เพิ่มประสิทธิภาพให้ "บิ๊กดาต้า" ด้วยฐานข้อมูลขนาดเล็กและกว้าง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

โดย มร.จิม ฮาเร่ รองประธานฝ่ายวิเคราะห์การ์ทเนอร์ อิงค์

เพิ่มประสิทธิภาพให้ "บิ๊กดาต้า" ด้วยฐานข้อมูลขนาดเล็กและกว้าง

เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการหยุดชะงัก อาทิ การระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ข้อมูลในอดีตที่สะท้อนถึงสถานะขององค์กรต่าง ๆ ล้าสมัยอย่างรวดเร็ว เนื่องจากองค์กรธุรกิจต้องเผชิญกับข้อจำกัดต่าง ๆ ในการใช้บิ๊กดาต้าที่เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างระบบวิเคราะห์ข้อมูลและเอไอ ตามแนวทางใหม่ที่เรียกว่า 'ชุดข้อมูลขนาดเล็ก' และ 'ชุดข้อมูลแบบกว้าง' เพิ่มประสิทธิภาพให้ "บิ๊กดาต้า" ด้วยฐานข้อมูลขนาดเล็กและกว้าง

ในยุคของบิ๊กดาต้านั้นประสบความสำเร็จในเรื่องของการจัดเก็บและจัดการข้อมูล แต่ยังไม่สามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจได้รับประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว แต่ "ชุดข้อมูลขนาดเล็กและกว้าง" นั้นสามารถตอบโจทย์ในจุดนี้ได้

แนวทางการใช้ "ชุดข้อมูลแบบกว้าง" ช่วยให้องค์กรวิเคราะห์และทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นจากแหล่งข้อมูลขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หรือแหล่งข้อมูลแบบไม่มีโครงสร้างและมีโครงสร้างได้ ในขณะที่แนวทางการใช้ชุดข้อมูลขนาดเล็กนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคนิคในการวิเคราะห์ที่ต้องการข้อมูลน้อยลงแต่ยังให้ประโยชน์ในเชิงลึก

โดยทั้งสองแนวทางช่วยให้การวิเคราะห์และใช้ระบบเอไอมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการพึ่งพาข้อมูลขนาดจำนวนมหาศาลให้แก่องค์กรและยังช่วยให้รู้เท่าทันสถานการณ์แบบเบ็ดเสร็จ เรียกว่ามองได้รอบด้านแบบ 360 องศา โดยองค์กรสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีขึ้นในบริบทที่ซับซ้อนอันเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์การหยุดชะงักได้ เพื่อขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วและตอบสนองความต้องการของลูกค้า

การ์ทเนอร์คาดว่าภายในปี 2568 องค์กรต่าง ๆ ประมาณ 70% จะถูกบังคับให้โฟกัสกับการใช้ชุดข้อมูลขนาดเล็กและกว้างแทนฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้วิเคราะห์บริบทของข้อมูลได้หลากหลายขึ้นและทำให้ระบบเอไอใช้ข้อมูลน้อยลง

ผู้บริหารด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ (D&A) ต้องมองหากลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรใช้ชุดข้อมูลขนาดเล็กและกว้าง รวมถึงข้อมูลสังเคราะห์เพื่อขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้วยการใช้รูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มขึ้นด้วยระบบเอไอ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) ที่จะช่วยให้สามารถจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ จัดการกับข้อมูลการฝึกอบรมที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอาศัยข้อมูลหลากหลายและกว้างกว่าเดิม

ทำไมข้อมูลขนาดเล็กและกว้างจึงสำคัญ?

แน่นอนว่าการวิเคราะห์และใช้ระบบเอไอนั้นต้องทำงานร่วมกับข้อมูลที่สดใหม่และในขนาดของข้อมูลที่น้อยกว่าเดิม นอกจากนี้การเก็บรวบรวมข้อมูลในอดีตที่เพียงพอหรือติดป้ายกำกับไว้ใช้เฉพาะเพื่อใช้วิเคราะห์และสร้างระบบเอไอยังถือเป็นความท้าทายของหลาย ๆ องค์กรอยู่ในวันนี้

การจัดเรียงข้อมูล คุณภาพข้อมูล การปกป้องความเป็นส่วนตัวและอคติถือเป็นความท้าทายทั่วไป ถึงแม้จะมีฐานข้อมูลบิ๊กดาต้า แต่ค่าใช้จ่าย เวลาที่เสียไปและพลังงานในการใช้ระบบ ML ที่มีการควบคุมดูแลแบบเดิมก็ยังคงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ นอกจากนี้การตัดสินใจของมนุษย์และระบบเอไอนั้นจะมีความซับซ้อนและความต้องการมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลหลากหลายเพื่อให้รับรู้สถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วน

เมื่อนำทุกอย่างมารวมเข้าด้วยกันนั่นหมายความว่าเราต้องการเทคนิคการวิเคราะห์ที่เพิ่มขึ้นถึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลที่มีอยู่เดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะลดปริมาณหรือเพิ่มปริมาณข้อมูลที่ต้องการใช้หรือดึงประโยชน์จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างมาใช้เพิ่ม

มีผลกระทบอะไรบ้าง?

