TPIPL ผลงานแกร่ง กวาดรายได้ครึ่งปีแรกกว่า 20,000 ล้านบาท ดันกำไร 3,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.89% ตอกย้ำศักยภาพผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ในไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บมจ. ทีพีไอ โพลีน หรือ TPIPL รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 มีรายได้รวม 10,939 ล้านบาท และมีกำไร 2,145 ล้านบาท ดันผลงาน 6 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้รวม 20,614 ล้านบาท และกำไร 3,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เดินหน้าบริหารจัดการผลักดันทุกกลุ่มธุรกิจให้เติบโตแม้เผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตอกย้ำศักยภาพผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ในไทย ปรับปรุงเครื่องจักรโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงโดยเป็นโรงงานปูนซีเมนต์แห่งแรกในไทยที่สามารถนำเชื้อเพลิงขยะมาใช้แทนถ่านหิน ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน

TPIPL ผลงานแกร่ง กวาดรายได้ครึ่งปีแรกกว่า 20,000 ล้านบาท ดันกำไร 3,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.89% ตอกย้ำศักยภาพผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ในไทย

ในไตรมาส 2/2564 บริษัทบันทึกรายได้รวม 10,939 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.28% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 8,594 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขาย 10,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.36% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 7,977 ล้านบาท ขณะที่กำไรสำหรับงวดไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 2,145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.03% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 1,011 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 20,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.22% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 18,206 ล้านบาท และมีกำไรในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 เท่ากับ 3,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1,703 ล้านบาท

ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ด้วยลักษณะทางธุรกิจที่หลากหลายซึ่งประกอบด้วยธุรกิจสินค้าวัสดุก่อสร้าง ปิโตรเคมี พลังงาน และเกษตร ส่งผลให้กลุ่ม TPIPL สามารถทำกำไร และเพิ่มกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ระบบ ESG และ BCG ตามมาตรฐานนโยบายใหม่ของประเทศที่พัฒนาแล้ว (New Paradigm Shift) ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ โรงไฟฟ้า และโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปรับปรุงเครื่องจักรการผลิตปูนซิเมนต์ให้สามารถนำเชื้อเพลิงขยะมาใช้ทดแทนถ่านหินได้มากที่สุดในโลกโดยไม่มีกากศูนย์เสีย (Zero Waste) จึงสามารถลดต้นทุนการผลิตปูนซีเมนต์ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ภายใต้แนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Bio-Circular-Green Economy-BCG) ทั้งนี้ TPIPL ถือว่าเป็นโรงปูนซีเมนต์แห่งแรกของประเทศไทย ที่สามารถนำเชื้อเพลิงขยะมาใช้แทนเชื้อเพลิงถ่านหินในทุกสายการผลิตปูนซีเมนต์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2565 นี้ โดยจะสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 6.5 ล้านตัน CO2 เทียบเท่าต่อปี ทั้งนี้การปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อลด Heat consumption ลดค่าซ่อมแซม ใช้เชื้อเพลิงขยะทดแทนถ่านหินบางส่วน คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนการผลิตปูนซีเมนต์ ขณะที่ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายเชื้อเพลิงขยะ RDF แก่ TPIPL ซึ่งถือว่าเป็น win-win situation สำหรับทั้งสองบริษัท โดย TPIPP ก็สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 8.5 ล้านตัน CO2 เทียบเท่าต่อปี

สำหรับภาพรวมธุรกิจปูนซีเมนต์ในปี 2564 คาดว่าจะมีความต้องการใช้ภายในประเทศใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 33-34 ล้านตัน โดยมีปัจจัยมาการลงทุนก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ระบบขนส่งมวลชน และระบบโครงข่ายการคมนาคมในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคตามนโนบายของภาครัฐ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ โครงการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา ฯลฯ ขณะที่ตลาดส่งออกยังเติบโตได้ดี โดยบริษัทมีการส่งออกไปยัง จีน บังคลาเทศ และภูมิภาคอาเซียน

ขณะที่ธุรกิจเม็ดพลาสติก ปัจจุบันมีกำลังผลิต 158,000 ตันต่อปี โดยบริษัทถือเป็นผู้ผลิตในประเทศเพียงรายเดียว ที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติก EVA คุณภาพสูง โดยที่ผ่านมาได้ลงทุนและพัฒนาเครื่องจักรด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง จึงสามารถผลิต EVA เกรดพิเศษเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการผลิตและได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้การดูแลพนักงานอย่างดีให้พ้นจากโรคโควิด-19 เพื่อความสุขกายสบายใจของพนักงานและชุมชนรอบตัว และของประเทศด้วยผลิตภัณฑ์ยารักษาสุขภาพ Health Care Products เช่น BioKnox น้ำยาบ้วนปาก และแอลกอฮอลล์เจล ทำลายเชื้อไวรัส การตรวจโรคโควิด-19 และการฉีดวัคซีนให้พนักงานทุกคน เพื่อสังคมที่มีความสุขตามระบบ ESG ที่ดีของโลก


ข่าวบริหารจัดการ+ทีพีไอ โพลีนวันนี้

ASIMAR ขยับมาตรฐานความยั่งยืน สู่ SET ESG Ratings ระดับ "BBB" ประจำปี 2568

บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนจาก SET ESG Ratings ในระดับ "BBB" ประจำปี 2568 ซึ่งจัดทำโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การประเมินดังกล่าวสะท้อนถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการบูรณาการมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social and Governance: ESG) เข้ากับกระบวนการบริหารจัดการและการดำเนินงานขององค์กร ตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด ผลการประเมินดังกล่าว แสดงให้

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรื... PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568 — บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้รับผลการประเมินความยั่งยืน SET ESG R...

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาช... TTA คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2568 ระดับสูงสุด "AAA" — บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ได้รับการประเมินให้เป็นหนึ่งใน หุ้นยั...

ไทยประกันชีวิต เดินหน้ายกระดับนวัตกรรมบริ... ไทยประกันชีวิต ชู TLI แอปพลิเคชัน ตอบโจทย์บริการด้านสุขภาพ-การเงินแบบครบวงจร — ไทยประกันชีวิต เดินหน้ายกระดับนวัตกรรมบริการตามเจตนารมณ์การเป็นทุกคำตอบของช...

นางสาวภัทรลดา สง่าแสง ประธานเจ้าหน้าที่บร... ปตท. คว้า 6 รางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2025 สะท้อนบทบาทองค์กรแห่งความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน — นางสาวภัทรลดา สง่าแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร...

บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR ผ... SKR คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ระดับ "A" ตอกย้ำการบริหารจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืน — บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR ผู้ประกอบธุรก...