KEX ฝ่าโควิด ไตรมาส 2/2564 กำไรพุ่ง 336 ล้านบาท หลังการบริหารจัดการต้นทุน-เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเติบโตกว่า 7.3% ชี้อานิสงค์จากล็อกดาวน์ - WFH ดันยอดขนส่งพัสดุ "นิวไฮ" ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 167 ล้านชิ้นในครึ่งปีแรก เติบโตกว่า 10.8% สะท้อนความสำเร็จกลยุทธ์ "ถูกและดี" ทำให้ผู้บริโภคและแม่ค้าออนไลน์หันมาใช้บริการเคอรี่ฯ เพิ่มขึ้น ลุยผนึกพันธมิตรรุกธุรกิจใหม่ พร้อมหาโอกาสซื้อกิจการต่อยอดธุรกิจ เสริมศักยภาพในอนาคต ตอกย้ำผู้นำจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทย
นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ผู้นำด้านธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 มีรายได้ 4,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 412 ล้านบาท หรือ 9.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และกำไรสุทธิ 336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 ล้านบาท หรือ 10.8% จากไตรมาสก่อนหน้า ที่อัตรากำไรสุทธิ 7.3% ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จของการเข้าถึงลูกค้า ด้วยการตลาดและการขายที่แข็งแกร่ง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การบริหารจัดการเพื่อควบคุมต้นทุน การพัฒนาแพลตฟอร์มโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้การดำเนินงานไตรมาส 2/2564 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ก็ตาม
โดยในครึ่งปีแรกของปี 2564 เคอรี่ เอ็กซ์เพรส มีปริมาณการจัดส่งพัสดุที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยมียอดการจัดส่งพัสดุทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (New High Record) กว่า 167 ล้านชิ้นในครึ่งปีแรกของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นถึง 10.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการความสำเร็จของกลยุทธ์ด้านราคาที่ทำอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการล็อคดาวน์หลายพื้นที่ ซึ่งทำให้มีการทำงานที่บ้านหรือ WFH มากขึ้น กระตุ้นให้มีการใช้จ่ายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น และด้วยจุดแข็งของเคอรี่ เอ็กซ์เพรสทั้งคุณภาพการให้บริการ รวมถึงราคาส่งพัสดุที่มี "ราคาถูก" ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มการจัดส่งราคาประหยัดมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับผลการโหวตของผู้บริโภคจากทั่วประเทศที่จัดโดยนิตยสาร Marketeer ยกให้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส เป็นแบรนด์ที่หนึ่งในใจผู้บริโภค โดยบริษัทได้รับรางวัล "Marketeer No.1 Brand Thailand 2020-2021" ในหมวดบริการจัดส่ง/โลจิสติกส์ เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ด้วยคะแนน 63.8% ทิ้งห่างอันดับ 2 ซึ่งได้คะแนนเพียง 19.1% โดยมีคะแนนชนะคู่แข่งในทุกภาคทั่วประเทศไทย สะท้อนถึงความเหนือระดับของแบรนด์ ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดมาอย่างต่อเนื่อง
"หลายธุรกิจประสบปัญหาและความยากลำบากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่ที่เคอรี่ เอ็กซ์เพรส เรามุ่งมั่น และไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาดและคล่องตัว ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นการให้บริการอย่างมีคุณภาพ ทำให้เรายังสามารถสร้างการเติบโตได้ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายนี้ โดยคาดว่าจะเห็นปริมาณขนส่งพัสดุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 สู่ไตรมาส 4 ซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ" นายอเล็กซ์ กล่าว
นายอเล็กซ์ ยังกล่าวถึงการบริหารจัดการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นในขณะนี้ว่า บริษัทได้ดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดและการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งต่อพนักงานและลูกค้า โดยการส่งเสริมสุขภาพที่ดีทั่วทั้งองค์กร ประกาศแคมเปญ KerryPrompt เพื่อกระตุ้นและตอบแทนพนักงานทุกคนให้เข้ารับวัคซีนอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าเกิดการหยุดชะงัก และไม่ให้เกิดปัญหาการขนส่งพัสดุกับลูกค้าปลายทาง แม้จะต้องขนส่งภายใต้มาตรการล็อคดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่อาจมีข้อจำกัด แต่บริษัทยังคงขนส่งไปถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัยและทันเวลา
ล่าสุดบริษัทยังได้จัดตั้ง "ทีมเฉพาะกิจ" สำหรับการสนับสนุนสภากาชาดไทย และองค์กรต่างๆ จัดส่ง "กล่องพ้นภัย" ซึ่งประกอบไปด้วย ยาฟาวิพิราเวียร์ ปรอท ที่วัดออกซิเจน หน้ากากอนามัย พาราเซตามอล เจลแอลกอฮอล์ และชุดอาหารพร้อมรับประทานต่างๆ ให้กับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่ดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน (Home Isolation) ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาเตียงไม่เพียงพอกับการรักษาผู้ป่วย ช่วยให้คนไทยฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน
นายอเล็กซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการรองรับพัสดุในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมเปิดให้บริการใหม่ร่วมกับพันธมิตรหลากหลาย ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับ Cold Chain หรือระบบคลังสินค้าและขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ รวมถึงการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่มากกว่า 30 กิโลกรัมขึ้นไป ล่าสุดบริษัทยังได้ต่อยอดสู่ "เคอรี่ วอลเล็ท" พัฒนาระบบวอลเล็ทเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โซเชียลคอมเมิร์ซ ที่เติบโตต่อเนื่อง และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อขายสินค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งจะเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าขาประจำใช้จ่ายเงินและร่วมกิจกรรมผ่านวอลเล็ทอย่างต่อเนื่องทั้งระบบ
นอกจากผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีฐานะทางการเงินและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.743 บาทต่อหุ้น แจ้งวันกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 25 สิงหาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 กันยายน 2564 ตามลำดับ
กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
เคทีซีคว้ามาตรฐาน ISO ต่อเนื่อง ยกระดับความมั่นคงไซเบอร์ เสริมเกราะข้อมูลลูกค้ายุคดิจิทัล
ไฮเออร์ ติดโผ Forbes World's Best Employers ปีที่ 9 ควบ Top Employer China 2025 สะท้อนพลังองค์กรแห่งอนาคต ที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในโลก
เปิดมุมมอง "อนิวรรต ศรีรุ่งธรรม" ผู้บริหารรุ่นใหม่ พลิกโฉมธุรกิจทองคำไทยด้วยเทคโนโลยี
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี
"ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป" จับมือ "เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)" เสริมแกร่งธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เปิดตัวโครงการ "Shama Sukhumvit 101"
กสิกรไทย ผนึกกำลัง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ อบก. Kubix และ Orbix Technology เปิดตัวโครงการนำร่องทดสอบการแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย
PwC ประเทศไทย เตือนธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือมาตรการตรวจสอบภาษีเข้มข้นหลังปฏิรูปครั้งใหญ่สู่สมาชิก OECD