ผู้บริหารและที่ปรึกษาสุดมั่นใจ หุ้น "PACO" เข้าเทรดจันทร์นี้ กระแสแรง หลังจากกระแสหุ้นไอพีโอปีนี้ ล้วนเปิดเทรดสวยงาม ชูจุดเด่นหุ้น Growth กำไรเติบโตแรง 150% แถมตลาดรถยนต์ฟื้นตัวแรงตามเศรษฐกิจ
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) ("PACO") กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 22 มีนาคม 2564 โดยหุ้น IPO "PACO" ราคาหุ้นละ 1.40 บาท จำนวน 260 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด และมั่นใจว่าจากศักยภาพในการสร้างความเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืนจะช่วยสนับสนุนให้ PACO เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก และเชื่อว่านักลงทุนที่พลาดการจองหุ้นไอพีโอ จะเข้าซื้อในวันแรกนี้ เนื่องจาก PACO มีการเติบโตของกำไรสูงกว่า 150% ในปี 2563 โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 76.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 46.19 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562 เนื่องจาก PACO ได้นำเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาติดตั้งและดำเนินการได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดการปรับกระบวนการทำงานในการผลิตเพื่อควบคุมการใช้แรงงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถลดต้นทุนค่าแรงและค่าล่วงเวลาได้อย่างมีนัยสำคัญ และบริษัทฯ มั่นใจว่าปีนี้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย รวมถึงตลาดชิ้นส่วนรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวดีจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้ามีกำลังซื้อมากขึ้น
PACO เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์ในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทน (REM หรือ Aftermarket) ระดับนานาชาติ ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอะไหล่รถยนต์ทั่วโลก และบริษัทฯ จะนำเงินจากการเพิ่มทุน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการจำนวน 108 ล้านบาท ใช้ลงทุนในโครงการอนาคต 2 โครงการ จำนวน 40 ล้านบาท คือ โครงการก่อสร้างคลังสินค้าและย้ายจุดกระจายสินค้าในประเทศจำนวน 20 ล้านบาท และ จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าและขยายตลาดในประเทศมาเลเซียจำนวน 20 ล้านบาท นอกจากนี้ จะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินจำนวน 200 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย
นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย หุ้นไอพีโอ ของ บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO เปิดเผยว่า "หุ้นไอพีโอ PACO ได้รับความสนใจในการจองซื้ออย่างสูงจากกลุ่มนักลงทุน เนื่องจาก บริษัทฯ มีจุดแข็งด้านการเป็นผู้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ระดับนานาชาติ และ มีรายได้ที่มีความมั่นคงสูง ไม่แปรผันตามสภาวะเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นไอพีโอ ที่ราคา 1.40 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับ P/E ของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย โดยกลุ่มนักวิเคราะห์คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคง และมีจุดแข็งด้านการผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับสูง มีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง รองรับรถยนต์และรถบรรทุกทุกประเภท โดยการระดมทุนครั้งนี้ นอกจากเพื่อคืนหนี้สถาบันการเงินแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการขยายกิจการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ก่อตั้งมาแล้วกว่า 30 ปี เป็น 1 ในผู้บุกเบิกการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ของไทย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อะไหล่แอร์รถยนต์แบบครบวงจร และจำหน่ายสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ เอเชียและออสเตรเลีย โดยบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น ครอบคลุมทั้งรถยนต์ทุกสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน โดยมีสินค้ารวมมากถึง 2,600 รุ่นซึ่งครอบคลุมเกือบทุกรุ่นของคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นทั่วโลก โดยบริษัทฯ มีโรงงานผลิต 3 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015
PRTR ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ A ประจำปี 2568
ASIMAR ขยับมาตรฐานความยั่งยืน สู่ SET ESG Ratings ระดับ "BBB" ประจำปี 2568
PHOL คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ที่ระดับ "A" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
SAPPE คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ A ติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ตอกย้ำมาตรฐานธุรกิจยั่งยืนในทุกมิติ
"MOSHI" คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2568 ระดับ "AA" ชูแนวคิด 'Make Sustainability part of Your Everyday Life' สร้างการเติบโตควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568
TTA คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2568 ระดับสูงสุด "AAA"
PLUS คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ "A" ประจำปี 2568 ตอกย้ำมาตรฐาน ESG เสริมศักยภาพการเติบโตระยะยาว
COM7 คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ระดับ "AA" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตอกย้ำการบริหารจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืน