บลจ. ไทยพาณิชย์ ลุยจ่ายปันผล 7 กองทุนรวดทั้งไทย-ต่างประเทศ วันที่ 19 และ 23 ส.ค. นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศรวม 7 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนหุ้นไทย 4 กองทุน กองทุน Super Savings (ชนิดเพื่อการออมพิเศษ) จำนวน 1 กองทุน และกองทุนหุ้นต่างประเทศ 2 กองทุน รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท แบ่งเป็นงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 2563 ถึงวันที่ 31 ก.ค. 2564 โดยกำหนดจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 19 ส.ค. 2564 มีจำนวน 5 กองทุน ได้แก่

บลจ. ไทยพาณิชย์ ลุยจ่ายปันผล 7 กองทุนรวดทั้งไทย-ต่างประเทศ วันที่ 19 และ 23 ส.ค. นี้

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBSE) จ่ายปันผลในอัตรา 0.7500 บาทต่อหน่วย โดยมีการจ่ายระหว่างกาลแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2564 และวันที่ 20 พ.ค. 2564 ครั้งละ 0.2500 บาทต่อหน่วย เหลือจ่ายงวดนี้ 0.2500 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 20 รวมจ่ายปันผล 8.2100 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2554) กองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach ด้วยการคัดเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด และสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น ซึ่งจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจของหุ้นนั้นโดยลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว นอกจากนี้ กองทุนนี้จัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564)

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBENERGY) จ่ายปันผลในอัตรา 0.1500 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 10 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 3.5700 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งเมื่อ 28 มิถุนายน 2554) กองทุนมีนโยบายการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคของตลาดหุ้นไทยมากที่สุด กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCBBANKING) จ่ายปันผลในอัตรา 0.200 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 8 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 3.9500 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งเมื่อ 28 มิ.ย.2554) กองทุนมีนโยบายการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหมวดธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของตลาดหุ้นไทยมากที่สุด

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBPIND) จ่ายปันผลในอัตรา 0.1354 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 6 รวมจ่ายปันผลแล้ว 0.9111 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2561) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดเพื่อการออม) จ่ายปันผลในอัตรา 0.1414 บาทต่อหน่วย โดยทั้งสองกองทุนมีนโยบายการลงทุนโดยเน้นการคัดสรรหลักทรัพย์รายตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในไทยและสิงคโปร์ นอกจากนี้ การกระจายวัคซีนที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้น จะส่งผลให้กองทุนได้รับประโยชน์ในระยะกลางถึงระยะยาว

สำหรับกองทุนหุ้นต่างประเทศอีก 2 กองทุน งวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 2564 - 31 ก.ค. 2564 โดยกำหนดจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 23 ส.ค. 2564 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรป (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBEUEQ) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2122 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 11 รวมจ่ายปันผลแล้ว 2.0017 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 26 ก.พ. 2557) กองทุนมีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ iShares STOXX Europe 600 (DE) โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี STOXX Europe 600 เพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี STOXX Europe 600 และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อิควิตี้ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBGEQ) จ่ายปันผลในอัตรา 0.3573 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 14 รวมจ่ายปันผลแล้วจำนวน 3.3618 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 14 ก.พ. 2556) กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ กองทุน Veritas Global Focus (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลก

นายอาชวิณ กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าในช่วงแรกความกังวลต่อการระบาดของ COVID-19 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าจะมีอิทธิพลต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังคงทรงตัวในระดับสูง ซึ่งทำให้เกิดการปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อป้องกันการติดเชื้อของประชากรที่เพิ่มขึ้นจนระบบสาธารณสุขไม่สามารถรองรับได้ ในขณะที่การกระจายการฉีดวัคซีนยังคงล่าช้าทำให้โอกาสการกลับมาเปิดประเทศในช่วงปลายปียังมีความท้าทายอยู่มาก โดยคงคาดการณ์ว่าการฉีดวัคซีนตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปจะเร่งตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อภายในประเทศมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 และคาดว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกให้กับตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในเรื่องการลดวงเงินอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ สงครามทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และเสถียรภาพของรัฐบาลจากการชุมนุมประท้วงที่เพิ่มขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

สำหรับภาพการลงทุนต่อตลาดหุ้นทั่วโลกมองว่ายังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง นำโดยประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีน ที่การกระจายวัคซีนมีความคืบหน้าอย่างมาก และประเมินว่าจะครอบคลุมในระดับที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายภาครัฐที่นำนโยบายขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล โดยสหรัฐฯ มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่สูงกว่าช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ในส่วนยุโรปเองก็กำลังจะเริ่มงบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ระหว่าง 0.5-1.5% ต่อปีต่อเนื่องไปอีก 3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ยังต้องจับตาได้แก่ การส่งสัญญาณปรับลดมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งอาจจะลดการฉีดสภาพคล่องเข้าระบบในปี 2022 และเริ่มทำการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2023 นอกจากนี้ยังมีสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.info/3dEjSFD


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุน TThai70ESGX และ TThaiESGX ช่วยลูกค้าบริหารภาษี - ลดหย่อนสูงสุด 800,000 บาท

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้น 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (TThai70ESGX) ชนิดเงินลงทุนพิเศษและชนิดเงินลงทุนเดิม พร้อมนำเสนอกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (TThaiESGX) ชนิดเงินลงทุนพิเศษ และชนิดเงินลงทุนเดิม ช่วยลูกค้าบริหารและลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 800,000 บาท นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan Managing Director of TISCOASSET) เปิดเผยว่า เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการบริหารจัดการภาษีได้มีทางเลือกการลงทุนใหม่

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริ... KTAM ร่วมส่งเสริมการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปล่อย 3 กองทุน "Thai ESGX" IPO 2 - 8 พ.ค.นี้ — นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จั...

บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4... บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX เปิดทางเลือกลงทุนแบบ Extra — บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX...

บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "อีสท์สป... บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "ES-GQG-UH" ลงทุนหุ้นคุณภาพดีทั่วโลก IPO 24-30 เม.ย. 68 นี้ — บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "อีสท์สปริง Global Quality...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำก... บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กส...

บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่... กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market — บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรร... บลจ.ทิสโก้เปิดกอง TGOV7M10 กองทุนรวมตราสารหนี้ อายุ 7 เดือน — บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 10 (TGOV7M10) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบ...