ต้อหิน.. ภัยร้ายดวงตา ป้องกันได้ก่อน 'ตาบอด'

สุขภาพของดวงตาเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องใส่ใจ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปดวงตาของเราอาจเสื่อมสภาพมีอาการตาพร่า ขุ่นมัว มองไม่ชัด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ 'โรคต้อหิน' สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการตาบอดอย่างถาวร

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคต้อหิน เมื่อรู้ตัวอีกทีก็สูญเสียการมองเห็นไปมากแล้ว ต้อหินเกิดจากความผิดปกติของความดันภายในลูกตาที่เพิ่มสูงขึ้นจนทำลายจอประสาทตา ทำให้สายตามัวลงและสูญเสียการมองเห็นในที่สุด

โรคต้อหิน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหิน ผู้ที่มีสายตาสั้นหรือยาวมาก ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตาหรือเคยมีอุบัติเหตุเกี่ยวกับดวงตา รวมถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ เป็นต้น

สำหรับโรคต้อหินยังไม่มีวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดได้ แต่หากได้รับการตรวจและรับการรักษาตั้งแต่แรกจะสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงในการสูญเสียดวงตาได้ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อหิน แนะนำให้เข้ารับการตรวจสุขภาพดวงตาทุกๆ 6 เดือน - 1 ปี

ข้อมูลดีๆ จาก.. พญ.ชมพูนุท ภูมิรัตนประพิณ จักษุแพทย์เฉพาะทางโรคต้อหิน ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลหัวเฉียว

มองไม่ชัด ตาขุ่นมัว เสี่ยง "โรคต้อกระจก" แพทย์ รพ.วิมุต เผย อายุเยอะเสี่ยงเป็น รีบป้องกันก่อนสูญเสียการมองเห็น

ในกลุ่มโรคต้อที่เกิดกับดวงตาของเรา "โรคต้อกระจก" ถือว่าพบได้บ่อยที่สุด และจริง ๆ แล้วโรคนี้ไม่ได้พบแค่ในผู้สูงอายุ เพราะคนอายุน้อยก็เป็นโรคนี้ได้จากปัจจัยเสี่ยงใกล้ตัวที่เราอาจไม่รู้มาก่อน เช่น รังสี UV, การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาบางประเภท โดยต้อกระจกทำให้เลนส์ตาขุ่นมัว ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น และหากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ วันนี้ พญ.จิรนันท์ ทรัพย์ทวีผลบุญ จักษุแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการโรคต้อหิน ศูนย์จักษุ รพ.วิมุต จะมาเผยปัจจัยกระตุ้นต้อกระจก

18 กุมภาพันธ์ 2568 08:38 น.

ต้อหิน.. ภัยร้ายดวงตา ป้องกันได้ก่อน 'ตาบอด'

ข่าวผู้สูงอายุ+โรคต้อหินวันนี้