ลูกนอนกรนแบบไหน? ที่ต้องพาไปพบแพทย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

การนอนมีผลต่อพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ ทั้งการเรียนรู้ สติปัญญา อารมณ์ และสมองเป็นอย่างมาก หากถูกรบกวนจากการหายใจติดขัด ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และอาจส่งผลกับระบบหัวใจและหลอดเลือด จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตกะทันหันจากภาวะหยุดหายใจเป็นเวลานานได้อีกด้วย

ลูกนอนกรนแบบไหน? ที่ต้องพาไปพบแพทย์

จากการศึกษาพบว่า 20% ของเด็กมีอาการนอนกรน โดยเด็กประมาณ 7-10% มีอาการนอนกรนทุกคืน และพบว่าเด็กประมาณ 2% มีปัญหาขณะหลับและมีภาวะหยุดหายใจ ซึ่งถือเป็นภาวะที่อันตราย ภาวะการหายใจลดลงหรือหยุดหายใจขณะหลับ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

  1. ภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่เกิดจากการหายใจไม่ออก เนื่องจากทางเดินหายใจแคบหรือตัน
  2. ภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่เกิดจากความผิดปกติของสมองที่ควบคุมการหายใจหรือกล้ามเนื้อ

แต่ส่วนใหญ่จะพบในแบบแรกบ่อยมากกว่า มักพบในเด็กช่วงก่อนวัยเรียนและช่วงวัยอนุบาล อายุ 2-6 ขวบ เมื่อเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จะส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ การที่ทางเดินหายใจอุดกั้นทำให้ต้องใช้พลังงานในการหายใจมาก เวลานอนเด็กจะกระสับกระส่าย ตื่นบ่อย ส่งผลให้การนอนหลับในเวลากลางคืนไม่มีคุณภาพ กระทบการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจาก “ต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์โต” เป็นผลมาจากการอักเสบซ้ำๆ จากอาการภูมิแพ้หรือเป็นหวัดบ่อยในเด็ก นอกจากนี้ยังมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น ภาวะอ้วนในเด็ก ความผิดปกติของโครงสร้างระบบทางเดินหายใจ เช่น กรามมีขนาดเล็ก มีทางเดินหายใจที่แคบกว่าปกติ มีความผิดปกติของสมองที่ทำให้การควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อระบบทางเดินหายใจผิดปกติ ฯลฯ

โดยสัญญาณอาการที่ชี้ว่าเด็กอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ที่คุณพ่คุณแม่สามารถสังเกตได้ คือ

  • นอนกรนเสียงดัง กรนถี่ๆ หรือกรนเกือบทุกคืน
  • นอนกระสับกระส่าย หรือนอนท่าที่ผิดปกติ
  • หายใจแรง หายใจสะดุดเป็นพักๆ หรือหายใจเฮือกๆ
  • มีเหงื่อออกมาก ปัสสาวะรดที่นอน หรือละเมอ
  • มีอาการไอหรือสำลัก ขณะนอนหลับ
  • หลังจากตื่นนอนมีอาการปวดศีรษะ
  • สมาธิสั้น หงุดหงิด ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมไม่ได้

หรือสังเกตง่ายๆ เวลาที่ลูกหลับลองนั่งนับดูว่าใน 1 ชั่วโมง ลูกหยุดหายใจไปกี่ครั้ง ถ้าน้อยกว่า 5 ครั้งถือว่า “นอนกรน” แต่ถ้ามากกว่า 5 ครั้งถือว่ามีปัญหา ยิ่งเกิน 30 ครั้งต่อ 1 ชั่วโมง จะถือว่ารุนแรง โดยปกติถ้าเกิน 15 ครั้งต้องได้รับการรักษา ซึ่งการรักษาเบื้องต้นคือการทานยาและพ่นยาประมาณ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกว่ามีอาการนอนหลับหรือนอนกรนอย่างไร?… ถ้าสงสัยว่าอาจมีปัญหาหรือมีความผิดปกติ ควรพาลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม หากปล่อยไว้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกตามมาภายหลังได้นะครับ…


ข่าวการเรียนรู้+พัฒนาการวันนี้

TOA ส่งมอบความสุข 'SHARING HAPPINESS' ปรับโฉมสนามเด็กเล่นให้น้องๆ บ้านราชาวดี (ชาย) จ.นนทบุรี ด้วยผลงานชนะเลิศ จากนิสิตสถาปัตย์ จุฬาฯ

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำนวัตกรรมสีรักษ์โลก เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และผู้เชี่ยวชาญด้านสีสันของไทย เดินหน้าโครงการ "SHARING HAPPINESS" เพื่อสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน และยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง จัดพิธีส่งมอบสนามเด็กเล่นที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ ที่ถูกออกแบบให้มีความเหมาะสม ปลอดภัย พร้อมใช้สีสันเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และส่งเสริมพัฒนาการให้แก่เด็กได้ดียิ่งขึ้น โดยมี นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธาน

นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอ... เลขาธิการ กอศ. ลุยพื้นที่ฉะเชิงเทรา ขับเคลื่อนอาชีวศึกษาไทย สู่มาตรฐานสากล — นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม...

เครือข่ายนิเวศสามดีเพื่อเด็กและครอบครัวจั... สสส. จับมือ 12 อปท. จังหวัดสตูล เดินหน้าสร้าง 'เครือข่ายนิเวศสามดี' เพื่อเด็กและครอบครัว — เครือข่ายนิเวศสามดีเพื่อเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล" มุ่งเป้าสร้...