กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) ตอกย้ำคุณภาพสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดได้ดี จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยในอัตรา 0.2540 บาทต่อหน่วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี หรือ KBSPIF โชว์ศักยภาพการดำเนินงานสร้างความมั่นคงด้านกระแสเงินสดที่ดี พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในอัตรา 0.2540 บาทต่อหน่วย หลังเงินรับตามสัญญาโอนผลประโยชน์จากการเข้าลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวลของ KPP ในไตรมาส 4/2563 เป็นไปตามประมาณการที่เสนอขายต่อนักลงทุน ขณะที่ผลการดำเนินงานปี64 เชื่อว่าทำได้ตามแผน และสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหน่วยอย่างต่อเนื่อง

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) ตอกย้ำคุณภาพสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดได้ดี จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยในอัตรา 0.2540 บาทต่อหน่วย

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการกองทุน KBSPIF เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) ในไตรมาส 4/2563 สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ดีกว่าข้อตกลงรับประกันผลประกอบกิจการไฟฟ้าขั้นต่ำที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน จากคุณภาพของสินทรัพย์ที่กองทุนเข้าไปลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลของบริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด หรือ KPP รวม 25.5 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นคู่สัญญาจำหน่ายไฟฟ้าระยะยาวให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 22 เมกะวัตต์ และบมจ.น้ำตาลครบุรี (KBS) อีก 3.5 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการลงทุนของบริษัทจัดการฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในอัตรา 0.2540 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินประมาณ 71.12 ล้านบาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยตามสัดส่วน (prorate) เมื่อเทียบกับราคาเสนอขายหน่วยลงทุน อยู่ที่ 10.10% ต่อปี โดยมีกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 1 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 17 มีนาคม 2564

"ด้วยจุดเด่นของกองทุน KBSPIF ที่มีการแบ่งกระแสรายได้ จากสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าระยะยาวที่ KPP จำหน่ายให้แก่ กฟผ. และ KBS ทำให้กระแสเงินสดมีความมั่นคง โดยกองทุนรับเงินตามสัญญาโอนผลประโยชน์จากการลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลและมีกำไรสุทธิเป็นที่น่าพอใจ ดังนั้น กองทุน KBSPIF จึงมีกำหนดจ่ายเงินปันผลรอบการดำเนินงานในไตรมาส 4/2563 ในอัตรา 0.2540 บาทต่อหน่วยให้แก่ผู้ถือหน่วยทุกคน และหากนับตั้งแต่ที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนจนถึงสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 กองทุน KBSPIF ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 0.499 บาทต่อหน่วย" นางชวินดา กล่าว

ขณะที่แนวโน้มการดำเนินงานกองทุน KBSPIF ในปี 2564 เชื่อมั่นว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจากการสร้างกระแสเงินสดจากการแบ่งกระแสรายได้จากสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าระยะยาว อีกทั้งกองทุน KBSPIF ไม่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโรงไฟฟ้า รวมถึงการปิดความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบผลิตกระแสไฟฟ้า จึงมั่นใจว่าการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้ในหนังสือชี้ชวน


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ. ไทยพาณิชย์ เปิดตัว SCBROYALTY ลงทุนสินทรัพย์ Royalties กองทุนแรกในเอเชียแปซิฟิก ชูโอกาสสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ไม่ผันผวนตามตลาดทุน เสนอขายครั้งแรก 15 ก.ย. 68 - 24 ก.ย. 68

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้สภาวะตลาดทุนทั่วโลกผันผวนและกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างหุ้นและตราสารหนี้ ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายความเสี่ยง

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (... บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ "LUXF" 0.64 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่ากว่า 125 ล้านบาท — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ...

BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพ... BBLAM เสนอขาย IPO 'BP17/25(AI)' วันที่ 11-15 ก.ย. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 17/25 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย' หรือ BP17/25(AI) ซึ่งเ...

บลจ.กสิกรไทย มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตช... บลจ.กสิกรไทย ชู K-VALUE ทางเลือกลงทุนรับปันผลสูง ชี้จังหวะลงทุนหุ้นไทยรับตลาด Upside ในระยะสั้น — บลจ.กสิกรไทย มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตชะลอลง คาด GDP ไ...