'บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT' หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน โชว์ผลงานเติบโตเกินเป้า หลังไตรมาส 4/63 ทำกำไรสุทธิเติบโต 105.9% ทำสถิตินิวไฮ ส่งผลทั้งปีมีกำไรสุทธิ 78.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.4% รับความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิมเพิ่มออเดอร์การผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูป รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ด้านบอร์ดอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีในอัตรา 0.0711 บาทต่อหุ้นเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ขณะที่ผู้บริหาร SFT ประกาศเร่งติดตั้งเครื่องจักรไลน์การผลิตฟิล์มหดรัดรูป รับออเดอร์ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มพุ่ง
นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/63 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 21.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.9% เมื่อเทียบกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2562 ที่ทำได้ 10.48 ล้านบาท นับเป็นสถิตินิวไฮ จากปัจจัยรายได้ผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปด้วยระบบการพิมพ์แบบกราเวียร์ที่มีฐานลูกค้าหลักในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และระบบการพิมพ์แบบดิจิตอลจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเสริมและเวชภัณฑ์ที่มียอดคำสั่งผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ทำได้ 182.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้นถึง 27.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2562 ทำให้ SFT ได้รับประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) และทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำลง
ด้วยปัจจัยบวกดังกล่าว ทำให้ผลงานในปี 2563 บริษัทฯ ทำรายได้จากการดำเนินงานทั้งสิ้น 677.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 585.18 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิของปี 63 อยู่ที่ 78.18 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 37.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 56.89 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของ SFT ด้านความเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมการพิมพ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน ที่มีการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อนำผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปเข้าไปช่วยสร้างภาพลักษณ์และมูลค่าให้แก่แบรนด์สินค้า (Brand Identity ให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล งวดผลการดำเนินงานปี 2563 ในอัตรา 0.0711 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 11 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2564
"แม้ปีที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบและทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่เรายังทำผลการดำเนินงานให้เติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยกำไรสุทธิในไตรมาส 4/63 ที่ทำสถิตินิวไฮ ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าทั้งด้านคุณภาพงานและราคา ทำให้ลูกค้ามีออเดอร์การสั่งผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้ผลงานทั้งปีเติบโตโดดเด่น และจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกคน" นายซุง ชง ทอย กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFT กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2564 ต่อไปว่า บริษัทฯ จะมุ่งสร้างความเข้มแข็งด้านการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูประบบการพิมพ์กราเวียร์ เพื่อรองรับความต้องการฉลากฟิล์มหดรัดรูปของกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังภาวะเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น โดยจะเร่งติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตให้แล้วเสร็จและพร้อมเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2/64 รวมถึงการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติม และบริหารจัดการต้นทุนในทุกมิติ เพื่อช่วยสนับสนุนให้อัตราการการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดผลักดันเป้าหมายการดำเนินงานปี 2564 ให้เติบโต 15-20% ได้ตามแผน
TGE คว้าเรตติ้ง ESG ระดับ A จาก SET ปี 2568 ตอกย้ำผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เติบโตอย่างยั่งยืน
Krungsri One Payment คว้ารางวัลระดับโลกด้านนวัตกรรมการชำระเงินองค์กร
กคช. ร่วม ธอส. จัดโครงการส่งเสริมวินัยการเงินในชุมชน ปี 2568
Kearney และ Egon Zehnder เปิดตัวโครงการ IGNITE Thailand ปลดล็อกศักยภาพผู้บริหารหญิงยุคใหม่ในประเทศไทย
TBN เดินหน้าธุรกิจตามหลัก ESG คว้า SET ESG Ratings ระดับ "A" ประจำปี 2568 ตอกย้ำผู้นำดิจิทัลโซลูชันที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน
สปปท. เปิดเวทีสัมมนาวิชาการและประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ขับเคลื่อนประปาไทยก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ASIMAR ขยับมาตรฐานความยั่งยืน สู่ SET ESG Ratings ระดับ "BBB" ประจำปี 2568
SAPPE คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ A ติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ตอกย้ำมาตรฐานธุรกิจยั่งยืนในทุกมิติ
PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568