อำเภอหลิงฉิว (Lingqiu County) ในมณฑลซานซี ทางเหนือของจีน มีความพยายามในการสำรวจการพัฒนาเกษตรอินทรีย์เพื่อบรรเทาความยากจน
ความพยายามของอำเภอหลิงฉิวได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากผู้เข้าร่วมการประชุมเกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Forum of Organic Agriculture) ครั้งที่ 7 ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ในเมืองต้าถ่ง
ศาสตราจารย์ Hu Yuegao แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จีน ชี้ให้เห็นว่า โลกอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านจากยุคอารยธรรมอุตสาหกรรม (industrial civilization) สู่ยุคอารยธรรมแห่งนิเวศ (ecological civilization) และเกษตรอินทรีย์เป็นแนวทางที่ดีในการบรรลุเป้าหมายของการฟื้นชีวิตให้ชนบทและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว
บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมงานนี้ตั้งข้อสังเกตว่า เกษตรอินทรีย์สามารถแก้ปัญหาความปลอดภัยทางอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืนในท้ายที่สุด
หลิงฉิวเป็นอำเภอหนึ่งในเมืองต้าถ่ง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลซานซี อำเภอหลิงฉิวมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานในด้านการผลิตทางการเกษตร โดยประชากร 200,000 คนจากทั้งหมด 250,000 คน อยู่ในภาคการผลิตทางการเกษตร
เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายทั้งการบรรเทาความยากจนและการคุ้มครองระบบนิเวศ อำเภอหลิงฉิวได้ใช้เกษตรอินทรีย์เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการบรรเทาความยากจนเชิงนิเวศมาตั้งแต่ปี 2556
การเกษตรอินทรีย์และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ช่วยให้ประชาชน 14,547 คนหลุดพ้นจากความยากจน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อำเภอหลิงฉิวดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อพัฒนาเกษตรอินทรีย์และคุ้มครองสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในท้องถิ่น
อำเภอหลิงฉิวได้เปิดตัวอุทยานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งกินพื้นที่ 1,185 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมเกษตรกร 46,000 คนใน 208 หมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีการสร้างเขตสาธิตเกษตรอินทรีย์ครอบคลุมพื้นที่ 146 ตารางกิโลเมตรในตำบลหนึ่ง เพื่อพัฒนาโครงการเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง
ขณะเดียวกัน หลิงฉิวยังได้เลือกใช้รูปแบบการพัฒนาที่เป็นการผสมผสานระหว่างเกษตรอินทรีย์ ชนบทที่สวยงาม และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยมีการสร้างชุมชนหกแห่งที่มีเกษตรอินทรีย์เป็นแกนหลัก และได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ในปัจจุบัน
ตัวอย่างหนึ่งของหกชุมชนดังกล่าว ได้แก่ Chehe Organic Community ที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 420,000 คนนับตั้งแต่จัดตั้งชุมชนขึ้นในปี 2557 และมีมูลค่าการลงทุนรวม 380 ล้านหยวน (ประมาณ 56.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
จนถึงปัจจุบัน มูลค่าผลผลิตรวมของเกษตรอินทรีย์ในอำเภอหลิงฉิวคิดเป็นสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรทั้งหมดของอำเภอ และปัจจุบันอำเภอหลิงฉิวมีบริษทชั้นนำในอุตสาหกรรมการเกษตร 20 แห่ง
ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/316219.html
เจียไต๋มอบทุน "กองทุนเจียไต๋ - ดร. มนู - ดร. มนัส เจียรวนนท์" แก่นิสิต ม.เกษตร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14
สวทช.-ม.เกษตรฯ จัดงาน "NSTDA-KU Rice Field Day 2025" ปีที่ 2 โชว์ศักยภาพพันธุ์ข้าวนวัตกรรม ผลผลิตสูง 2 ตันต่อไร่ พร้อมรับมือวิกฤติภูมิอากาศ ตอบโจทย์เกษตรยั่งยืน
นักวิชาการชี้ 'ศักยภาพ' ไทยพร้อมลุยเศรษฐกิจหมุนเวียนพลาสติก แต่ติดหล่ม 'ระบบ-พฤติกรรม'...ชู'EPR- PPP Plastics' กลไกขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย
บางจากฯ หนุนทางรอดทะเลไทยในภาวะโลกร้อน ส่งมอบห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหญ้าทะเลแห่งแรกของโลก แก่คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
บางจากฯ เปิด "ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน" โดยภาคเอกชนและพันธมิตร แห่งแรกของประเทศไทย ที่หมู่เกาะหมาก
สวทช. ชู ศูนย์ชีววัสดุประเทศไทย (TBRC) ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (NBT) กลไกขับเคลื่อนการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ใช้ประโยชน์ พื้นที่ "ผาแดง" ในงาน IBD2025
STI ยืนยันความเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คว้างานควบคุมการก่อสร้าง "อาคารเรียนและปฏิบัติการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" มูลค่างานก่อสร้างกว่า 440 ล้านบาท