กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยโครงการพัฒนาองค์กรสุขภาวะต้นแบบ : การสร้างเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตบุคลากรในวงงานรัฐสภา และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดกิจกรรม "สุขภาพดีตามวิถีของบุคลากรในวงงานรัฐสภา" ซึ่งโครงการฯ ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการส่งเสริมสุขภาวะในวงงานรัฐสภา โดยสร้างความตระหนักการมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนการปรับทัศนคติด้านสุขภาพ รวมถึงพัฒนาระบบเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมสุขภาพที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในกลุ่มเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข ทั้งนี้ บุคลากรในวงงานรัฐสภา มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,421 ราย (สำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฎร 2,212 ราย, สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 1,259 ราย) โดยกิจกรรมฯ ครั้งนี้ มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงานฯ ด้วย ณ อาคารรัฐสภา
                                                                                                                                        สสส. เน้นสร้างสุขภาวะที่ดี คลุม 4 มิติ
                                                            
                                                                                                                            
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า พันธกิจหลักของ สสส. ในฐานะองค์กรมีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนสุขภาวะที่ดี ทั้ง 4 ด้าน คือ ร่างกาย จิตใจ ปัญญา และ สังคม โดยเฉพาะภายในสถานที่ทำงาน ด้วยพบว่าคนส่วนใหญ่ต่างใช้เวลามากกว่า 50% ของแต่ละวันในสถานที่ทำงาน โดย สสส. มีแผนดำเนินงานเพื่อสร้างสุขภาวะองค์กรที่ดีในทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรประเภทต่าง ๆ ในระบบแรงงาน ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการส่งเสริมเพื่อการพัฒนาประเทศ โดย สสส. ได้สนับสนุนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดย สำนักบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภาให้ดำเนินการโครงการพัฒนาองค์กรสุขภาวะต้นแบบ : การสร้างเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตบุคลากรในวงงานรัฐสภา มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กิจกรรมครั้งนี้จะช่วยสร้างความตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและสร้างสุขภาวะองค์กรที่ดี รวมถึงป้องกันและลดความเสี่ยงการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ หรือ ภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน เป็นต้น ซึ่งจากรายงานผลตรวจสุขภาพประจำปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่า บุคลากรในวงงานรัฐสภา มีมากกว่า 1 ใน 3 เป็นโรคประจำตัวจากกลุ่มโรคดังกล่าว ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเร่งปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และด้านโภชนาการ โดยหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ลดความหวาน มัน เค็ม ใน แต่ละมื้อ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาสื่อด้านสุขภาพ เพื่อใช้เป็นคู่มือเพื่อนำไปปฏิบัติด้านสุขภาวะ และสอดล้องกับสถานการณ์อันเป็นปัญหาในองค์กร และการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน ที่ทาง สสส. ร่วมกับ กรมอนามัย และ กระทรวงสาธารณสุข ให้กับกลุ่มเป้าหมายหลัก บุคลากรในวงงานรัฐสภา จำนวนกว่า 3,000 ราย และกลุ่มเป้าหมายรอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ สื่อมวลชน อีกจำนวนหนึ่ง
ดึงผลสำรวจแก้ไขโรคและอาการเรื้อรังในบุคคลากร
นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กิจกรรมฯ ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สสส. ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ในระยะที่ 3 โดยจัดทำโครงการพัฒนาองค์กร สุขภาวะต้นแบบ: การสร้างเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานบุคลากร ในวงงานรัฐสภา ภายใต้สำนักบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภา มีเป้าหมายเพื่อให้บุคลากรมีสุขภาพที่ดี สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ เกิดผลผลิตที่มีประสิทธิภาพตามเป้าหมาย โดยได้ผลลัพธ์ คือ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นองค์กรสุขภาวะ