แนวทางการใช้ "ชุดข้อมูลแบบกว้าง" ใช้หลักการวิเคราะห์ในรูปแบบสมการ X โดยที่ X หมายถึงการค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างแหล่งข้อมูล ตลอดจนหมายถึงรูปแบบข้อมูลที่หลากหลาย ซึ่งรูปแบบข้อมูลเหล่านี้มีตั้งแต่ ข้อมูลในรูปแบบของตาราง ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เสียงที่ได้ยิน เสียงพูด อุณหภูมิหรือแม้แต่กลิ่นและการสั่นสะเทือน โดยมาจากแหล่งข้อมูลทั้งภายในและภายนอกที่มีความหลากหลาย อาทิ ข้อมูลบนมาร์เก็ตเพลส โบรกเกอร์ โซเชียลมีเดีย เซ็นเซอร์ไอโอที และฝาแฝดดิจิทัล (Digital Twins)

แนวทางการใช้ "ชุดข้อมูลขนาดเล็ก" คือการสร้างโมเดลเรียนรู้โดยใช้ข้อมูลจำนวนน้อย เช่น เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลอนุกรมเวลา แทนที่จะใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงลึกที่อาศัยข้อมูลจำนวนมากในลักษณะรูปแบบเดียวใช้เหมือนกันทั้งหมด ซึ่งยังมีเทคนิคการสร้างโมเดลเรียนรู้อื่น ๆ ได้แก่ เทคนิค Few-Shot Learning เทคนิค Synthetic Data หรือ เทคนิค Self-Supervised Learning โดยเรายังสามารถใช้ข้อมูลน้อยลงได้อีกจากการใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การทำงานร่วมกันหรือการรวมกลุ่ม การปรับตัว การเสริมกำลัง และการถ่ายโอนการเรียนรู้

สำหรับการพัฒนานวัตกรรมด้วยการใช้ "ชุดข้อมูลขนาดเล็กและกว้าง" ยังรวมถึงการใช้คาดการณ์ความต้องการสินค้าในร้านค้าปลีก เรียนรู้พฤติกรรมและอารมณ์แบบเรียลไทม์กับการบริการลูกค้าเพื่อให้แบรนด์ได้เรียนรู้ ศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าโดยละเอียดมากขึ้นในแบบ Hyper-Personalisation และช่วยการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

ด้านอื่น ๆ ได้แก่การรักษาความปลอดภัยทางกายภาพหรือการตรวจจับการฉ้อโกงและระบบอัตโนมัติที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น หุ่นยนต์ ซึ่งมีการเรียนรู้การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของห้วงเวลาและพื้นที่เหตุการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา

เริ่มต้นอย่างไรดี?

สำรวจแนวทางการปรับใช้ชุดข้อมูลขนาดเล็กและกว้างเพื่อลดอุปสรรคในการเข้าสู่โหมดการวิเคราะห์ขั้นสูงและเอไออันเนื่องมาจากการขาดข้อมูลที่ควรรับรู้จริง ๆ แทนที่จะอาศัยการเรียนรู้เชิงลึกที่พึ่งพาการใช้ข้อมูลมากเกินไป

เพิ่มเครื่องมือทางเทคนิคต่าง ๆ ให้กับทีม D&A เพื่อสร้างบริบทของข้อมูลที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นสำหรับใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจที่แม่นยำ โดยใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลภายนอกที่มีเพิ่มมากขึ้นผ่านการแบ่งปันข้อมูลและมาร์เก็ตเพลส

สุดท้าย

เพิ่มคุณค่าและปรับปรุงพลังการทำนายของข้อมูลด้วยการผสมผสานแหล่งข้อมูลทั้งที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างให้มีมิติมากขึ้น

มร. จิม ฮาเร่ รองประธานฝ่ายวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ อิงค์ มีความเชี่ยวชาญในสาขาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิทยาศาสตร์ข้อมูล หลักการวิเคราะห์และการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในการทำธุรกิจ (BI) โดยจิมได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ Small & Wide Data ในงาน Gartner Data & Analytics Summit 2021 in APAC ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8-9 มิถุนายน ที่ผ่านมา


ข่าวระบบวิเคราะห์ข้อมูล+การ์ทเนอร์ อิงค์วันนี้

รมย์รวินท์คลินิก ทุ่มทุนสร้างระบบ CRM มัดใจลูกค้า หวังขยายฐาน ดันยอดไตรมาสสุดท้ายปี 67

รมย์รวินท์คลินิก (Romrawin Clinic) พลิกโฉมบริการ ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เดินหน้าลงทุนระบบ CRM และ Big Data หวังมัดใจลูกค้าเก่า ดึงลูกค้าใหม่ ตั้งเป้าขยายฐาน เพิ่มยอดขายในไตรมาสสุดท้ายปี 2567 คุณหมอฐา แพทย์หญิงฐานิสร ธรรมลิขิตกุล และมาดามจอย ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน สองผู้บริหารหัวเรือใหญ่แห่งรมย์รวินท์คลินิก ประกาศทุ่มงบประมาณพัฒนาระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ CRM (Customer Relationship Management) และระบบวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า หรือ Big Data ภายใต้ชื่อ RAWIN CLUB โดยมีเป้าหมายสำคัญ

บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (... SAS ประกาศความร่วมมือกับ เมโทรซิสเต็มส์ รุกตลาดระบบวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับกลุ่มธุรกิจในไทย — บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC ผู้นำใ...

หัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทยโชว์ศักยภ... หัวเว่ยผนึก ม.นเรศวรจัด Tech Day โชว์ศักยภาพเทคโนฯ กระตุ้นตลาดการศึกษายกเครื่องดิจิทัล — หัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทยโชว์ศักยภาพเทคโนโลยี ประเดิมจัด H...