ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยแผนยุทธศาสตร์ ปี 2564-2565 มุ่งดำเนินการตามพันธกิจ “ทำให้ คนไทยมีบ้าน” และรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย ด้วยสินเชื่อคงค้าง 1 ใน 3 ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งระบบสถาบันการเงิน ล่าสุด ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้ว 156,650 ล้านบาท คาดทำได้ตามเป้าหมายที่ 210,000 ล้านบาท พร้อมยกระดับการให้บริการลูกค้า ขึ้นสู่ Digital Platform เพื่อรองรับการเป็น Digital Bank ในอนาคต อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของธนาคารได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตั้งเป้าหมายให้มี Digital Transaction ไม่ต่ำกว่า 80% ของจำนวน Transaction ทั้งหมดในปี 2565
 
                                                                                                                                        นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงแผนยุทธศาสตร์ ธอส. ปี 2564-2565 ว่า ธนาคารยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” รักษาความเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย ด้วยการมีสินเชื่อคงค้างจำนวน 1 ใน 3 ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งระบบสถาบันการเงิน โดยล่าสุด ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้ว156,650 ล้านบาท และมั่นใจว่า จะทำได้ตามเป้าหมายปี 2563 ที่ 210,000 ล้านบาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนคืออัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เป็นโอกาสของประชาชนที่รายได้ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้มีบ้านเป็นของตนเอง ได้ง่ายขึ้น ขณะที่ในปี 2564 ธอส. ยังคงตั้งเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 215,641 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 222,110 ล้านบาท ในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้นปีละ 3% ตามลำดับ ด้วยสินเชื่อคงค้างในปี 2564 ที่ 1.374 ล้านล้านบาท และเพิ่มเป็น 1.444 ล้านล้านบาท ในปี 2565 โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับการให้บริการลูกค้าขึ้นสู่ Digital Platform เพื่อรองรับการเป็น Digital Bank ในอนาคต อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของธนาคารได้อย่างสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของธนาคาร เพื่อดึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ต่ำลงอีก โดยตั้งเป้าหมายให้มี Digital Transaction ไม่ต่ำกว่า 80% ของจำนวน Transaction ทั้งหมดในปี 2565 ด้วยแผนงาน/โครงการสำคัญที่สนับสนุนการเป็น Digital Bank ประกอบด้วย
                                                             
                                                                                                                            
1.โครงการ New Normal Services พัฒนาบริการใหม่ของธนาคารบน Mobile Application : GHB ALL เพื่อรองรับ Lifestyle ลูกค้าแบบ New Normal ตามที่ธนาคารได้เปิดให้บริการใน Phase ที่ 1 จำนวน 6 บริการ ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 ประกอบด้วย 1.ซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ให้บริการได้ทั้งการซื้อสลากครั้งแรกหลังเปิดบัญชีสลากที่สาขา หรือลูกค้าเดิมที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม รวมถึงสลากออมทรัพย์ชุดใหม่ล่าสุด ชุดเกล็ดดาว หน่วยละ 5,000 บาท แต่มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลมากยิ่งขึ้น โดยรางวัลที่ 1 มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านบาท รวมถึงยังมีรางวัลเลขท้าย 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัว และรางวัลเลขสลับเลขท้าย ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ซื้อครั้งแรกภายในเดือนตุลาคม 2563 2.ขอ Statement บัญชีเงินฝาก สำหรับลูกค้าที่ต้องการนำข้อมูลบัญชีประเภทออมทรัพย์ไปใช้เป็น หลักฐานประกอบการพิจารณาในการอนุมัติธุรกรรมต่าง ๆ ตามที่ต้องการ 3.จองคิวใช้บริการล่วงหน้า เพื่อไปรอรับบริการที่สาขาในวันเวลาที่นัดหมายได้ทันที 4.ใบเสร็จชำระเงินกู้รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนรูปแบบเดิมที่เป็นกระดาษและจัดส่งทางไปรษณีย์ 5.ชำระเงินดาวน์ทรัพย์ NPA โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา และ 6.แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งเอกสาร/การติดต่อกับธนาคารเพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อหรือรับข้อมูลสำคัญจากธนาคาร และจะเปิดให้บริการใน Phase ที่ 2 ในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 อาทิ เปิดบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ ขอหนังสือรับรองภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ขอหนังสือรับรองภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ แจ้งความประสงค์กู้เพิ่ม
2.โครงการ Tollway Loan Plus เป็นการยกระดับความร่วมมือกับฝ่าย HR ของบริษัทหรือหน่วยงานที่มีสวัสดิการเงินกู้กับธนาคารจะเป็นผู้ส่งข้อมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งรายได้ หลักฐานส่วนตัว และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการยื่นกู้ให้แก่พนักงานที่ประสงค์ยื่นกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยกับธนาคาร โดยที่พนักงานไม่ต้องลางาน เพื่อเดินทางไปติดต่อยื่นเรื่องกู้ที่สาขาธนาคาร หลังจากนั้นธนาคารจะเป็นผู้ติดต่อและสัมภาษณ์ข้อมูลรายละเอียดเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อทางโทรศัพท์ต่อไป และเดินทางเข้ามาธนาคารเพียงครั้งเดียวเพื่อทำสัญญาภายหลังได้รับแจ้งอนุมัติสินเชื่อแล้วเท่านั้น และ 3.โครงการ Virtual Branch หน่วยบริการสินเชื่อ ไร้ที่ทำการ โดยลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา แต่ยังคงได้รับบริการเสมือนอยู่ที่สาขา
“ขณะเดียวกันธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้แก่ผู้บริหารและพนักงานให้สามารถทำงานภายใต้การเปลี่ยนแปลงไปสู่ Digital Bank สร้างสรรค์ทัศนคติด้านบวกและเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็น หนึ่งเดียว และมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันตามโครงการ GHB 1 TEAM รวมถึงจัดทำโครงการ Digitizer พัฒนาระบบการอนุมัติและจัดการเอกสารในลักษณะ Workflow โดยสร้างแบบฟอร์มต่าง ๆ ผ่านระบบดิจิทัล ลดขั้นตอนการทำงาน ลดการใช้กระดาษ เป็นต้น” นายฉัตรชัยกล่าว
ทั้งนี้ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนของธนาคาร ทำให้ปัจจุบันธนาคารยังคงสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมีความพร้อมในการเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ โดย ณ เดือนสิงหาคม 2563 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2562 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,273,401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.30% สินทรัพย์รวม 1,351,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.55% เงินฝากรวม 1,110,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.74% และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 51,559 ล้านบาท คิดเป็น 4.05% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 2,044 ล้านบาท
 
                             เสนา ส่งแคมเปญ "เฮ้ยยย!! อยู่ก่อน กู้ทีหลัง" หนุนคนไทยมีบ้านง่ายขึ้น พร้อมผนึกพันธมิตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ - กรุงไทย ให้คำปรึกษาสินเชื่อที่อยู่อาศัย
                            เสนา ส่งแคมเปญ "เฮ้ยยย!! อยู่ก่อน กู้ทีหลัง" หนุนคนไทยมีบ้านง่ายขึ้น พร้อมผนึกพันธมิตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ - กรุงไทย ให้คำปรึกษาสินเชื่อที่อยู่อาศัย
                         ต่อยอด "โครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน X Developer" เพิ่มความสามารถลูกค้ายื่นขอสินเชื่อได้ง่าย ๆ เพียงออมเงินกับเราต่อเนื่อง 12 เดือน
                            ต่อยอด "โครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน X Developer" เพิ่มความสามารถลูกค้ายื่นขอสินเชื่อได้ง่าย ๆ เพียงออมเงินกับเราต่อเนื่อง 12 เดือน
                         ธอส. พร้อมดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง จัดทำสินเชื่อบ้าน Premier Home
                            ธอส. พร้อมดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง จัดทำสินเชื่อบ้าน Premier Home
                         ธอส. จัดทำ 5 สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ ต้อนรับปีใหม่ 2568 เริ่มต้นเพียง 2.70% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,000 บาท เท่านั้น!!
                            ธอส. จัดทำ 5 สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ ต้อนรับปีใหม่ 2568 เริ่มต้นเพียง 2.70% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,000 บาท เท่านั้น!!
                         5 ปี ติดต่อกัน! ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ธอส. ปี 2567 ในระดับ AAA และแนวโน้มอันดับเครดิตที่ระดับคงที่ ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่ง
                            5 ปี ติดต่อกัน! ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ธอส. ปี 2567 ในระดับ AAA และแนวโน้มอันดับเครดิตที่ระดับคงที่ ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่ง
                         ธอส. ร่วมกับ สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย ลงนาม MOU โครงการ Life Begins with GHB จัดทำแพ็กเกจผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้น
                            ธอส. ร่วมกับ สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย ลงนาม MOU โครงการ Life Begins with GHB จัดทำแพ็กเกจผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้น
                         โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน สปส.และ ธอส.
                            โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน สปส.และ ธอส.
                         โอกาสทองของคนอยากมีบ้านมาแล้ว!! ธอส. เปิดรายละเอียดคุณสมบัติและเงื่อนไขผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 เพื่อเข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567
                            โอกาสทองของคนอยากมีบ้านมาแล้ว!! ธอส. เปิดรายละเอียดคุณสมบัติและเงื่อนไขผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 เพื่อเข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567
                         ธอส. ร่วมกับ สำนักงานประกันสังคม ลงนาม MOU โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี ช่วยเหลือผู้ประกันตนมีบ้านเป็นของตนเอง
                            ธอส. ร่วมกับ สำนักงานประกันสังคม ลงนาม MOU โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี ช่วยเหลือผู้ประกันตนมีบ้านเป็นของตนเอง