BEAUTY เผยแผนปี 2564 ตั้งเป้าเทิร์นอะราวน์ รายได้เติบโต 5% (Conservative Growth) รักษาอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 5%

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

BEAUTY เผยแผนปี 2564 ตั้งเป้าเทิร์นอะราวน์ รายได้เติบโต 5% (Conservative Growth)รักษาอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 5% ชู 3 กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ Re-structure, Re-new, Re-model ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการครั้งใหญ่ มุ่งเน้นขยายช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ พร้อมลดต้นทุนการผลิต การขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารลงอย่างมีนัยสำคัญ พัฒนาตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง จับมือพันธมิตรจีนพัฒนาสินค้าใหม่ มาร์จิ้นสูง เร่งผลักดันยอดขายเต็มสูบ

BEAUTY เผยแผนปี 2564 ตั้งเป้าเทิร์นอะราวน์ รายได้เติบโต 5% (Conservative Growth) รักษาอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 5%

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทมีการปรับกลยุทธ์และแผนธุรกิจตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการครั้งใหญ่ ลดต้นทุนการผลิต การขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลงอย่างมีนัยยะสำคัญ รวมทั้งลดขนาดองค์กรให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจและสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ยังได้ปรับรูปแบบช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อเป็นฐานการขยายตลาดต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2564 บริษัทวางเป้าหมายผลประกอบการกลับมาทำกำไร มีฐานะทางการเงินและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง พร้อมพัฒนาธุรกิจให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้รวมปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือตั้งเป้าเติบโต 5% ( Conservative Growth ) และรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 5% โดยบริษัทได้กำหนด 3 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย

1. ปรับโครงสร้างบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ (Re-structure) : ปรับโครงสร้างบริหารจัดการภายในองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจทั้งระบบ พร้อมลดต้นทุนการผลิต การขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในระยะยาว

2. มุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง (Re-new): ปรับกลยุทธ์ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง และมีโอกาสในการเติบโต ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะการเปิดสาขาร้านค้าปลีก ดังนี้

  • ช่องทางสินค้าอุปโภค (Consumer Product) กลุ่มสินค้า Fast Moving Consumer Goods ( FMCG )เจาะกลุ่มผู้ค้าส่งเครื่องสำอางรายใหญ่ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ( Local Distributor ) โดยในปีนี้มีแผนแต่งตั้ง Distributor รายใหญ่ 8 รายที่มีเครือข่ายครอบคลุมกว้างขวาง พร้อมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าประจำวันและสุขภาพ
  • ช่องทางร้านค้าปลีก (Retails) ปิดสาขาที่ไม่มีศักยภาพในการเติบโตและมีค่าใช้จ่ายสูง เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์และช่องทางการจำหน่ายอื่นๆที่มีประสิทธิภาพเข้ามาทดแทน อาทิเช่น 1. Retail Online เปลี่ยนพนักงานขายมาขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ , 2. Retail Delivery ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าผ่าน Grab mart , Food panda และมีแผนส่งสินค้าผ่าน Line Man , 3. Beauty Affiliate เปลี่ยนลูกค้ามาช่วยขาย เป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ลดภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต เพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในวงกว้างและไม่มีข้อจำกัด ซึ่งบริษัทเชื่อว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในอนาคต
  • ช่องทางอีคอมเมิร์ซ( E-Commerce) เพิ่มความสามารถการนำเสนอสินค้า โดยสามารถซื้อขายผ่านเว็บไซต์ของบริษัทและระบบแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ ( Market Place Platform ) ชั้นนำต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งพัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างระบบอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพ วางเป้าหมายรุกตลาดออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์ O2O และพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายในปี 2564 ที่ 100 ล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วน 12.5 % ของรายได้
  • ขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุก บริษัทปรับเปลี่ยนช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศจาก Shop Model ไปสู่ Distributor Channel เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขยายตลาดทั้ง Offline และ Online โดยมุ่งเน้นรุกตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อเนื่อง

อีกทั้งบริษัทมีแผนพัฒนาโมเดลการขายในต่างประเทศใหม่ "Product License" เพื่อความสะดวกในการพัฒนาสินค้าใหม่และการบริหารจัดการตลาดในประเทศจีน เพราะเล็งเห็นว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่มีโอกาสทางธุรกิจสูง โดยร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนพัฒนาสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูง จำนวน 10 items โดยในปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว 5 items และในปีนี้จะออกสินค้าเพิ่มอีก 5 items ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ตามกลยุทธ์ Re-newเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากช่องทางจำหน่ายร้านค้าทั่วไป ( General Trade )เช่น คอนวีเนียนสโตร์ โมเดิร์นเทรดต่างๆ และช่องทางออนไลน์ที่เป็นอีคอมเมิรซ์ เพิ่มประสิทธิภาพการขายนอกจากนั้นได้ขยายจำนวนสินค้าใหม่ๆเข้าไปจำหน่ายในต่างประเทศผ่านช่องทาง Cross Border E-Commerce อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2563 บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายแล้วจำนวน 10 Platforms และในปีนี้มีแผนเจรจาเพิ่มจำนวน Platform ต่อเนื่อง เช่น Aikucun Platform และ Mogujia Platform.

3. พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ (Re-model) : อยู่ในช่วงของการปรับปรุงและพัฒนาโมเดลการขายใหม่ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงกันช่องทางการขายและสินค้าระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ Direct to customer (D2C) หรือ call center บริษัทเริ่มจัดตั้งทีม call center ซึ่งจะเป็นผู้นำเสนอขายสินค้าและให้คำปรึกษา ความรู้เกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและความงามควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้บริษัทเพิ่มโมเดลการขายใหม่ คือ Affiliate Program เป็นโปรแกรมที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนจากลูกค้าเป็นคู่ค้าให้บุคคลทั่วไปที่สนใจนำสินค้าของบริษัทไปขายในช่องทาง Social Media ของตนเองได้ โดยไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องยุ่งยากส่งสินค้าเอง อยู่ที่ไหนก็ขายสินค้าได้ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มรายได้สำหรับคนทั่วไปที่มีงานประจำทำอยู่แล้วแต่ต้องการหารายได้เสริมและเป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มรายได้สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 คาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มได้ภายในไตรมาส 1 2564

สำหรับภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางปี 2564 คาดว่ายังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความงาม สุขภาพและผิวพรรณต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ

"ธุรกิจ BEAUTY ยังมีโอกาสในการเติบโตจากการปรับกลยุทธ์ในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง และการสร้างช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ การได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากตัวแทนจำหน่ายประเทศจีนและประเทศอื่นๆอย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณที่ดี สินค้า BEAUTY ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคจีนและประเทศเขตเอเซีย"นายแพทย์สุวิน กล่าว


ข่าวการบริหารจัดการ+สุวิน ไกรภูเบศวันนี้

สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ร่วม วช. ส่งมอบนวัตกรรมโดรนกู้ภัย เสริมภารกิจช่วยเหลือประชาชน จ.น่าน

สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ส่งมอบ "นวัตกรรมโดรนกู้ภัยและระบบปฏิบัติการ" แก่ศูนย์การจัดการภัยพิบัติเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อำเภอปัว จังหวัดน่าน เพื่อเสริมขีดความสามารถในการบริหารจัดการและเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยอย่างรวดเร็วและแม่นยำ นวัตกรรมโดรนกู้ภัยนี้ถูกออกแบบให้สามารถบินสำรวจพื้นที่ที่เข้าถึงยาก ช่วยค้นหาผู้ประสบภัย และสนับสนุนการวางแผนการช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ โดยพัฒนาภายใต้ความ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมก... ผู้บริหารบางจากฯ ร่วมแบ่งปันมุมมอง จากตลาดคาร์บอนสู่เวทีวิศวกรรม — เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสาร...

บริหารต้นทุน LPG ดีเยี่ยม-รับรู้รายได้โซล... WP สัญญาณดี! ธุรกิจครึ่งปีหลังแนวโน้มโตสวย — บริหารต้นทุน LPG ดีเยี่ยม-รับรู้รายได้โซลาร์รูฟท็อป เดินหน้าสร้าง New S-Curve ดันผลงานเติบโตยั่งยืน บมจ...

สทนช. ลุยพื้นที่เสี่ยงภาคกลาง ตรวจความพร้อมระบบชลประทานเจ้าพระยาตอนล่าง ติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 เตรียมแผนรับมือน้ำหลากจากภาคเหนือ

สทนช. เดินหน้าลงพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมประชุมหารือร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการน้ำและติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ...

นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักส... กทม. เร่งแก้ปัญหาขยะตกค้าง เกลี่ยอัตรากำลัง-ของบฯ จ้างเอกชนเก็บขน — นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวถึงแนวทางการบริหา...