กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. MOU มูลนิธิ ณภาฯ ต่อยอดการพัฒนาสารสกัดสมุนไพรและหัตถกรรมท้องถิ่นสู่ระดับสากล
                                                                                                                                        กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมูลนิธิ ณภาฯ ในพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สนับสนุนการศึกษาวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากพืชสมุนไพรและหัตถกรรมท้องถิ่น ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) และผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการและโฆษก อว. ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมี นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ และนายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร รองประธาน มูลนิธิ ณภาฯ เป็นผู้แทนลงนาม ณ อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม                       
                                                            
                                                                                                                            
นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) เปิดเผยหลังการลงนามว่าความร่วมมือฯครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากพืชสมุนไพรและหัตถกรรมท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ โดยจะร่วมกันกำหนดทิศทางการวิจัย การเสริมสร้างศักยภาพ องค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาในระดับเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่ และใช้องค์ความรู้ภูมิปัญญาของชุมชนเป็นแกนหลักในการต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น วางรากฐานที่มั่นคงให้กับเศรษฐกิจไทยในอนาคตโดยยึดหลัก BCG Model นำวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอดให้ได้สินค้าที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ทั้งนี้ วศ. มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาสมุนไพร ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ต่อยอดผลงานด้านสารสกัดจากพืชสมุนไพรและหัตถกรรมท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม โดย วศ. จะช่วยวิจัยและพัฒนากระบวนการการผลิตผลิตภัณฑ์โดยใช้วัสดุเหลือทิ้ง เช่น ดอกดาวเรืองที่ประชาชนผู้มีศรัทธานำมากราบไหว้ขอพรหลวงปู่ศรีสุทโธ ณ คำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน วศ. สามารถจัดเก็บดอกดาวเรืองมาทำให้แห้งด้วยตู้อบแสงอาทิตย์ที่เหมาะสมกับท้องถิ่น เพื่อเป็นวัตถุดิบเก็บไว้ใช้ในการพัฒนากระบวนการย้อมสีเส้นใยธรรมชาติ เช่น เส้นใยฝ้าย เส้นใยไหม สำหรับทำเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าทอที่มีสีสวยงาม สีมีความคงทนต่อแสงและความคงทนต่อการชักได้ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นผลิตภัณฑ์จากชุมชนที่มีความหมายดีเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนและลดภาระการจัดการของเหลือทิ้งในพื้นที่คำชะโนดได้อีกทางหนึ่งด้วย
                            
                            วว.  นำเสนอผลงานเด่น  58 ปี พัฒนาเศรษฐกิจประเทศ  ในการเสวนา "ศึกษาอดีต  เรียนรู้ปัจจุบัน  สู่อนาคตกับวิทยาศาสตร์ไทยสู้ภัยโควิด"
                        
                            วศ. จับมือ วว.และ สวทช. เปิดเวทีเสวนาวิชาการ "ศึกษาอดีต เรียนรู้ปัจจุบัน สู่อนาคตกับวิทยาศาสตร์ไทยสู้ภัยโควิด" มองภาพอนาคตตอบโจทย์ประเทศ
                        
                            กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวง อว. MOU สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยยกระดับ SMEs ของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
                        
                            วศ. มอบของขวัญปีใหม่ 2564 ลดค่าบริการทดสอบฯ 3 เดือน สนับสนุนบริการทางวิทยาศาสตร์ให้กับประชาชนคนไทย
                        
                            วศ.เปิดตลาด OTOP ของขวัญ ปีใหม่ 2564
                        
                            วศ. ชูงานวิจัยฯ ยกระดับผู้ประกอบการเซรามิกลำปาง
                        
                            วศ. พร้อมโชว์ผลงานพัฒนา"เซรามิก" ในพื้นที่ จ.ลำปาง
                        
                            วศ. ลงพื้นที่ติดตามคณะรัฐมนตรีฯ ตรวจเยี่ยม ผลการดำเนินงานของมหา’ลัยแพะนานาชาติกระบี่