กองทุนบัวหลวงแนะนำผู้ลงทุนที่ชอบสไตล์ลงทุนแบบปล่อยหมัดเก็บแต้ม เลือก B-ACTIVE กองทุนผสมยืดหยุ่นสูง จับจังหวะลงทุนหุ้นได้ 0-100%

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ผู้ลงทุนมีกระแสความต้องการลงทุนในกองทุนทริกเกอร์ที่กองทุนบัวหลวงเสนอขายอย่างมาก โดยเฉพาะ 2 กองทุนล่าสุดที่เสนอขายไป ได้รับความสนใจจองซื้อหน่วยลงทุนจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้ขนาดกองทุนที่ออกเสนอขายเต็มจำนวนที่กำหนดในหนังสือชี้ชวนตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกของการเปิดขายในวันแรก กองทุนบัวหลวงจึงขอแนะนำกองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ (B-ACTIVE) เป็นกองทุนรวมผสมที่มีสไตล์การลงทุนคล้ายกองทริกเกอร์ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์การจับจังหวะลงทุน ทยอยสะสมกำไร เหมือนนักมวยที่ปล่อยหมัดเก็บสะสมแต้มไปเรื่อยๆ

กองทุนบัวหลวงแนะนำผู้ลงทุนที่ชอบสไตล์ลงทุนแบบปล่อยหมัดเก็บแต้ม เลือก B-ACTIVE กองทุนผสมยืดหยุ่นสูง จับจังหวะลงทุนหุ้นได้ 0-100%

สำหรับ กองทุน B-ACTIVE มีความแตกต่างจากกองทริกเกอร์เรื่องเดียว คือ เป็นกองทุนเปิดทั่วไปที่สามารถซื้อหรือขายได้ทุกวันทำการ ทำให้นักลงทุนเข้าลงทุนได้ตามเวลาที่ต้องการ ลงทุนเพิ่มเติมได้เรื่อยๆ รวมทั้งขายออกได้ตามช่วงเวลาที่ต้องการ และกลับเข้ามาลงทุนใหม่อีกครั้งได้เช่นกัน ขณะที่กองทุนทริกเกอร์จะเป็นกองทุนปิดที่ซื้อได้ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยที่มีการกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนและระยะเวลาลงทุนไว้ชัดเจน ทำให้นักลงทุนเข้าใจว่า มีกองแบบเดียวที่เน้นเรื่องการจับจังหวะเวลาในการลงทุน (Timing) เป็นสำคัญ แต่จริงๆ แล้ว ยังมีกองทุนอีกประเภทที่มีนโยบายการลงทุนที่เน้นการแสวงหาผลตอบแทนจากราคาหุ้นในระยะสั้น หรือให้ความสำคัญกับเรื่อง Timing

"จุดเด่นของ B-ACTIVE คือ มีความยืดหยุ่นลงทุนในหุ้นไทยได้ 0-100% ในช่วงที่เห็นว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มดี เศรษฐกิจเป็นขาขึ้น ผู้จัดการกองทุนสามารถใส่เกียร์เดินหน้าลงทุนในหุ้นได้ถึง 100% ในช่วงที่เห็นว่า ตลาดเริ่มมีทิศทางไม่ดี เศรษฐกิจเผชิญผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อมมาก ผู้จัดการกองทุนก็ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดขาลงด้วยการถือเงินสดได้สูงสุด 100% โดยเมื่อถึงจังหวะที่ผู้จัดการกองทุนมองว่า ตลาดหุ้นปรับฐานใกล้เสร็จแล้ว ก็จะกลับมา Active ลงทุนเชิงรุกในการเลือกซื้อหุ้นได้เต็มที่ เพื่อคว้าโอกาสรับผลตอบแทน ทั้งนี้ กองทุน B-ACTIVE ได้วางกรอบไว้ชัดเจนว่า จุดไหนที่ควรขายทำกำไรและตัดขายขาดทุน ซึ่งจากจุดเด่นนี้ทำให้ในช่วงปีที่ผ่านมา ที่โควิดเริ่มแพร่ระบาด ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาก แต่กองทุนนี้ได้ปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโดยรวม" นายสันติ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวแกว่งตัว หรือ Sideways มากกว่าที่จะมีทิศทางขาขึ้นหรือขาลงชัดเจน เพราะแม้ว่า ตลาดจะยังมีสภาพคล่องอยู่มาก แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้โอกาสในการเปิดประเทศล่าช้า ส่งผลให้ปัจจัยเรื่องการจัดหาและความพอเพียงของวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดทิศทางตลาด รวมถึงยังคงมีปัจจัยไม่แน่นอน ทั้งภายในและจากต่างประเทศที่อาจเข้ามากระทบกับตลาดหุ้นได้อยู่

