บมจ.ศุภาลัย พลิกโฉมนวัตกรรมใหม่แห่งการอยู่อาศัย เปิดตัวทาวน์โฮมมิติใหม่ “ศุภธัญญ์” สู่ตลาดอสังหาฯ ปรับฟังก์ชันพื้นที่สวนพักผ่อนที่มีความเป็นส่วนตัว ประเดิมโครงการแรกที่ “ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต” บนทำเลย่านรังสิต-บางพูน พร้อมวางแผนต่อยอดนวัตกรรมใหม่ด้านการออกแบบ เตรียมลุยเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่แห่งการอยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานตลอดระยะเวลากว่า 31 ปีของศุภาลัย ที่ได้สร้างความเชื่อมั่นและความสุขให้กับทุกคนในครอบครัวมาอย่างมากมายจนถึงปัจจุบัน โดยล่าสุดได้พลิกโฉมนวัตกรรมการออกแบบทาวน์โฮมมิติใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ ในการปรับฟังก์ชันแบบบ้านของทาวน์โฮม เพื่อตอบโจทย์การพักอาศัยในอนาคต ภายใต้ชื่อแบบบ้าน “ศุภธัญญ์” เปิดตัวสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในโครงการ “ศุภาลัย พรีโม่ รังสิต” บนทำเลย่านรังสิต-บางพูน
นวัตกรรมใหม่ด้านการออกแบบของศุภาลัยในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้คำนึงถึงปัญหาของทาวน์เฮ้าส์ทั่วไปที่ห้องรับแขกที่ไม่ติดสวน เห็นแต่โรงรถหน้าบ้าน ทั้งๆ ที่ ผู้อยู่อาศัยต้องการพื้นที่สวนพักผ่อนที่มีความเป็นส่วนตัว “ศุภธัญญ์” มีการจัดเรียงฟังก์ชันใหม่โดยทำให้ Living & Dining ที่รวมพื้นที่เข้าด้วยกัน เชื่อมต่อเนื่องถึงพื้นที่สวนด้านหลัง เป็นโถงกว้าง 5.5 เมตร ที่ไร้เสากลาง สามารถชมวิวทิวทัศน์ผ่านช่องเปิดขนาดใหญ่ เพิ่มพื้นที่ระบายอากาศ และนำแสงธรรมชาติมาใช้ได้มาก ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่สร้างความสัมพันธ์อันแสนอบอุ่นภายใน ครอบครัวได้ดี
ในส่วนของพื้นที่ Service ปรับฟังก์ชันสู่บริเวณหน้าบ้าน เพื่อลดสิ่งรบกวนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน มีความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากห้องครัวและห้องเก็บของอยู่ใกล้กับพื้นที่จอดรถ ไม่ต้องเดินผ่านบริเวณพื้นที่ส่วนพักผ่อน เพิ่มความสะดวกสบายในงานระบบท่อน้ำดี และปั๊มน้ำอยู่ในห้องเก็บ ลดเสียงรบกวน ช่วยยืดอายุการใช้งาน อีกทั้งเรื่องพื้นที่ใช้สอยกับราคาของแบบบ้าน “ศุภธัญญ์” บริษัทฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 126 ตร.ม. และหน้ากว้าง 6.25 เมตร พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ บนที่ดินขนาด 20 ตร.ว. ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท นับเป็นทาวน์โฮมฟังก์ชันใหม่ในราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่าต่อการซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคำนึงถึงการออกแบบให้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน ด้วยการมีช่องแสง Sky Light บนหลังคา เพิ่มพื้นที่รับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้าน ลดการใช้ไฟฟ้า และใช้กระจกเขียวตัดแสงที่ให้คุณสมบัติสะท้อนความร้อนและรังสี UV อีกทั้งใช้ Thermal Reflective Ceiling ฝ้าสะท้อนความร้อน ด้วยเทคโนโลยีลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน โครงสร้างอิฐมวลเบาที่ไม่อมความร้อน รวมถึงใช้กรอบบานประตู-หน้าต่าง UPVC ลดเสียงรบกวนจากภายนอก ในส่วนของราวระเบียงและระแนงเป็นอลูมิเนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทาน ตลอดจน Aluminium Facade สะท้อนภาพลักษณ์ที่ประณีตและทันสมัยของนวัตกรรมใหม่แห่งการอยู่อาศัย โดยการออกแบบและสร้างสรรค์โครงการคุณภาพของศุภาลัย อยู่ในระบบ ISO 9001:2015 จึงสามารถมั่นใจในคุณภาพที่อยู่อาศัยมาตรฐานสากล
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ หวังว่านวัตกรรมใหม่ด้านการออกแบบทาวน์โฮมซีรี่ย์ใหม่ในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทฯ ยังมีแผนการนำแบบบ้าน “ศุภธัญญ์” เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายต่อไป สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การพักอาศัยในยุค New Normal เชิญแวะชมนวัตกรรมทาวน์โฮมแบบใหม่และเลือกแปลงโดนใจในราคาพิเศษก่อนใครในงาน Pre - sales 19 - 20 กันยายนนี้ ณ สำนักงานขายโครงการ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร https://bit.ly/2XFTAe0 สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1720 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.supalai.com
dwp ร่วมยินดี ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม เนื่องในโอกาส Supalai Icon Sathorn ได้รับรางวัล IDA 2024
ศุภาลัย ลุยจังหวัดใหม่ บุกเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม พร้อมเปิดคอนโดฯ วิวทะเล ใจกลางหัวหิน "ศุภาลัย บลูเวล หัวหิน"
ศุภาลัย X เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลังมอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้า 2 บริษัท ผ่านแคมเปญ "Supalai X MTL Privilege"
ศุภาลัย สร้างโอกาสทางการศึกษา พัฒนาอนาคตของชาติ บูรณะอาคารเรียน ห้องสมุด และมอบอุปกรณ์ทางการศึกษา ให้แก่โรงเรียนวัดกลางสุริยวงศ์ จ.พิษณุโลก
SPALI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ผ่านระบบออนไลน์
ศุภาลัย เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจ และกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ ปี 2564
ศุภาลัย เดินเกมรุกตลาดปี 64 ชูสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง พร้อมเติบโตแบบ New High
ศุภาลัย เผยความสำเร็จโครงการอสังหาฯ ออสเตรเลีย ปี 63 กวาดยอดขายกว่า 1,983 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าสู่ 5,350 ล้านบาท ในปี 64