CHOW กลับมาโชว์ฟอร์มสวยอีกครั้ง ไตรมาสที่ 2/2563 กำไรสุทธิ 34.65 ลบ. พุ่งกว่า 173% จากขาดทุน 20 ลบ.ใน Q2/62 แม้ธุรกิจผลิตเหล็กแท่งทรงยาวในประเทศได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นรับรู้รายได้เพิ่มตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ CHOW พลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไรสำเร็จ “ศุภชัย ยิ้มสุวรรณ” ย้ำ CHOW พร้อมเติบโตต่อเนื่อง เผยมีแผนดำเนินธุรกิจที่มั่นคง สำหรับรองรับการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ล่าสุดตั้งบริษัทย่อยลุยธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง
นายศุภชัย ยิ้มสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงาน ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 3 เดือน ประจำไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 514.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 457.21 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 34.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.65 ล้านบาท หรือร้อยละ 173 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 20 ล้านบาท
สำหรับกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากธุรกิจพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยรายได้จากการขายสำหรับงวดไตรมาสที่ 2/2563 มีจำนวน 270.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้ 247.83 ล้านบาท เป็นจำ นวน 22.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ9.23 จากความสามารถในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 68.6 เมกะวัตต์ดีซี เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีความสามารถในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพียง 59.92 เมกะวัตต์ดีซี ทำให้บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการอาโอโมริและโครงการนิฮอนมัตซึ 3 ที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชยในวันที่ 30 กันยายน 2562 และ 31 มกราคม 2563 ตามลำดับ
ในขณะที่ธุรกิจเหล็กในไตรมาสที่ 2/2563 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยตรง โดยทำให้รายได้ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่ 2/2563 ความต้องการเหล็กในภาคธุรกิจเกิดการชะลอตัวลงและราคาขายเหล็กในประเทศไทยยังไม่สามารถปรับตัวให้สูงขึ้นได้ เนื่องจากถูกกดดันจากราคาเหล็กในต่างประเทศ ทำให้ปริมาณการขายลดลง และถึงแม้ว่าบริษัทฯ ได้เสร็จสิ้นกระบวนการทดสอบสภาพเครื่องจักรในเดือนเมษายน และ ได้เริ่มรับจ้างผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า OEM ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน แต่เนื่องจากการสั่งผลิตยังไม่มากเพียงพอที่จะครอบคลุมต้นทุนการให้บริการ เนื่องจากลูกค้าประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 เช่นเดียวกัน จึงส่งผล ให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการให้บริการ แต่อย่างไรก็ตาม ภายใต้สัญญาการรับจ้างผลิตไดกำหนดปริมาณการสั่งผลิตขั้นต่ำต่อปีไว้ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าลูกค้าจะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตามสัญญาและสอดคล้องกับความต้องการเหล็กในตลาดต่อไป
นายศุภชัย กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2563 ว่า มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป เนื่องจากธุรกิจเหล็กพร้อมเดินเครื่องการผลิตได้ตามสัญญาของลูกค้า ในขณะที่ธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจัดตั้งบริษัทจำกัดขึ้นเพื่อรองรับการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีก 1 บริษัท เพื่อเดินหน้าขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าของธุรกิจในๆเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนยังมีอีกมาก โดยเฉพาะจากพลังงานสะอาดที่ไม่สร้างมลพิษอย่างไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในประเทศและต่างประเทศดังกล่าว ซึ่งจะสะท้อนรายได้จากธุรกิจพลังงานเติบโตก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
SolarEdge ประกาศแต่งตั้ง Sonepar Thailand เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อเร่งการเติบโตในตลาดพลังงานแสงอาทิตย์
ยูโอบี และ กสิกรไทย สนับสนุนสินเชื่อสีเขียวแก่ Levanta Renewables เข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 34 โครงการ ในประเทศไทย
NPS เปิดบ้านต้อนรับ กลุ่มผู้นำชุมชน เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ
ม.วลัยลักษณ์ เปิดตัว "ระบบเตือนภัยดินถล่ม AIoT" ต้นทุนต่ำ แจ้งเตือนเรียลไทม์
WP ENERGY ส่งมอบโซลาร์รูฟท็อปแห่งแรกในโครงการ "WP SOLAR FOR GOOD" กำลังการติดตั้ง 63.675 กิโลวัตต์ให้โรงพยาบาลท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งเป้าติดตั้งครบ 200 แห่งทั่วไทย ตามแผนการ ภายใน 5 ปี
SPCG ประกาศไตรมาส 3/68 รายได้โตขึ้น 23% จากไฟฟ้าที่ผลิตได้มากขึ้น และธุรกิจ Solar Roof เตรียมจ่ายปันผล 1.50 บาทต่อหุ้น ตอบแทนผู้ถือหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 พ.ย. นี้
JARTON พรีเซนเทคโนโลยี "กล้องโซลาร์ 4G" ในงาน AI Roadshow พิษณุโลก
SUPER จับมือ NMB ลุยโซลาร์-แบตเตอรี่ ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 341.15 เมกะวัตต์ เดินหน้าพลังงานสะอาด เพื่อ Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions
JARTON ร่วมกับ depa ส่งมอบเทคโนโลยีอัจฉริยะ ลงพื้นที่ติดตั้งจริง