ไทยพาณิชย์เปิดบริการ "ไทยพาณิชย์ เมียนมา" พร้อมดันประสบการณ์ดิจิทัล แบงก์กิ้ง เบิกทางธุรกิจการเงินเมียนมาเต็มรูปแบบ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดบริการ "ธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมา" เจาะตลาดการเงินเมียนมาเต็มรูปแบบ เป็นธนาคารไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตจัดตั้งธุรกิจธนาคารลูก (Subsidiary License) ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้ถือหุ้น 100% ซึ่งพร้อมนำความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งทางด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งเข้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการด้านการเงินและระบบการชำระเงินให้กับเมียนมาเพื่อตอบโจทย์โลกธุรกิจในกลุ่มอาเซียน ตลอดจนเชื่อมต่อขีดความสามารถใหม่ให้ธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมา สามารถตอบความต้องการและเข้าถึงลูกค้าแต่ละกลุ่มในเมียนมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งลูกค้ารายใหญ่ เอสเอ็มอี และรายย่อย พร้อมดันเครือข่ายสาขาในต่างประเทศเป็นสะพานเชื่อมโยงการค้า-การลงทุนระดับภูมิภาคในกลุ่มประเทศ CLMV+2

ไทยพาณิชย์เปิดบริการ "ไทยพาณิชย์ เมียนมา"  พร้อมดันประสบการณ์ดิจิทัล แบงก์กิ้ง เบิกทางธุรกิจการเงินเมียนมาเต็มรูปแบบ

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับใบอนุญาตการจัดตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมา จากธนาคารกลางเมียนมา และพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มกราคม 2564 ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ประกอบให้ยุทธศาสตร์การขยายเครือข่ายต่างประเทศในกลุ่มประเทศ CLMV+2 ที่ธนาคารมุ่งมั่นมาตลอดหลายปีประสบความสำเร็จ โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาในฐานะประเทศกลยุทธ์ (Strategic Country) ด้วยเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในเวทีเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งเมียนมายังมีภูมิศาสตร์ที่สามารถเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภูมิภาคยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดีย ในขณะที่รัฐบาลเมียนมามีนโยบายสนับสนุนการเข้ามาลงทุนของต่างชาติอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลก ตลอดจนเมียนมา รวมถึงประเทศไทยเองต่างกำลังเผชิญและต่อสู้กับมหาวิกฤตการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 แต่ธนาคารยังเชื่อมั่นว่าทิศทางการลงทุนในเมียนมาจะไม่เปลี่ยนภาพไปจากเดิม เศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวกลับมาเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง จึงเดินหน้าตามแผนเปิดสำนักงาน ธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมา เพื่อเป็นฟันเฟืองด้านการเงินร่วมสนับสนุนการฟื้นฟูของการค้า-การลงทุนให้กับภาคธุรกิจ ตลอดจนการเงินภาคประชาชนในเมียนมา และเป็นสะพานเชื่อมโยงการลงทุนในระดับภูมิภาคต่อไป โดยธนาคารโลกคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาจะกลับมาขยายตัวที่ 6% ในปี 2564 เติบโตจากที่คาดว่าจะขยายตัว 1.5% ในปี 2563 เพราะผลกระทบจากโควิด-19

ธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมา เป็นธนาคารไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบธนาคารลูก (Subsidiary License) โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้ถือหุ้น 100% สามารถประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบเสมือนธนาคารท้องถิ่นในเมียนมา ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการประชาชนและส่งเสริมธุรกิจในเมียนมาเพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น ซึ่งในขณะนี้อัตราประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินมีถึง 74% รวมทั้งสินเชื่อในภาคธุรกิจที่มีเพียง 20% ของ GDP (Domestic credit to private as % of GDP) ดังนั้นธนาคารจึงมุ่งเน้นการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของเมียนมาผ่านการนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับกลุ่มเป้าหมายของธนาคารให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้ารายย่อย โดยตั้งใจนำเอาประสบการณ์ความคร่ำหวอดในธุรกิจการเงินระดับภูมิภาคและศักยภาพในทุกมิติ โดยเฉพาะความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี เข้ามาเชื่อมต่อกับธุรกิจในเมียนมาเพื่อสร้างขีดความสามารถใหม่และเดินหน้าเจาะตลาดลูกค้าทุกกลุ่มให้ประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีเป้าหมายจะสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินและระบบการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและสามารถตอบโจทย์โลกธุรกิจและการเงินดิจิทัลให้กับเมียนมา สอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลในเมียนมาที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งธนาคารอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อพัฒนาบริการให้สามารถสร้างประสบการณ์ทางการเงินที่ดีให้กับชาวเมียนมา โดยจะเริ่มต้นพัฒนาด้านระบบการชำระเงินดิจิทัล ทั้ง Corporate portal สำหรับลูกค้าธุรกิจ และ Mobile Banking สำหรับลูกค้ารายย่อย ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการได้ภายในปี 2565 เพื่อตอบโจทย์การชำระสินค้าและบริการ ซึ่งจะช่วยลดภาระในการใช้และบริหารเงินสดในประเทศ

นายสารัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมียนมาเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตค่อนข้างสูง ถึงแม้ปัจจุบัน สินเชื่อลูกค้าธุรกิจจะเทียบเท่า 87% ของสินเชื่อทั้งหมดที่มีมูลค่าประมาณ 18,000 ล้านเหรียญ ในส่วนลูกค้ารายย่อยจะมีเพียงประมาณ 10% ซึ่งธนาคารกลางเมียนมาคาดว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อลูกค้ารายย่อยจะเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ นวัตกรรมในรูปแบบสินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ จากอัตราเพิ่มการใช้งานของ smartphone จาก 80% เป็น 90% ของประชากร ในปี 2561 ถึง 2562 นอกจากนั้น ยังมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นกว่า 1 ล้าน ผู้ใช้งาน ระหว่างปี 2562 ถึง 2563 จึงเป็นกลุ่มศักยภาพสำคัญต่อการพัฒนาระบบการเงินดิจิทัล

ธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมา ตั้งอยู่ที่ Sule Square Office Tower ซึ่งเป็นเขตธุรกิจสำคัญย่านใจกลางกรุงย่างกุ้ง โดยมี Mr. Rajesh Ahuja ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ (General Manager) ทั้งนี้ ธนาคารเริ่มเข้ามาให้บริการในเมียนมาตั้งแต่ปี 2555 ในรูปแบบสำนักงานตัวแทน (Representative Office) จึงมีความเข้าใจตลาด วัฒนธรรม ตลอดจนกฎระเบียบในเมียนมาเป็นอย่างดี พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้กับทุกธุรกิจที่ต้องการเข้าไปขยายกิจการในเมียนมา และพร้อมเป็นสะพานเชื่อมโยงการลงทุนระหว่างภูมิภาคให้กับนักลงทุนจากทุกชาติที่ต้องการขยายการค้าการลงทุนมายังประเทศในกลุ่ม CLMV+2 ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม จีน และสิงคโปร์


ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์+ดิจิทัลแบงก์กิ้งวันนี้

SCB ตอกย้ำผู้นำดิจิทัลแบงก์กิ้ง พลิกโฉมการลงทุนยุคใหม่ เปิดตัวแคมเปญ "TOP CHART INDEX FUND" รวบกองทุน INDEX FUND ทั่วโลก ลงทุนง่าย ครบจบ ที่แอป SCB EASY เพราะเรื่องกองทุนต้อง EASY

ลงทุนกองทุน INDEX FUND 26 กองทุนตัวท็อปในรูปแบบ Playlist ที่จะปลุกฟีลการลงทุนในตัวคุณ ลงทุนกองเดียว ได้ลงทุนหุ้นบริษัทชั้นนำในตลาดสำคัญจากแต่ละประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าสานต่อกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch มุ่งยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลแบงก์กิ้งเฉพาะบุคคล ด้วยการนำเทคโนโลยี AI พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เข้าถึงใจ และเข้าถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง พร้อมมุ่งสู่ AI-First Bank ปัจจุบัน ธนาคารมีจำนวนผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย

ธนาคารไทยพาณิชย์ หนึ่งในผู้นำด้านดิจิทัลแ... SCB เร่งยกระดับศักยภาพด้าน Data และ AI ขององค์กร ด้วยแพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks — ธนาคารไทยพาณิชย์ หนึ่งในผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง ผนึกกำ...