ่งที่ดินราชพัสดุ เสริมศักยภาพ “ผังน้ำ” เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างเป็นระบบ

สทนช.จับมือธนารักษ์ MOU การใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกัน เสริมศักยภาพ “ผังน้ำ” เครื่องมือบริหารจัดการน้ำของประเทศ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการใช้ข้อมูล ระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กับ กรมธนารักษ์ โดยมี นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการ สทนช. และ นายธำรงค์ ทองตัน ผู้อำนวยการสูง รักษาการในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ กรมธนารักษ์ ร่วมลงนามเป็นพยานในบันทึกข้อตกลงฯ พร้อมด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 หน่วยงาน เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ห้องประชุมน้ำปิง ชั้น 4 อาคารจุฑามาศ สทนช. ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า สทนช. ทำงานร่วมกับกรมธนารักษ์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งหน่วยงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือด้านข้อมูลในภารกิจต่าง ๆ เป็นอย่างดีเสมอมา เช่น กรมธนารักษ์ได้ปรับปรุงแนวหลักเขตรอบบึงบอระเพ็ดใหม่ ตามแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบัน สทนช. มีภารกิจและหน้าที่ในการจัดทำ “ผังน้ำ” ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นการจัดทำแผนที่หรือแผนผังแสดงระบบทางน้ำของทุกแหล่งน้ำที่มีน้ำไหลผ่านและเชื่อมโยงกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จนออกลงสู่ทะเล โดยในการจัดทำ “ผังน้ำ” ต้องมีการรวบรวมข้อมูลประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยรอบทางน้ำทั้งหมดเพื่อประกอบการจัดทำผังน้ำด้วย โดยข้อมูลแผนที่รูปแปลงที่ดินราชพัสดุที่ได้รับความร่วมมือจากกรมธนารักษ์ในครั้งนี้ จะทำให้การจัดทำ “ผังน้ำ” มีความรอบด้านและครอบคลุมการใช้ประโยชน์ที่ดินทั้งหมด

ทั้งนี้ ปัจจุบัน สทนช. อยู่ในระหว่างดำเนินการจัดทำผังน้ำ จำนวน 8 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำบางปะกง ลุ่มน้ำแม่กลอง ลุ่มน้ำสะแกกรัง ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำท่าจีน และจะทยอยดำเนินการให้ครอบคลุม 22 ลุ่มน้ำ ภายในปี 2566 ซึ่งเมื่อการจัดทำผังน้ำแล้วเสร็จและประกาศใช้จะเป็นเครื่องมือสำคัญและเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการน้ำของประเทศได้อย่างเป็นระบบและครบในทุกมิติ ทั้งในสภาวะปกติและกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำ การเชื่อมโยงลุ่มน้ำต่าง ๆ เข้าด้วยกัน การจัดทำสมดุลน้ำ การบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง สามารถนำ “ผังน้ำ” ไปใช้สนับสนุนแผนงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย รวมทั้งการบริหารจัดการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานไปสู่ความมั่นคงด้านน้ำ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย

ด้าน นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ดำเนินการเกี่ยวกับการปกครอง ดูแล การบำรุงรักษา และบริหารจัดการทรัพย์สินภาครัฐในการใช้และการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุ การพัฒนาศักยภาพที่ราชพัสดุ รวมถึงปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้ กรมธนารักษ์พร้อมในการให้ความร่วมมือด้านข้อมูลแผนที่รูปแปลงที่ดินราชพัสดุและข้อมูลในด้านต่าง ๆ ของกรมธนารักษ์ ให้กับ สทนช. เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดทำผังน้ำและเสริมภารกิจในการพัฒนาทรัพยากรน้ำของชาติให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการใช้ข้อมูล ระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติกับกรมธนารักษ์ มีกำหนดระยะเวลา 4 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทั้งสองหน่วยงานได้ใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกันในการดำเนินงาน ตามภารกิจและหน้าที่ของหน่วยงาน โดยข้อมูลของกรมธนารักษ์ ที่ประกอบด้วย “ข้อมูลแผนที่รูปแปลงที่ดินราชพัสดุ” ในรูปแบบ Shapefile ซึ่ง สทนช. สามารถนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับการประเมินความเสียหายของที่ดินราชพัสดุที่อยู่ในระบบทางน้ำตามที่กำหนดในผังน้ำเมื่อเกิดเหตุการณ์อุทกภัย และประมาณราคาในการปรับปรุง รื้อถอน หรือเวนคืน กรณีที่ต้องทำการปรับปรุงผังน้ำในบริเวณดังกล่าวให้มีความสามารถในการระบายน้ำได้ตามศักยภาพจริง นอกจากนี้ ข้อมูลของ สทนช. ในรูปแบบ “ข้อมูลผังน้ำ” ซึ่งกรมธนารักษ์สามารถนำไปใช้ประกอบเป็นข้อมูลในการพิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Zoning) ที่ราชพัสดุที่อยู่ในระบบทางน้ำตามที่กำหนดในผังน้ำ ให้เป็นไปตามมาตรา 56 พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 โดยกรมธนารักษ์จะนำข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่ในระบบ GIS เพื่อให้ผู้รับบริการ สามารถตรวจสอบแนวเขต Zoning ร่วมกับข้อมูลรูปแปลงที่ดินราชพัสดุ ได้อีกด้วย


ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สทนช. จับมือเขื่อนภูมิพล ปรับลดการระบายน้ำบรรเทาท่วมภาคกลาง

สทนช. ประชุมด่วนวางแผนปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล หลังคาดฝนภาคเหนือจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นวันพรุ่งนี้ จาก 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และวันถัดไปปรับลดอีกเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อลดมวลน้ำที่ไหลลงสู่ภาคกลาง วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2568) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ

สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้ สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วย...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....