นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKPower) ชื่อย่อหลักทรัพย์ “CKP” เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกลุ่ม CKPower ในไตรมาสที่ 2/2563 และครึ่งปีแรกของปี 2563 ว่า ในภาพรวมครึ่งปีแรกของปี 2563 บริษัทและบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงานลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อนทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 (NN2) ลดลง โดยครึ่งปีแรกของปีนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้า 867 ล้านลบ.ม. ลดลง 65 ล้านลบ.ม. จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีปริมาณน้ำไหลเข้า 932 ล้านลบ.ม. หรือลดลง 7% ทำให้ปริมาณการขายไฟฟ้ามีเพียง 409 ล้านหน่วย ลดลง 618 ล้านหน่วย ซึ่งลดลง 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายไฟฟ้า 1,027 ล้านหน่วย อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีแรกของปีนี้ มีปริมาณการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ได้ถึง 2,340 ล้านหน่วย ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมของ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (BIC) และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 แห่ง ของบริษัท บางเขนชัย จำกัด (BKC) ยังคงผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
ทั้งนี้ CKPower มีรายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ทั้งสิ้น 3,593 ล้านบาท ลดลง 1,136 ล้านบาท หรือ -24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,730 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายไฟฟ้ารวม 1,182 ล้านหน่วย ลดลง 618 ล้านหน่วย คิดเป็น -34% จากครึ่งปีแรกของปี 2562 ที่ขายไฟฟ้าได้ 1,799 ล้านหน่วย
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 กลุ่ม CKPower มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,831 ล้านบาท ลดลง 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,312 ล้านบาท โดยมีปริมาณขายไฟฟ้ารวม 609 ล้านหน่วย ลดลง 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณขายไฟฟ้า 852 ล้านหน่วย โดยมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำของ NN2 รวม 628 ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณน้ำไหลเข้า 460 ล้านลบ.ม.
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 โรงไฟฟ้าทุกแห่งของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพราะตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 และไหลผ่านโรงไฟฟ้าไซยะบุรีเพิ่มขึ้นตามลำดับ และมีแนวโน้มจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปริมาณน้ำของปีปกติอีกด้วย ซึ่งเป็นผลให้ขณะนี้โรงไฟฟ้าไซยะบุรีสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิตทั้ง 7 เครื่อง รวมจำนวน 1,220 เมกะวัตต์ ส่งขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่วนโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้เกือบครบทุกแห่ง ยกเว้นโรงไฟฟ้าคลองเปรงโซลาร์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ส่วนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมทั้ง BIC-1 และ BIC-2 ยังคงเดินเครื่องได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ เนื่องจากยังไม่มีแผนที่จะหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงใหญ่ในปีนี้
“ช่วงไตรมาสที่ 3 ของทุกปี จะเป็นช่วงที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้ง 2 แห่งของบริษัทฯ จะสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังมากที่สุดเพราะเป็นช่วงฤดูฝน และหากปีนี้มีปริมาณน้ำฝนใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยปกติตามที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ ปีนี้จะถือเป็นปีที่ดีที่สุดปีหนึ่ง เพราะเป็นปีแรกที่โรงไฟฟ้าไซยะบุรีเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและรับรู้รายได้เต็มปี ซึ่งจะส่งผลบวกอย่างเป็นนัยสำคัญต่อผลประกอบการของ CKPower” นายธนวัฒน์กล่าว
นายธนวัฒน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อดำเนินการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ในสปป.ลาว และคาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ โดยบริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนจำนวน 4,000-4,600 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการใหม่และมีแผนจะออกเสนอขายหุ้นกู้มูลค่าประมาณ 3,500 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้เป็นจำนวนเงินคงค้างจากวงเงินเดิม 10,000 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการสภาพคล่องและการชำระคืนหนี้ของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในขณะนี้ ไม่มีผลกระทบต่อรายได้และปริมาณการขายไฟฟ้าของบริษัทฯ แต่อย่างใด เพราะคู่สัญญาหลักของบริษัทฯ คือ กฟผ. แม้จะมีลูกค้าบางส่วนเป็นลูกค้าอุตสาหกรรม แต่ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์มากนัก โดยบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการดูแลพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทในเครือทั้งภายในประเทศไทยและสปป.ลาว ในการปฏิบัติตัวตามวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ตามนโยบายของรัฐอย่างเคร่งครัด” นายธนวัฒน์กล่าว
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower บริษัทผู้บริหารโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ในสปป.ลาว เปิดเผยว่าว่า ในช่วงวันที่ 25 กรกฏาคม 2564 ได้เริ่มมี ปริมาณน้ำไหลเข้าและผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี จำนวน 8,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงวันที่ 1-24 กรกฎาคม 2564 ที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 3,588 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ เนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน "เจิมปากา" ซึ่งขณะนี้ได้อ่อนกำลัง
CKPower ประกาศกำไร Q1/2564 แข็งแกร่งจากผลประกอบโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่โดดเด่น
—
ขณะที่ TRIS คงอันดับเครดิตองค์กร "A คงที่" จากความแข็งแกร่งและความมั่นคงรายได้ ...
CKPower เดินหน้าขยายธุรกิจ ลงทุนกว่า 1,800 ล้าน ซื้อหุ้น 'ไซยะบุรี พาวเวอร์' เพิ่มอีก 5%
—
เตรียมจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้น 20 พฤษภาคมนี้ นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเ...
CKPower ออกหุ้นกู้ 4,000 ล้าน ยอดจองทะลุ 3.9 เท่า เตรียมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป. ลาว เพิ่ม
—
คว้า CG ระดับ "ดีเลิศ" 3 ปีซ้อน และเข้ารายชื่อหุ้นยั่งยืน (...
CKP พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุน คาดสถานการณ์ภัยแล้งผ่านจุดต่ำสุด มั่นใจกระแสเงินสดและสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง
—
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริ...
CKPower สดใส โชว์กำไรปี 2562 โตถึง 28%
—
บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการปี 2562 มีรายได้รวมที่ 8,840 ล้านบาท สร้างผลกำไร 769 ล้านบาท ...
"CKPower" ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ เป็น "A-" จาก "BBB+" โดยทริสเรทติ้ง
—
สะท้อนโครงสร้างหนี้ที่แข็งแกร่งขึ้น เสถียรภาพทางการเงินและกลุ่มโรงไฟ...
CKPower เผยปี 2567 กวาดรายได้ 10,789 ล้านบาท
—
EBITDA โตแข็งแกร่ง คาดปี 2568 เติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยฤดูกาล นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ...