ก.ล.ต. ร่วมกับกองทุนพรอสเพอริตี้ของรัฐบาลสหราชอาณาจักรและบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จำกัด (สิงคโปร์) จัดงานสัมมนาออนไลน์หัวข้อ “Deep-dive into green bond: post-issuance reporting and sector eligibility criteria” เพื่อส่งเสริมการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) และการมีส่วนร่วมของตลาดทุนไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 นางสาวจอมขวัญ คงสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า “ตลาด Green Bond ในไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และในปีนี้หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เริ่มคลี่คลาย พบว่ามีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนหลายรายให้ความสนใจระดมทุนผ่าน Green Bond โดยอยู่ระหว่างเตรียมการออกและเสนอขาย รวมถึงตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม (Social Bond) และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ออกเสนอขายตราสารหนี้ดังกล่าวพบว่าสามารถขยายฐานผู้ลงทุนให้กว้างและหลากหลายขึ้น ลดต้นทุนจากการจ่ายผลตอบแทน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กร ก.ล.ต. จึงหวังว่าผู้เกี่ยวข้องจะตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการระดมทุนผ่านตราสารดังกล่าวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับบทบาทของตลาดทุนในการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมได้”
การสัมมนาในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพรอสเพอริตี้ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ภายใต้โครงการ ASEAN Low Carbon Energy Programme ซึ่งบริหารโดยบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จำกัด (สิงคโปร์) โดยมีวิทยากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในและต่างประเทศมาให้ความรู้เกี่ยวกับ Green Bond และคำปรึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับมาตรฐานและเกณฑ์คุณสมบัติโครงการแต่ละประเภทธุรกิจหรืออุตสาหกรรม เช่น กลุ่มไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กลุ่มพลังงานจากขยะ กลุ่มไฟฟ้าพลังงานน้ำ และกลุ่มพลังงานชีวภาพ รวมทั้งกระบวนการรายงานภายหลังการออกและเสนอขายในลักษณะเฉพาะเจาะจงที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการในแต่ละกลุ่มธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมแก่องค์กรที่สนใจออกและเสนอขาย
สำหรับผู้สนใจออกและเสนอขาย Green, Social and Sustainability Bond ในไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานและสาธารณูปโภค ขนส่งและโลจิสติกส์ และธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ โดยที่ผ่านมามีผู้ออกเสนอขายตราสารหนี้ดังกล่าว จำนวน 8 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการระดมทุนรวมมากกว่า 47,000 ล้านบาท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งพักการให้ความเห็นชอบในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) (Capital One) และผู้ควบคุมการปฏิบัติงานรายนายปิยะ พงศกรไพศาล (นายปิยะ) เป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากบกพร่องในการปฏิบัติงานในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่บริษัทมหาชนที่ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (คำขออนุญาต IPO) ก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่า Capital One และนายปิยะปฏิบัติงานบกพร่องอย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่
KuCoin Thailand เปิดแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบสู่สาธารณะ พร้อมต้อนรับทุกคน ด้วยมาสคอตใหม่และแคมเปญสุดพิเศษ
—
KuCoin Thailand ได้เริ่มต้นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นด้วยก...
PLUS คว้าโล่ชื่นชมบจ.ต้นแบบ ร่วมโครงการ "ทิ้ง ทู แทรช" เดินหน้าสร้างองค์กรสีเขียวจากภายใน
—
นายกิตติ วชิรจิรากร (ซ้าย) รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติก...
BC คว้ารางวัล "ทิ้งทูแทรช" (Ting To Trash)" ตอกย้ำบทบาทผู้นำองค์กรต้นแบบ ESG
—
นายชูรัช รุ่งทวีวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บูทิ...
SMPC รับโล่ชื่นชม "ทิ้ง ทู แทรช" (Ting To Trash) เดินหน้าสร้างวัฒนธรรมแยกขยะ ลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน
—
บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ผ...