"เหมืองอัจฉริยะแห่งซานซี" ต้นแบบแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมหนัก สู่การใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

การทำงานในเหมืองนั้นทั้งร้อนและอันตราย ไม่ได้สะดวกสบายและทันสมัยเหมือนธุรกิจหรืออุตสาหกรรมรูปแบบอื่นๆ หลายคนจึงไม่เคยคิดว่ากระบวนการดำเนินงานและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานเหมืองจะได้รับการพัฒนาขึ้นได้อย่างไร แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีโครงข่ายโทรคมนาคมและการประมวลผลคอมพิวเตอร์มีความก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก ธุรกิจเหมืองจึงเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่เริ่มมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย เพิ่มอัตรากำลังการผลิต และที่สำคัญคือ พัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงาน และก้าวเข้าสู่ "การทำเหมืองอัจฉริยะ" อย่างเต็มตัว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโครงการความร่วมมือล่าสุดระหว่างหัวเว่ยกับรัฐมณฑลซานซี สาธารณรัฐประชาชนจีน จินเหนิง โฮลดิ้งกรุ๊ป(Jinneng Holding Group) และบริษัทซานซี คลาวด์ เอรา เทคโนโลยี (Shanxi Cloud Era Technology Co., Ltd.) เปิดศูนย์นวัตกรรมเหมืองอัจฉริยะ "ซานซีโมเดล" ขึ้นมา โดยมีความมุ่งหวังที่จะลดจำนวนพนักงานที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ที่เสี่ยงอันตราย ด้วยการนำเทคโนโลยี รวมถึงคลาวด์คอมพิวติ้ง มาเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน

"เหมืองอัจฉริยะแห่งซานซี" ต้นแบบแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมหนัก สู่การใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน

ศูนย์นวัตกรรมเหมืองอัจฉริยะนี้จะมีเจ้าหน้าที่ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านไอซีทีและด้านการทำเหมืองประจำอยู่ทั้งหมด 220 คน เพื่อช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการดูแลโครงข่ายข้อมูล การผลักดันระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีเซ็นเซอร์อัจฉริยะ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยี Big Data มาใช้วิเคราะห์ ในการให้ระบบทั้งหลายทำงานประสานกันจนสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ได้ "เหมืองอัจฉริยะแห่งซานซี" ต้นแบบแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมหนัก สู่การใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า "หัวเว่ยหวังที่จะนำเทคโนโลยีโทรคมนาคมมาผนวกเข้ากับธุรกิจเหมืองถ่านหิน เพื่อสร้างการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลให้กับอุตสาหกรรมดังกล่าว และสร้างรูปแบบธุรกิจที่มีความเสี่ยงโดยใช้คนน้อยลง มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดีขึ้น ในปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้จุดประกายด้านเทคโนโลยีให้กับเหมืองถ่านหินหนึ่งแห่ง โรงงานเหล็กหนึ่งแห่ง และท่าเรืออีกหนึ่งแห่ง แต่ในอีกสองสามปีจากนี้เราจะนำเทคโนโลยีมา "จุดประกาย" ให้เหมือง โรงงาน และท่าเรือ อีกนับร้อยแห่ง"

ศูนย์นวัตกรรมดังกล่าวสร้างขึ้นด้วยแนวคิด "ของทุกระบบ จากทุกฝ่าย เพื่อทุกคน" (of all, by all, and for all) ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่หัวเว่ยเลือกจะสร้างศูนย์นี้ขึ้นที่มณฑลซานซี เพราะมณฑลดังกล่าวเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ผลิตพลังงานปริมาณสูงสุดให้แก่ประเทศจีน และมีประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในการดำเนินธุรกิจเหมือง โดยหัวเว่ยเริ่มนำนวัตกรรมเข้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการที่ไม่ต้องใช้คน มีความอัจฉริยะ สะอาด และปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำ

เป้าหมายหลักของการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในธุรกิจเหมืองคือ การเพิ่มระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน และเนื่องจากการทำงานในเหมืองนั้นอันตรายและจำเป็นที่จะต้องส่งข้อมูลจำนวนมากขึ้นมาบนพื้นดินแบบเรียลไทม์ ส่งผลให้มีความต้องการการอัปโหลดข้อมูลที่สูงมาก หัวเว่ยจึงร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างเสาส่งสัญญาณขนาดเล็ก โดยเสาดังกล่าวสามารถทนความชื้น ฝุ่น หรือแม้กระทั่งการระเบิดได้ และมีอัตราส่วนการส่งและรับข้อมูลอยู่ที่ 3 ต่อ 1 ช่วยเพิ่มความแม่นยำขึ้นจาก 99.9% เป็น 99.99%

หัวเว่ยมุ่งหวังที่จะใช้ศูนย์นวัตกรรมเหมืองอัจฉริยะนี้ทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น กล้องที่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ เสาส่งสัญญาณความถี่ต่ำ หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงในการทำงาน โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเข้ามาสนับสนุนการทำงานของหุ่นยนต์และการทำงานแบบไม่ใช้คนเพื่อลดอันตราย โดยตั้งเป้าว่าศูนย์นวัตกรรมนี้จะสามารถลดการใช้คนในเหมืองที่มีการวางระบบอัจฉริยะให้ได้กว่า 60% และลดจำนวนพนักงานที่จะต้องลงไปในเหมืองในแต่ละกะให้ได้ไม่น้อยกว่า 20% นอกจากนี้ หัวเว่ยยังยึดมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเหมืองสามารถสร้างอีโคซิสเต็มที่มีความพร้อมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ รวมทั้งสร้างคุณประโยชน์ให้กับภาคสังคมควบคู่กันไปในอนาคตอีกด้วย


ข่าวโครงข่ายโทรคมนาคม+ภาคอุตสาหกรรมวันนี้

ITEL ผนึกกำลัง สทป. เปิดตัวบริษัทร่วมทุน "NDC" เสริมแกร่งเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ผู้นำด้านโครงข่ายโทรคมนาคมและดิจิทัลโซลูชันครบวงจร และ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ได้จัดพิธีลงนาม "สัญญาร่วมทุนจัดตั้งบริษัท" ณ ห้องราชเสนีพิทักษ์ ชั้น 10 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (แจ้งวัฒนะ) เพื่อร่วมก่อตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ "บริษัท เนชันแนล ดีเฟนส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (NATIONAL DEFENSE CORPORATION LTD.)" หรือ NDC โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) เป็นประธาน

ITEL โชว์ผลประกอบการ Q3/67 เพิ่มขึ้นจาก Q... ITEL ฟอร์มดี รายงานกำไร Q3/67 โตกว่า 50% ส่งไม้ต่อ Q4 รับงานฉ่ำ คาดทั้งปีโตทะลุเป้า — ITEL โชว์ผลประกอบการ Q3/67 เพิ่มขึ้นจาก Q2/67 ถึง 51% มั่นใจไตรมาสสุ...

บริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Tele... Telehouse จับมือ JasTel มุ่งสู่การเป็นผู้นำการให้บริการโครงข่ายในประเทศไทย — บริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Telehouse) หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการด...

นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ (ที่ 3 จากขวา) กรรมกา... ดี-แลนด์ จับมือ ทีโอที ลงนามใช้โครงข่ายโทรคมนาคมปลายทางร่วมกัน — นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ พร้อมนายเพิ่มเกียรติ โพธิเพียรทอง (ที...

บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ C... CAT จับมือ SYMPHONY ร่วมให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล — บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ลงนามบันทึกข้...

ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดก... CAT จับมือ SYMPHONY ร่วมให้บริการโทรคมนาคม รองรับการใช้งานในไทยและอาเซียนสู่ยุคดิจิทัล — ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและบ...