SFT โชว์ผลงานไตรมาส 4/2563 ทำกำไรสุทธินิวไฮเติบโต 105.9% หนุนทั้งปีเติบโตเกินเป้าหมาย พร้อมจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0711 บาทต่อหุ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

'บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT' หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน โชว์ผลงานเติบโตเกินเป้า หลังไตรมาส 4/63 ทำกำไรสุทธิเติบโต 105.9% ทำสถิตินิวไฮ ส่งผลทั้งปีมีกำไรสุทธิ 78.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.4% รับความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิมเพิ่มออเดอร์การผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูป รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ด้านบอร์ดอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีในอัตรา 0.0711 บาทต่อหุ้นเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ขณะที่ผู้บริหาร SFT ประกาศเร่งติดตั้งเครื่องจักรไลน์การผลิตฟิล์มหดรัดรูป รับออเดอร์ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มพุ่ง

SFT โชว์ผลงานไตรมาส 4/2563 ทำกำไรสุทธินิวไฮเติบโต 105.9% หนุนทั้งปีเติบโตเกินเป้าหมาย พร้อมจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0711 บาทต่อหุ้น

นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/63 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 21.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.9% เมื่อเทียบกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2562 ที่ทำได้ 10.48 ล้านบาท นับเป็นสถิตินิวไฮ จากปัจจัยรายได้ผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปด้วยระบบการพิมพ์แบบกราเวียร์ที่มีฐานลูกค้าหลักในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และระบบการพิมพ์แบบดิจิตอลจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเสริมและเวชภัณฑ์ที่มียอดคำสั่งผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ทำได้ 182.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้นถึง 27.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2562 ทำให้ SFT ได้รับประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) และทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำลง

ด้วยปัจจัยบวกดังกล่าว ทำให้ผลงานในปี 2563 บริษัทฯ ทำรายได้จากการดำเนินงานทั้งสิ้น 677.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 585.18 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิของปี 63 อยู่ที่ 78.18 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 37.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 56.89 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของ SFT ด้านความเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมการพิมพ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน ที่มีการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อนำผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปเข้าไปช่วยสร้างภาพลักษณ์และมูลค่าให้แก่แบรนด์สินค้า (Brand Identity ให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล งวดผลการดำเนินงานปี 2563 ในอัตรา 0.0711 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 11 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2564

"แม้ปีที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบและทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่เรายังทำผลการดำเนินงานให้เติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยกำไรสุทธิในไตรมาส 4/63 ที่ทำสถิตินิวไฮ ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าทั้งด้านคุณภาพงานและราคา ทำให้ลูกค้ามีออเดอร์การสั่งผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้ผลงานทั้งปีเติบโตโดดเด่น และจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกคน" นายซุง ชง ทอย กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFT กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2564 ต่อไปว่า บริษัทฯ จะมุ่งสร้างความเข้มแข็งด้านการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูประบบการพิมพ์กราเวียร์ เพื่อรองรับความต้องการฉลากฟิล์มหดรัดรูปของกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังภาวะเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น โดยจะเร่งติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตให้แล้วเสร็จและพร้อมเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2/64 รวมถึงการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติม และบริหารจัดการต้นทุนในทุกมิติ เพื่อช่วยสนับสนุนให้อัตราการการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดผลักดันเป้าหมายการดำเนินงานปี 2564 ให้เติบโต 15-20% ได้ตามแผน


ข่าวการบริหารจัดการ+บริหารจัดการวันนี้

บลจ.อีสท์สปริง โชว์จ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ 3 กองทุน รวม 342 ล้านบาท ดีเดย์ 22 ธ.ค. 68 นี้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible (ES-APPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ส่วนอีก 2 กองทุน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus

บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มห... TGE คว้าเรตติ้ง ESG ระดับ A จาก SET ปี 2568 ตอกย้ำผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เติบโตอย่างยั่งยืน — บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ได...

กรุงศรี โดย นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ ประธานค... Krungsri One Payment คว้ารางวัลระดับโลกด้านนวัตกรรมการชำระเงินองค์กร — กรุงศรี โดย นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุง...

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่ง... กคช. ร่วม ธอส. จัดโครงการส่งเสริมวินัยการเงินในชุมชน ปี 2568 — นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ มอบหมายให้ นายอธิวัฒน์ ศิลาหม้อม ผู้ช่วยผู้ว่...

บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มห... ASIMAR ขยับมาตรฐานความยั่งยืน สู่ SET ESG Ratings ระดับ "BBB" ประจำปี 2568 — บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR ได้รับการประเมินด้า...

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรื... PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568 — บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้รับผลการประเมินความยั่งยืน SET ESG R...