กองทุนบัวหลวงมองว่า แม้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนจะช้ากว่าที่กำหนด แต่สุดท้าย การทยอยฉีดวัคซีนในวงที่กว้างขึ้น จะทำให้เศรษฐกิจค่อยๆ กลับมาดีขึ้น จึงเห็นโอกาสการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับอานิสงส์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับแผนการเปิดประเทศในอนาคต เช่น การแพทย์ การท่องเที่ยว การเดินทาง ร้านอาหาร และค้าปลีก โดยมองว่าสามารถจับจังหวะลงทุนในกลุ่มเหล่านี้ในช่วงตลาดปรับฐานได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกลงทุนในหุ้นไทยยังต้องเน้นคัดสรรหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและได้ประโยชน์จากปัจจัยแวดล้อม ที่มีการเติบโตที่ดีด้วยตัวเอง มากกว่าลงทุนตามดัชนี

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน B-ACTIVE สอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและคู่มือการลงทุนได้ที่กองทุนบัวหลวง โทร. 02-674-6488 กด 8 หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน

ทั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่เคยลงทุนกับกองทุนบัวหลวงมาก่อน สามารถใช้บริการเปิดบัญชีกองทุนรวมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพได้ บริการดังกล่าวใช้ได้สำหรับผู้ลงทุนที่ Update หรือ Download โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ Version 3.9.1 ขึ้นไปเท่านั้น ส่วนผู้ลงทุนที่มีบัญชีกองทุนรวมของกองทุนบัวหลวงกับธนาคารกรุงเทพอยู่แล้ว สะดวกสบายด้วยการซื้อหน่วยลงทุนผ่านบริการ Bangkok Bank Mobile Banking ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

โครงการไฟ-ฟ้า โดย มูลนิธิทีทีบี รับมอบเงินสนับสนุนจาก บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เพื่อจุดประกายเยาวชนให้พัฒนาศักยภาพ และส่งต่อการให้คืนสู่สังคม

นายปิติ ตัณฑเกษม (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานกรรมการ มูลนิธิทีทีบี และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต รับมอบเงินสนับสนุนมูลค่า 354,038.87 บาท จากนางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อสนับสนุนโครงการไฟ-ฟ้า โดย มูลนิธิทีทีบี โครงการแห่งการ "ให้" ที่ยั่งยืน เพื่อจุดประกายเยาวชนให้พัฒนาศักยภาพของตนเอง พร้อมต่อยอดสู่กิจกรรมที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ ส่งต่อการให้กลับคืนสู่สังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งเงินสนับสนุนดังกล่าวมาจาก

BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพ... BBLAM เสนอขาย IPO 'BP19/25(AI)' วันที่ 9-14 ต.ค. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 19/25 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย' หรือ BP19/25(AI) ซึ่งเป...

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริ... KTAM แนะนักลงทุนวางแผนภาษี คัดกองเด่น RMF - ThaiESG เสิร์ฟพร้อมโปรโมชันพิเศษ — นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย ...

บลจ.กสิกรไทย ชูกองทุน K-VALUE เป็นตัวเลือ... บลจ.กสิกรไทย ชี้ทางรอดกองทุนหุ้นไทย ชวนปรับพอร์ตลงทุนรับปันผลสูงผ่าน K-VALUE — บลจ.กสิกรไทย ชูกองทุน K-VALUE เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพในการบริหารพอร์ตอย่าง...

ลงทุนในตราสารหนี้ภัยพิบัติ (Cat Bond) ทาง... บลจ.เกียรตินาคินภัทร เปิดตัว 2 กองทุนใหม่ KKP CAT-UI และ KKP CAT-USD-UI — ลงทุนในตราสารหนี้ภัยพิบัติ (Cat Bond) ทางเลือกกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน IPO ...

BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพ... BBLAM เสนอขาย IPO 'BP18/25(AI)' วันที่ 26 ก.ย. - 2 ต.ค. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 18/25 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย' หรือ BP18/25(AI)...