PHOL ตั้งธงรายได้ปี 64 โต 10-15% โควิดหนุนสินค้าบริษัทขายดี ชูกลยุทธ์ซัพพลายเชน ดูแลลูกค้าเก่า-ใหม่ เจาะตลาดคอนซูเมอร์ขยายฐานลูกค้า

30 Mar 2021

บมจ.ผลธัญญะ หรือ PHOL กางแผนปี 64 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% ธุรกิจหลักสินค้ากลุ่มเซฟตี้ยังมีความต้องการจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐต่อเนื่อง พร้อมรุกตลาดคอนซูมเมอร์ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ขณะที่สินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม ได้รับปัจจัยบวกจากกระแส Work from Home และเทคโนโลยีใหม่ ด้านธุรกิจระบบบำบัดน้ำ จากปัญหาภัยแล้งและกฎหมายสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการนำน้ำมารีไซเคิลในอุตสาหกรรมมากขึ้น ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในการรับงานโปรเจ็กต์ต่อเนื่อง

PHOL ตั้งธงรายได้ปี 64 โต 10-15% โควิดหนุนสินค้าบริษัทขายดี ชูกลยุทธ์ซัพพลายเชน ดูแลลูกค้าเก่า-ใหม่ เจาะตลาดคอนซูเมอร์ขยายฐานลูกค้า

นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมครบวงจร รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2564 ตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ย 10-15% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้งานต่อเนื่องในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทั้งนี้ มองว่าสินค้ากลุ่ม SAFETY ยังมีความจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่อง ตามรูปแบบวิถีการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนแบบปกติใหม่เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 สินค้าเหล่านี้ยังอยู่ในความต้องการของตลาด โดยในปี 2564 บริษัทจะรุกตลาดลูกค้าคอนซูมเมอร์มากขึ้น ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เน้นการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดผู้บริโภคยุคปัจจุบันมากขึ้น เช่น การเพิ่มแฟชั่นความสวยงาม ทันสมัย ควบคู่กับคุณสมบัติด้านความปลอดภัย จากเดิมที่เน้นความปลอดภัยในอุตสาหกรรมเป็นหลัก และการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ทั้งของบริษัทเอง และการขายผ่าน Marketplace ของผู้ให้บริการภายนอก ด้านสินค้าควบคุมสภาพแวดล้อม (CE) ยังมีความต้องการใช้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้รับอานิสงส์จากรูปแบบ Work From Home และเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ภาคการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยบริษัทมุ่งเน้นการบริหารซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษากลุ่มลูกค้าเดิมและเพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมอื่นที่ยังมีส่วนแบ่งการตลาดไม่มากนัก

สำหรับธุรกิจด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค (Water) ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานจะไม่ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เลื่อนโปรเจ็กต์ออกไป แต่ถือว่าประสบความสำเร็จที่มีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปี 2564 คาดว่าจะยังสามารถเติบโตได้ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ มองว่าในอนาคตปัญหาด้านทรัพยากรน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ การใช้น้ำทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และประชาชนทั่วไปอาจมีข้อจำกัด อีกทั้งภาครัฐที่ออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรและจัดการทรัพยากรน้ำมีแนวโน้มเข้มงวดขึ้น ทำให้ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการน้ำเพิ่มขึ้น

"กลยุทธ์หลักในปีนี้ เราใช้จุดแข็งเรื่องซัพพลายเชน ในการรักษาฐานลูกค้าเดิมและการเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ไปยังอุตสาหกรรมอื่นที่ยังมีส่วนแบ่งการตลาดไม่สูงมากนัก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังเติบโตได้ในสถานการณ์โควิด เช่น อุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มการแพทย์และสาธารณสุข เป็นต้น มองภาพรวมธุรกิจยังเติบโตได้ดีในปี 2564 เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมหลักต่างๆในประเทศ เช่น ยานยนต์ ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมการก่อสร้าง เริ่มมีสัญญาณบวกกลับมาผลิตได้ตามปกติ หลังจากที่สถานการณ์โควิดมีการควบคุมได้ดีและเริ่มมีวัคซีน ด้านภาครัฐยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทมีแผนงานขยายฐานลูกค้าในตลาดคอนซูมเมอร์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้" นายบุญชัย กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวดประจำปี 2563 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2563) บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 73.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.32% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 41.42 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 1,055.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.76% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 911.85 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นหลักมาจากสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แก่ ถุงมือยางและถุงมือไนโตร ชุดป้องกันเชื้อโรค หน้ากากอนามัย เป็นต้น