บทบาทสำคัญของ "นวัตกรรมฟินเทค" ในโลกใหม่หลังการแพร่ระบาด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

โดย ซิงจุน นี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของแอนท์ กรุ๊ป

บทบาทสำคัญของ "นวัตกรรมฟินเทค" ในโลกใหม่หลังการแพร่ระบาด

ทุกวันนี้ นอกจากชีวิตประจำวันของเราที่ย้ายไปสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ความต้องการบริการด้านการเงินดิจิทัลและบริการด้านเทคโนโลยีการเงินในรูปแบบอื่นๆก็เพิ่มขึ้นด้วย ชีวิตวิถีใหม่ที่เป็นผลจากการแพร่ระบาดก่อให้เกิดโอกาสมากมาย รวมถึงการเข้ามามีบทบาทของอุตสาหกรรมฟินเทค (Fintech) บทบาทสำคัญของ "นวัตกรรมฟินเทค" ในโลกใหม่หลังการแพร่ระบาด

ขณะที่ทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาด เราจำเป็นต้องแน่ใจว่านวัตกรรมฟินเทคมุ่งช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด รวมทั้งแก้ไขปัญหาสำคัญๆที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นภารกิจสำคัญ2-3 เรื่อง ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ที่มีจำนวนมากขึ้น และกระตุ้นการปรับใช้เทคโนโลยีในวงกว้าง

สิ่งสำคัญที่สุดคือหลังการแพร่ระบาด เราสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมฟินเทคเพื่อ:

  • ส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด
  • ดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้นในการสร้างพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่าน Green Finance ทั้งในระดับองค์กรธุรกิจและบุคคลทั่วไป
  • เพิ่มความไว้วางใจต่อกัน และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างธุรกิจภาคส่วนต่างๆ ในทุกประเทศทั่วโลก

ส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินสถานการณ์การแพร่ระบาดส่งผลให้มีการปรับใช้โซลูชั่นดิจิทัลกันอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง แม้กระทั่งในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท ทั้งนี้เพราะความจำเป็นในการใช้ช่องทางดิจิทัลเพื่อเข้าถึงบริการธนาคารในช่วงการบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด

ตัวอย่างเช่น ประเทศบังคลาเทศ ซึ่งในกลุ่มประชากรวัยผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท มีเพียง 50% เท่านั้นที่มีบัญชีธนาคาร ผู้ให้บริการด้านการเงินผ่านมือถือ bKash จึงได้นำเสนอบริการโอนเงินที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่สามารถโอนเงินผ่านระบบดิจิทัลไปยังผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทได้อย่างปลอดภัยและสอดรับกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม  นอกจากนี้ bKash ยังร่วมมือกับรัฐบาลของบังคลาเทศในการส่งเงินช่วยเหลือเยียวยาผ่านระบบดิจิทัลไปให้แก่ประชาชนหลายล้านคนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ 400,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด

ในปี 2564 เราคาดว่าจะมีการบูรณาการมากขึ้นระหว่างระบบการเงินดิจิทัลและระบบเศรษฐกิจที่แท้จริง โดยธนาคารและสถาบันการเงินจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงการให้บริการจากรูปแบบออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปใช้ช่องทางดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น  เมื่อเดือนธันวาคม 2563 ธนาคารกลางสิงคโปร์ออกใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจธนาคารดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบแก่ผู้ประกอบการ 4 ราย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการออกใบอนุญาตดังกล่าวในประเทศสิงคโปร์ และนั่นหมายความว่าผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ธนาคารจะสามารถจัดหาบริการที่เหมือนธนาคารได้เช่นกัน ทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ว่าธุรกิจดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่า และจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก

สร้างพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนของผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจการเงินสีเขียว (Green Finance) เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพราะเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยตอบสนองความต้องการด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจแนวทุนนิยม โดยฟินเทคจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมสีเขียวเพื่อแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน

ผลการศึกษาที่ดำเนินการร่วมกันโดยสถาบัน Paulson Institute และมหาวิทยาลัยชิงหวา ระบุว่า จีนมีบทบาทเป็นผู้นำในการทดสอบนวัตกรรมด้านการเงินสีเขียวที่ขับเคลื่อนด้วยฟินเทค รวมถึงโครงการพัฒนาที่ยั่งยืน และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

แพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่นำไปสู่การปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน  ตัวอย่างเช่น โครงการ Ant Forest ที่เปิดตัวบนแอพอาลีเพย์ (Alipay) ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ในรูปแบบของ "คะแนนสะสมพลังงานสีเขียว" (Green Energy Points) ในแต่ละครั้งที่ผู้ใช้ดำเนินการบางอย่างเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น ขี่จักรยานไปทำงาน ลดการใช้กระดาษ และซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คะแนนสะสมดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการปลูกต้นไม้เสมือนจริงบนแอพของผู้ใช้ ขณะที่อาลีเพย์จะให้การสนับสนุนด้วยการปลูกต้นไม้จริงหรือการคุ้มครองพื้นที่อนุรักษ์ โดยร่วมมือกับองค์กรเอ็นจีโอในท้องถิ่น

เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน แอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิให้เท่ากับศูนย์ (Carbon Neutral) ภายในปี 2573  นอกเหนือจากการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีสีเขียวอื่นๆ แล้ว บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรภาคอุตสาหกรรมในการส่งเสริมการเงินสีเขียวอีกด้วย

เสริมสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือขณะที่บริษัทต่างๆ ปรับเปลี่ยนการดำเนินงานสู่รูปแบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น การเสริมสร้างความไว้วางใจต่อกันระหว่างภาคส่วนต่างๆ และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างปลอดภัยได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ

เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่สามารถป้องกันการปลอมแปลง ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือในสภาพแวดล้อมดิจิทัลมากขึ้น ในปี 2563 ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกครองสัดส่วนราว 19.3% ของยอดใช้จ่ายในเทคโนโลยีบล็อกเชนทั่วโลก โดยมีการใช้งานหลักๆ ใน 3 ด้าน ได้แก่ การค้าระหว่างประเทศ บริการธุรกรรมระหว่างประเทศและการชำระเงินหลังการซื้อขาย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

การลงทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาต่อยอดสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน และนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมฟินเทคที่รองรับความร่วมมือทางด้านดิจิทัลระหว่างภาคส่วนต่างๆ เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทฟินเทค ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เราได้เห็นการดำเนินการดังกล่าวบน Trusple ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการทางการเงินและการค้าระหว่างประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AntChain ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากบล็อกเชน ก่อนนี้ธนาคารต้องใช้เวลามากในการตรวจสอบติดตามและยืนยันคำสั่งซื้อสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งยังต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลไม่ได้ถูกแก้ไขปลอมแปลง โดยกระบวนการดังกล่าวต้องใช้แรงงานคนและทรัพยากรจำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ธนาคารไม่สามารถเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ค้าระหว่างประเทศได้

ในทางกลับกัน แพลตฟอร์ม Trusple สร้าง Smart Contract หลังจากที่ผู้ซื้อและผู้ขายอัพโหลดคำสั่งซื้อไปยังแพลตฟอร์ม กระบวนการแบบอัตโนมัตินี้นอกจากจะช่วยให้ธนาคารลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก และลดเวลาในการตรวจสอบติดตามคำสั่งซื้อในรูปแบบเดิมๆแล้ว ยังทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่รับส่งไม่ได้ถูกแก้ไขปลอมแปลง  หลังจากที่หนึ่งในธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของเอเชียได้ทำธุรกรรมการเงินเพื่อการค้าบนแพลตฟอร์ม Trusple เป็นครั้งแรก เราจึงเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนมีศักยภาพที่ดีเยี่ยมในการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระบบการค้า

อุตสาหกรรมฟินเทคมีศักยภาพสูงมากในการสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อรูปแบบการทำงาน และการใช้ชีวิตของเรา ตั้งแต่การสร้างความน่าเชื่อถือด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ไปจนถึงการขยายโอกาสการเข้าถึงบริการด้านการเงินผ่านระบบดิจิทัล ฟินเทคจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไขปัญหาสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เราพบเห็นทุกที่ทั่วโลก และยังช่วยสร้างสรรค์อนาคตที่ดียิ่งขึ้นในหลายปีนับจากนี้

เกี่ยวกับ แอนท์ กรุ๊ปกลุ่มบริษัท แอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างให้ผู้คนในโลกมีโอกาสที่เท่าเทียมก้น เทคโนโลยีของเราครอบคลุมทั้งบล็อกเชน, เอไอ, ซีเคียวริตี้, อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์, และคอมพิวติ้งที่เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพของเรา และคู่ค้าอีโคซิสเต็มส์เพื่อให้บริการกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้ทำธุรกรรมกับธนาคาร ไม่มีบัญชีธนาคาร หรือเข้าไม่ถึงการบริการผ่านธนาคาร (unbanked) และกลุ่มที่ลูกค้าที่มีบัญชีธนาคารแต่ยังนิยมใช้เงินสด (underbanked) ที่มีความปลอดภัย โปร่งใส คุ้มค่า รวมถึงการให้บริการทางการเงินที่ครอบคลุมแก่ผู้ใช้งานบุคคล และกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วโลก

Ant Group มีความร่วมมือระหว่างประเทศกับคู่ค้าที่เป็น global strategic partners เพื่อให้บริการแก่ผู้คนในประเทศเหล่านั้น รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนในต่างประเทศด้วยการเชื่อมอาลีเพย์กับผู้ประกอบการออนไลน์และออฟไลน์ แบรนด์ภายใต้ แอนท์ กรุ๊ป ได้แก่ อาลีเพย์, Ant Fortune, MYbank, และ WorldFirst หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.antgroup.com หรือติดตามได้ที่ Twitter @AntGroup

เกี่ยวกับอาลีเพย์อาลีเพย์ (Alipay) เป็นแพลตฟอร์มการให้บริการดิจิทัลไลฟ์ชั้นนำของโลกโดยแอนท์ กรุ๊ป โดยในปี 2547 อาลีเพย์เปิดตัวการให้บริการรับฝากทรัพย์สินเพื่อแก้ปัญหาความไว้วางใจระหว่างผู้ซื้อออนไลน์ และผู้ขายในยุคที่อีคอมเมิร์ซบูมในประเทศจีน และในเดือนมิถุนายน 2562 อาลีเพย์ได้คิดค้นนวัตกรรมที่ให้บริการแก่ผู้ใช้อาลีเพย์มากกว่า 1,200 ล้านคนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้าน e-wallet ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

อาลีเพย์ได้พัฒนาจากเครื่องมือชำระเงินเป็น "แพลตฟอร์มการให้บริการดิจิทัลไลฟ์ชั้นนำที่ครบสมบูรณ์ในที่เดียว" ด้วยกลยุทธ์แพลตฟอร์มเปิด อาลีเพย์ช่วยให้ผู้ให้บริการจากเซกเมนต์ต่างๆ เช่น ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน บริการสาธารณะ และบริการทางการเงิน มอบประสบการณ์ชีวิตดิจิทัลอย่างครบวงจรให้กับผู้ใช้งาน ขณะเดียวกัน อาลีเพย์ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากดิจิทัลในกระบวนการทำงาน รวมถึงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมการบริการ

อาลีเพย์ยังแบ่งปันประสบการณ์เทคโนโลยีทางการเงินอย่างต่อเนื่องร่วมกับคู่ค้าต่างชาติเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเข้าถึงการบริการทางการเงินที่ครอบคลุม อาลีเพย์ทำงานร่วมกับสถาบันการเงินในต่างประเทศกว่า 250 แห่ง ในการสร้างช่องทางการชำระเงินออนไลน์สำหรับผู้ซื้อและผู้ขายมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปต่างประเทศกว่า 56 ประเทศ พวกเขาสามารถใช้อาลีเพย์ชำระค่าบริการผ่านโทรศัพท์มือถือได้โดยตรง ปัจจุบันอาลีเพย์รองรับการทำธุรกรรมการเงิน 27 สกุล รวมถึงการขอคืนภาษีผ่านอาลีเพย์สามารถทำได้ใน 35 ประเทศ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนก็สามารถใช้อาลีเพย์ในการชำระเงินภายในประเทศได้เช่นกัน สามารถติดตามเราได้ที่ Twitter @Alipay  


ข่าวอาลีเพย์อาลีเพย์+เทคโนโลยีการเงินวันนี้

SCB TechX คว้า 2 รางวัลใหญ่จากเวที Asian Technology Excellence Awards 2025 ตอกย้ำบทบาทผู้นำเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค

บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด (SCB TechX) บริษัทเทคโนโลยีภายใต้กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ เดินหน้าสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคว้า 2 รางวัลใหญ่ระดับเอเชียจากเวที Asian Technology Excellence Awards 2025 ได้แก่: Thailand Technology Excellence Award สาขาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Facial Recognition Financial Technology) จากโซลูชัน IdentityX (eKYC Solution) Thailand Technology Excellence Award สาขาเทคโนโลยีการเงินด้านระบบธนาคาร (Fintech Banking) จากบริการ Payment Domain รางวัลนี้จัดโดย Asian

Bitkub Academy ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านเท... Bitkub Academy คอลแลปแบรนด์ New Era เปิดตัวหมวก Limited Edition เอาใจแฟนคลับนักสะสม — Bitkub Academy ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์...

บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด หรือ efin Gro... efin Group จับมือ ม.ทักษิณ เสริมศักยภาพนิสิตรุ่นใหม่ พร้อมก้าวสู่ตลาดแรงงานยุคดิจิทัล — บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด หรือ efin Group ผู้นำด้านเทคโนโลยีการเ...

ร้านค้ากว่า 875,000 ร้าน ในเนปาลสามารถรับ... ผู้ใช้งาน Alipay+ สามารถสแกนเพื่อชำระเงินที่ร้านค้าในเนปาลได้แล้ววันนี้ผ่าน NEPALPAY QR — ร้านค้ากว่า 875,000 ร้าน ในเนปาลสามารถรับชำระเงินจากนักท่องเที่ย...