ในงานประชุม Global Mobile Broadband Forum (MBBF) ประจำปี 2563 ที่ผ่านมา นายเดวิด หวัง (David Wang) กรรมการผู้บริหารของหัวเว่ยขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "นิยามแห่ง 5.5G เพื่อโลกอัจฉริยะที่ดียิ่งขึ้น" (Defining 5.5G for a Better, Intelligent World) โดยระบุว่า 5.5G จะเป็นวิวัฒนาการใหม่ของเทคโนโลยี 5G และหัวเว่ยตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในแวดวงอุตสาหกรรมนี้เพื่อบรรลุนิยาม 5.5G โดยนายเดวิด หวัง กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือกัน เราจะสามารถพัฒนาประสบการณ์การตอบสนองแบบเรียลไทม์สำหรับผู้ใช้งานของแต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถยกระดับศักยภาพของอุปกรณ์ IoT แบบเซลลูลาร์และเปิดประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ๆ
เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายแต่ละรุ่นมักจะคงอยู่เป็นระยะเวลาราวหนึ่งทศวรรษ ก่อนที่มาตรฐานใหม่เข้ามาแทนที่ ซึ่งเทคโนโลยี 5G จะยังคงเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายหลักไปจนถึงปี 2030 และคาดว่าจะยังคงให้บริการไปจนถึงปี 2040
อย่างไรก็ดี ความเร็วเฉลี่ยยังคงจะต้องเพิ่มจาก 120 เมกะบิตต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วที่ทุกวันนี้ใช้สำหรับสตรีมวิดีโอ ความละเอียดระดับ 4K ให้เร็วได้ถึง 2 กิกะบิตต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วที่ต้องใช้กับวิดีโอความละเอียด 16K ในด้านการตอบสนองก็ยังต้องการค่าความหน่วง (latency) ที่ต่ำลง โดยปัจจุบันค่าความหน่วงอยู่ที่ 20 มิลลิวินาที ซึ่งจะต้องลดลงมาแตะ 5 มิลลิวินาทีให้ได้ เพื่อทำให้ได้ตามมาตรฐานทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เทคโนโลยี 5G จำเป็นต้องวิวัฒนาการต่อไปเรื่อย ๆ
ประสบการณ์ด้านการเชื่อมต่อระหว่างที่จะต้องได้รับการยกระดับ ขณะเดียวกันรูปแบบการเชื่อมต่อระหว่างสิ่งของต่าง ๆ ก็จะต้องได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก ทั้งนี้ หัวเว่ยจึงได้นำเสนอวิสัยทัศน์ว่าด้วยเทคโนโลยี 5.5G เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันที่เทคโนโลยี 5G จะต้องรองรับการเชื่อมต่อถึงหนึ่งแสนล้านโครงข่าย
"5.5G คือวิสัยทัศน์ที่เรามองอุตสาหกรรมนี้ มันคือการยกระดับและการขยายขอบเขตของลักษณะการใช้งาน 5G แบบมาตรฐานทั้ง 3 ลักษณะตามที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ได้ให้คำนิยามไว้ อันได้แก่ eMBB, mMTC และ URLLC" นายเดวิด หวัง กล่าว
5.5G จะครอบคลุมลักษณะการใช้งานมากกว่า 5G อีก 3 ลักษณะ ได้แก่ UCBC, RTBC และ HCS
นายเดวิด หวัง ยังระบุว่า "5.5G จะนำพาเราไปไกลกว่า IoT และทำให้ IoT อัจฉริยะเกิดขึ้นได้จริง ด้วยการขยายขอบเขตไปให้ไกลเกินกว่าการใช้งานลักษณะเดิมจาก 3 แอปพลิเคชัน เป็น6 แอปพลิเคชัน"
การใช้งานลักษณะใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี 5.5G จะสร้างมูลค่าใหม่ให้กับการพัฒนาสังคมและ การยกระดับอุตสาหกรรม
ประการแรก ลักษณะ UCBC จะเร่งการยกระดับอุตสาหกรรมสู่ระบบอัจฉริยะ UCBC จะเพิ่มอัปลิงก์ แบนด์วิดธ์ ได้มากถึง 10 เท่า ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการอัปโหลดวิดีโอในระบบ Machine Vision และอุปกรณ์ IoT ที่ใช้เครือข่ายบรอดแบรนด์ขนาดใหญ่ โดยจะเร่งกระบวนการยกระดับอุตสาหกรรมสู่ระบบอัจฉริยะให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ประการที่สอง ลักษณะ RTBC จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่สมจริง RTBC รองรับแบนด์วิดธ์ขนาดใหญ่และค่าความหน่วงต่ำ เป้าหมายคือการเพิ่มแบนด์วิดธ์10 เท่า โดยมีค่าความหน่วงตามต้องการและมีความเสถียรในระดับคงที่ ซึ่งหากบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ เราจะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ผู้ใช้จะตอบสนองกับโลกเสมือนได้อย่างสมจริง
ประการที่สาม ลักษณะ HCS ทำให้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเกิดขึ้นได้จริง HCS ได้รับการออกแบบเพื่อให้รถยนต์เชื่อมต่อถึงกัน หุ่นโดรนเชื่อมต่อถึงกันได้จริง รวมถึงทำให้สถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ระบบการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติเกิดขึ้นได้จริง
ประการที่สี่ รูปแบบการใช้งานในย่านความถี่ที่ต่ำกว่า 100 กิกะเฮิรตซ์จะต้องได้รับการรื้อโครงสร้างใหม่เพื่อให้เกิดมูลค่าสูงสุดของย่านความถี่ดังกล่าว
ประการที่ห้า เมื่อมีเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมศักยภาพ โครงข่าย 5G จะมีความอัจฉริยะอย่างไม่สิ้นสุด ในยุค 5G นี้เราจะได้เห็นคลื่นความถี่อีกจำนวนมาก รวมถึงอุปกรณ์ การบริการ และความต้องการของลูกค้าอีกมากมายหลากหลายประเภทยิ่งกว่ายุคไหนๆ ในยุคเทคโนโลยี 5.5G ดังนั้นเพื่อความสมบูรณ์แบบในการใช้งานจะต้องได้รับการบูรณาการเข้ากับ AI เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาความซับซ้อนเหล่านี้
นายเดวิด หวัง สรุปว่า "มาตรฐานที่มีเอกภาพและความร่วมมือในระดับอุตสาหกรรมคือแก่นของดีเอ็นเอที่จะช่วยก่อร่างสร้างความสำเร็จให้แก่อุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายระดับโลก ซึ่งการพัฒนาของเทคโนโลยี 5.5G ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกฝ่ายตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า"
ทั้งนี้ หัวเว่ยตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ในแวดวงอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดนิยามของเทคโนโลยี 5.5G และสร้างโลกอัจฉริยะที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ผู้สนใจสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ 2020 Global Mobile Broadband Forum ได้ที่เว็บไซต์ https://www.huawei.com/minisite/mbbf2020/en/
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของ หัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 194,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com
ติดตามเราได้ที่
http://www.linkedin.com/company/Huawei
http://www.twitter.com/Huawei
http://www.facebook.com/HuaweiTechTH
http://www.youtube.com/Huawei
efin Group เดินหน้าสร้างความร่วมมือขับเคลื่อนอนาคตด้วยการศึกษา พัฒนาบัณฑิตยุคใหม่ด้วยองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและการลงทุน
"ความดียิ่งบอกเล่ายิ่งมีพลัง" ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ลงนาม MOU ร่วม TSPCA ขับเคลื่อน "การพัฒนาคุณธรรมด้านความเมตตากรุณาต่อสัตว์อย่างรับผิดชอบ" พร้อมมอบรางวัล THAILAND MORAL AWARDS
เอชเอสบีซี สนับสนุนงาน Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมผนึกกำลัง กรมศุลกากร และหน่วยงานพันธมิตรปราบ "ของเถื่อน" สินค้าแบรนด์ปลอมและของผิดกฎหมาย ตั้งแต่ต้นน้ำมูลค่าความเสียหายกว่า 55 ล้านบาท
ไชยชนก นำทัพ ดีอี จับมือ Google Cloud เสิร์ฟ Google AI Pro ให้นักศึกษาใช้ฟรี
ครั้งแรกในโลกดิวตี้ฟรี - King Power จับมือ Avolta ผนึกกำลังปลดล็อกสิทธิประโยชน์สมาชิกแบบไร้พรมแดน
ไทย โคโคนัท (COCOCO) ลุยเดินงานฟิลิปปินส์ เยือน PEZA หารือสิทธิประโยชน์โรงงานใหม่ "NOVOCOCONUT"
คาเธ่ย์ เปิดตัวแคมเปญ 'Slowly Explore, Fully Inspired' เรื่องราวของแรงบันดาลใจและการค้นพบที่เหนือความคาดหมาย ร่วมกับ West Kowloon Cultural District (WestK) ฮ่องกง
ลอรีอัล กรุ๊ป รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง พร้อมเปิดตัวความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญกับเคอริง (Kering)