ทั้งนี้ สำนักบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภา ร่วมกับ สสส. จัดทำโครงการพัฒนาองค์กรสุขภาวะต้นแบบ โดยอิงจากผลการสำรวจข้อมูลสุขภาพบุคลากรในวงงานรัฐสภา พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาสุขภาพ มีสาเหตุหลัก จากพฤติกรรมสุขภาพขาดการใส่ใจดูแลควบคุมป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยเฉพาะการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย ทำให้มีภาวะน้ำหนักเกิน และเป็นโรคอ้วน สาเหตุสำคัญทำให้เกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันในหลอดเลือดสูง เป็นต้น ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ซึ่งหากได้รับความรู้เกี่ยวกับแนวทางการดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกาย และจิตใจที่ถูกต้องเหมาะสมจะเป็นการป้องกันกลุ่มเสี่ยงให้กลับไปสู่กลุ่มปกติได้
ส่งต่อสร้างสุขภาวะองค์กรยั่งยืน
ดร.ศิริเชษฐ์ สังขะมาน อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 หลังจากบรรลุวัตถุประสงค์และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ตามลำดับ ต่อการสร้างสุขภาวะองค์กรในบุคลากรในวงงานรัฐสภา โดยกิจกรรมการสร้างสุขภาวะองค์กร ในช่วงที่ผ่านมา สถาบันวิจัยสังคมฯ ได้นำหลักการใช้ความสุขพื้นฐานแปดประการ (Happy 8) เป็นเครื่องมือร่วมในการบริหารจัดการบุคคลากรฯ โดยเน้น การสร้างสุขทางกาย (Happy Body) และ การสร้างสุขทางใจ (Happy Heart) พร้อมสร้าง "นักสร้างสุของค์กร" (นสอ.) เพื่อเป็นต้นแบบบุคคลากรสร้างสุขให้กับผู้ร่วมงาน ปัจจุบันมี นสอ. จำนวนที่ 253 คน ที่พร้อมสานต่อการทำงานในระยะที่ 3
สำหรับเป้าหมายกิจกรรมฯ ต่อจากนี้ไป นอกเหนือจากการนำข้อมูลอ้างอิงจากผลสำรวจทางสุขภาพของบุคลากร ไม่ว่าเรื่องความเครียดในการทำงานสะสม พฤติกรรมการบริโภคไม่เหมาะสมทำให้นำไปสู่ภาวะการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs รวมถึงการดูแลป้องกันโรคแพร่ระบาดในปัจจุบันที่เร่งด่วน อย่างโควิด -19 แล้ว ยังจะมีการนำนักสร้างสุของค์กรที่ผ่านการอบรมไปแล้วกลับมาเสริมความรู้เพิ่มเติม เพื่อจะสามารถขยายผลต่อไปในเชิงนโยบายขององค์กร ไปพร้อมกันกับการทำงานผ่านกิจกรรมต้นแบบการสร้างสุขภาวะองค์กร โดยจะเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้การสร้างสุขทั้งกายและใจต่อไปยังคนรอบข้างต่อไปได้อย่างยั่งยืนและเป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักของ สสส. ในการรณรงค์ให้คนไทยมีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจ
                            
                            จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น "ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย" สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
                        
                            สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัว "Green Social Enterprise Catalog"
                        
                            ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชวนเปิดโลกเทรนด์และเทคโนโลยีสู่อนาคตที่ยั่งยืน
                        
                            ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดเปิดตัวหนังสือ "กูละเบื่อ" เขียนโดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา
                        
                            คณะจิตวิทยา จุฬาฯ ร่วมกับ TIMS รับสมัครองค์กรร่วมคัดเลือก สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต "Thai Mind Awards" รุ่นที่ 2
                        
                            ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดเสวนา "รัฐศาสตร์ ในโลกแห่งอำนาจและการเมือง"
                        
                            จุฬาฯ หนึ่งเดียวของไทย ASEAN Top 10 การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย THE World University Rankings 2026
                        
                            จุฬาฯ จับมือศาสตราจารย์ผู้สร้างคอร์สออนไลน์ระดับโลก จุดประกายการเรียนรู้และทักษะแห่งอนาคต สู่ความสำเร็จยั่งยืนในเศรษฐกิจ AI